Chapter one midtown
วันนี้กลับมาอีกครั้งกับโครงการพร้อมอยู่ครับ เท่าที่ผมสังเกตุนั้นโครงการนี้ผมเห็นคนรีวิวมาเยอะละ ดังนั้นผมขอพูดคุยแบบสั้นๆดีกว่าเนอะ แต่ถ้าเขียนเพลินๆอาจจะยาวได้ครับหุๆ เอาเป็นว่าเข้าประเด็นกันเลยครับ ณ เวลานี้ในตลาดมีโครงการพร้อมอยู่มากมายหลายโครงการ อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวผมว่ามีไม่กี่โครงการที่สามารถซื้อได้อย่างสบายใจครับ บางคนนึกในใจว่ามาแบบกำกวมอีกละเฮอๆ…ที่ผมหมายถึงซื้อได้คืออะไร???…พูดง่ายๆว่าซื้อไปแล้วไม่ปวดหัวเนื่องจากมูลค่าเพิ่มชัวร์ เช่าก็ได้ อยู่เองก็ดี Aftersales ก็เยี่ยม ซื้อห้องไปมีปัญหาก็ซ่อมให้ ไม่งอแง ตามงานง่าย ใช่แล้วครับ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือโครงการ Chapter One Midtown (ชื่อก็โชว์หลาอยู่ตรงหัวข้ออยู่แล้ว 55 เขียนลากยาวเพื่อ…) บางคนต้องสงสัยแน่ว่าทำไมผมถึงมั่นใจว่า Brand นี้ดีจังเพราะปกติจะไม่ออกตัวแรงมากนัก….มั่นใจซิครับ…เพราะทีมนี้ผมก็เป็นลูกค้าเค้าเหมือนกันนะ เอาง่ายๆตึกอายุ 5 ปีแล้ว ถ้าส่วนกลางมีปัญหายังไปซ่อมให้อะครับ มีบริษัทไหนทำให้แบบนี้ให้บ้าง ดีๆหน่อย 1 ปีมาซ่อมตามเวลาก็แทบจะยกมือไหว้ละ บางที่ 2 ปี ไม่งอแงผมเรียกว่าผู้มีพระคุณต่อโครงการและลูกบ้านแล้วครับ ผมทำงานร่วมกับเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ดังนั้นผมจะทราบเกือบหมดว่าแต่ละ Developer นั้น Nature เป็นยังไง สำหรับผมแล้วทีมนี้ผ่านมาตราฐานระดับสูงของผมครับหุๆ ถึงความไม่เรียบร้อยจะมีให้เห็น แต่ถ้ามีคนแจ้งไปรับรองมี Action ทันทีครับ เอาละโครงการนี้ซื้อได้ละ เรามาดูองค์ประกอบของโครงการนี้ดีกว่าว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง เนื่องจากโครงการนี้เสร็จแล้วเราจะเห็นภาพกันชัดขึ้น จะได้ตัดสินใจกันไปเลยว่าชอบอะเปล่า
เพราะอะไรโครงการ Chapter One Midtown ถึงน่าสนใจ(เต้เอ๊ย หัวข้อม่ายขายของเลย) เอ๊าก็ของดีก็จะช่วยขายอะบอกตรงๆ…
Location
ใกล้รถไฟฟ้ามากมาย โดยตัวโครงการห่างจาก MRTลาดพร้าว เพียง 120 เมตร เอาจริงๆแค่นี้ก็จบแล้วครับ แต่ถ้าแค่นั้นยังไม่พอ ในเวลาอันสั้นนี้ที่ MRT ลาดพร้าว จะมี Gourmet Market ขนาดประมาณ 2,000 ตารางเมตรมาเปิดด้วยครับ ผลที่ตามมาก็คือ ความแห้งแล้งแถวนี้จะหมดไป เพราะขึ้นจากรถไฟฟ้าสามารถแวะซื้อของก่อนเข้าบ้านได้เลยครับหุๆ ดีจะตาย นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ใกล้ Central ลาดพร้าว ด้วยครับเพราะถัดไปเพียง 1 สถานี อีกทั้งโปรเจคใหม่ของ Gland ที่ร่วมทุนกับ BTS บริเวณพหลโยธินเยื้องๆแดนเนรมิตเก่าก็กำลังจะมา โดยภายใน Project นี้ได้ยินว่ามาครบซึ่งจะมาในลักษณะ Mixed-use ไม่ว่าจะเป็นสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ที่พักอาศัย เอาจริงๆนะครับผมว่า Location บริเวณนี้ถือว่าน่สนใจไม่น้อยเลยครับ
Interior&Exterior
บางคนงงว่าทำไม Interior&Exterior โครงการนี้น่าซื้อ…ในหัวข้อนี้ผมมองลึกลงไปอีกครับ เนื่องจาก Interior&Exterior ของโครงการ Chapter One Midtown นั้นแปลกครับ ยิ่งมองย้อนไปเมื่อ 2-3 ปี ช่วงเปิดโครงการในช่วงนั้นไม่มีใครพูดถึงงาน Interior หรือ Exterior ในรูปแบบของ Loft หรือ Industrial เท่าไหร่เลยครับ แต่ข้อดีของการออกแบบในแนว Loft หรือ Industrial นั้นคือ ดูแลง่าย ดูดีนานเพราะเป็นการนำ Style การออกแบบในช่วงยุคสมัยหนึ่งในอดีตมาลดทอน ปรับเปลี่ยนให้มีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น ดังนั้นงานออกแบบในแนวนี้จะอยู่ได้นานกว่าแนวฟรุ้งฟริ้งครับ ถ้าพูดให้เห็นภาพยิ่งขึ้น ผมถามว่า New Beatle หรือ Mini ดู Dated ไหมละครับ…สำหรับผมแล้วอารมณ์เดียวกันกับงาน Style นี้ครับ อย่างไรก็ตามงานออกแบบในรูปแบบนี้อาจจะไม่ได้ดู WoW ในวินาทีแรกที่เห็น แต่ถ้าอยู่ด้วยนานๆแล้วไม่เบื่อนะ ผมแนะนำลองไปดูโครงการเก่าๆที่ทีมนี้ทำดูครับ เพราะทีมนี้จะเก่งในเรื่องของการผสมผสานของเก่ากับของใหม่เข้าด้วยกัน ดูอย่างชัดๆ เช่น The Seed Musee หรือ The Seed Memory Siam 2 โครงการ นี้อายุมากกว่า 5 ปีแล้ว แต่งาน Design ทั้งภายนอกและภายในนั้นยัง Against the time มีความร่วมสมัยอยู่เลย 55 พูดง่ายๆคือยังดูดีอยู่เลยครับ ผมถือว่าเป็นข้อดีของความไม่ฟรุ้งฟริ้งนะครับ
Facilities
มาใหญ่และมากมาย ชนิดที่ว่าเล่นซ่อนแอบกันได้ครับ เพราะมาถึง 2 ตึก เลยครับ โดยมีที่ตึกของที่พักอาศัย และตึกจอดรถครับ สำหรับ Part นี้ผมจะพูดกว้างๆนะครับ อาจจะไม่ลึกมาก
Lobby
ขนาดใหญ่มาก ปกติจะไม่เห็นทีมนี้ให้ Lobby ใหญ่ขนาดนี้ แต่โครงการ Chapter One Midtown มาอลังมากครับ และเป็นแบบ Double Volume ด้วยครับงาน Interior ก็ออกแนว Loft หน่อยๆ Industrial นิดๆ เหมือนเดิมครับ
Pool+Sunken Seat+Working Area
สระว่ายน้ำแบบ Freeform ที่ชั้น 36 วิวสวยมากเพราะเป็นสระว่ายน้ำแบบ Freeform+ infinite edge pool สำหรับผมแล้ว ณ โครงการราคานี้ในเมือง ผมให้เป็นสระว่ายน้ำที่สวยในระดับต้นๆในกรุงเทพเลยครับ นอกจากนี้ตัว Landscape เริ่มจากส่วนที่เป็นพื้นขอบสะว่ายน้ำจากสระดึงยาวไปถึงส่วนที่เป็น Sunken โดยมีจุดนั่งชมวิวเมืองที่รายล้อมด้วยน้ำ ร่วมทั้งส่วนที่ให้ทำงานที่สามารถ ชมวิวเมืองได้ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ที่ Working Area ทางโครงการจะมีปลั๊กไฟฝั่งอยู่ที่พื้นให้เสียบอุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยนะครับ เช่นใครเอาคอมพิวเตอร์ หรือมือถือมานั่งทำงานพอแบตหมดก็ Charge ไฟได้ ออกแบบมาให้เพื่อใช้งานได้จริงๆนะ
Pool
Sunken Seat
Working Area
Sky Fitness+Sky Lounge +Sky Island
ขึ้นมาอีกชั้นกับชั้นที่ 37 สวยงามตามท้องเรื่องกับ Sky Fitness เห็นสระว่ายน้ำยาวๆและวิวเมืองทั้งหมดครับ นอกจากนี้ในห้องติดกันยังมี ห้องสมุดให้นั่งทำงานและนั่งอ่านหนังสือชิวๆ อย่าง Sky Lounge อีกด้วยครับ จากชั้นที่แล้วมี Outdoor ให้นั่งทำงาน มาชั้นนี้มี Indoor มาให้อีก มาแบบจัดเต็มมะเอยหุๆ สำหรับส่วนสุดท้าย คือ Sky Garden ก็สวยๆตามท้องเรื่องครับ ออกแบบมาให้ใช้งานได้จริงครับ ไม่ใช่แค่มีให้ผ่าน EIA ครับ
Sky Fitness
Sky lounge
Sky Island
ตึกแลกจบไปครับ มาตึกที่ 2 กันครับ เห็นมะว่าเยอะจริง55 สำหรับตึกนี้ Highlight ก็คือ
Tennis Court
มาขนาดเท่าสนามจริงเลยครับ โดยจะมี Spotlight ให้ใช้เล่นในเวลากลางคืนด้วยครับก็สวยๆดีงามตามท้องเรื่อง
Mulit-Purpose Room
พูดแบบภาษาชาวบ้านๆก็คือห้องสำหรับนั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือครับก็ได้ครับ เอาเป็นว่าตึกนี้มีห้องให้นั่งทำงานและอ่านหนังสือถึง 3 จุดแล้วนะครับโฮ๊ะๆถึงชื่อจะต่างกัน แต่จุดประสงค์ในการทำงานนั้นคือๆกันครับ
Garden
อยู่บริเวณ Tennis Court กับ Co-Working Space อีกเช่นกัน ขนาดและการออกแบบใช้งานได้จริง
สรุปแล้วส่วนกลางที่มาแบบเป็นการเป็นงานของโครงการนี้มาด้วยกันถึง 9 จุดครับ แต่จำนวนมีเพียง 518 ยูนิตซึ่งผมถือว่าส่วนกลางที่นี่ให้เยอะมากครับ ดังที่กล่าวไว้ในตอนแรกว่าส่วนกลางที่นี่เล่นซ่อนแอบกันได้เลยนะหุๆ
Room
มาแบบ Fully furnish ครับ มาแต่ตัวก็เข้าอยู่ได้เลย งาน Furniture นั้นก็เป็นแนวถนัดของทีมนี้อยู่แล้วครับ Spec งานเฟอร์นิเจอร์ในภาพรวมนั้นถือว่าดูดีนะครับ งาน Built in ก็มาเต็มครับ ชนฝ้าหมด ชนผนังหมดครับ ไม่มาแบบลอยๆนะ งาน Laminate ปิดผิวเฟอร์นิเจอร์ ก็สวยครับ ชุดครัว Spec ก็ถือว่าผ่านครับ อาจไม่แจ่มมากแต่ก็ไม่แย่ครับถ้าเทียบกับราคาโครงการ นอกจากนี้ใครซื้อรอบหลังๆนี้ทางโครงการมีเครื่องใช้ไฟฟ้า และผ้าม่านให้ด้วยนะครับ คือซื้อแล้วก็ลากกระเป๋าเข้าห้องได้เลย ถ้าปล่อยเช่าก็ไม่ต้องแต่งอะไรแล้วจะให้หรูนิดนนึงอาจจะติดกระจกเงาเพิ่มสักนิด Wallpaper สักหน่อยแค่นี้ก็แจ่มละครับ ในภาพรวมไม่มีอะไรติมากนะครับกับโครงการตารางเมตรละแสนนิดๆในเมือง แต่ถ้าจะ Comment สักนิดหน่อย คงเป็นชักโครกกับฝักบัว น่าจะดีกว่านี้อีกนิดนึงครับ แต่ถ้าคนซื้อไม่ติดอะไรใน Part นี้ก็มองข้ามๆไปก็ได้ครับ ไม่ได้เป็น Issue อะไรเท่าไหร่ครับ
Living room
Bedroom
Kitchen
Toilet
Balcony
Analysis investment potential
แปลกแต่จริง…โครงการของทีมนี้ช่วงก่อนปิดโครงการจะขายเรื่อยๆ หรือบางโครงการกว่าจะขายหมดก็เกือบแย่แต่…ทุกโครงการของทีมนี้…พอโครงการขายหมดสัก 1 ปีปุ๊ป ราคากระฉูดเกือบทุกโครงการ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร แต่สังเกตมาหลายโครงการแล้วครับว่ามา Pattern นี้ตลอด นอกจากนี้เกือบทุกโครงการของทีมนี้ถ้าอยู่ในเมืองก็เช่าค่อนข้างดีด้วยครับ สำหรับอัตราค่าเช่าของโครงการนี้ห้อง Studio เริ่มต้นอยู่ที่ 13,000 บาท สำหรับห้อง 25 ตารางเมตร สำหรับ 1 ห้องนอนขนาด 30 15,000-17,000 ครับ อาจจะบวกลบนิดหน่อย ขึ้นอยู่กับชั้น วิว และการตกแต่งครับ
อีกหนึ่งข้อได้เปรียบของโครงการนี้ที่ผมมองว่าโครงการอื่นไม่มีคือ ปกติแล้วพอโครงการอายุมากขึ้นงานส่วนกลางจะเริ่มโทรมลง ยิ่งโครงการที่ฟรุ้งฟริ้งยิ่งโทรมง่าย แต่สำหรับโครงการนี้จะเก่ายากนิดนึง เนื่องจากงาน Exterior และ Interior ที่ออกแบบมาในแนวร่วมสมัย+วัสดุที่ใช้นั้นดูแลรักษาง่ายจึงทำให้โครงการนี้น่าจะเก่ายากครับคิดง่ายๆ อิฐจะดูเก่ายังไงอ่า วัสดุหลักๆก็เป็นเหล็ก กับอลูมิเนียมด้วย ผมว่าทนสุดๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อการรีเซลต่อไปในอนาคตด้วยครับเพราะโครงการนี้จะดูโทรมยากนิดนึงครับ
สำหรับการซื้อเพื่ออยู่เองนั้น ตามที่ผมกล่าวไปในข้างต้นเลยครับ Developer ดี ส่วนกลางดี ราคา(เดี๋ยวไปต่อรองกันเองแต่ผมมั่นใจว่า เดี๋ยวได้ราคาที่พอใจแน่ เพราะแอบไปกระซิบถามมาให้แล้ว เครดิต Card บนโต๊ะแล้วคุยกันได้) Location ถือว่าแจ่มครับโครงการติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า ดังนั้นถ้าใครหาคอนโดแถวนี้ผมยังคงให้เป็น First choice เพราะถ้าไม่ติดเรื่องงาน Interior ที่อาจจะติ๊ดๆเบาๆ เอาจริงๆผมไม่มีเหตุผลที่จะไม่ซื้อนะครับถ้าอยากได้โครงการแถวนี้สักโครงการ สำหรับผมแล้วถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ผมว่าซื้ออยู่เองก็ได้ เช่าก็น่าจะดี ลงทุนก็เยี่ยม ที่สำคัญคือ ซื้อแล้ว Developer ไม่ทิ้งคุณแน่…
แล้วถ้าเทียบกับโครงการข้างเคียงละ…โครงการนั้นตารางเมตรละ 1.5 แสนบาท ดีดตัวเลขไปมาห้องขนาด 30 ตารางเมตร ราคาห่างกันประมาณเกือบ 1 ล้านบาท Location ห่างกันประมาณ 1xx เมตรนิดๆ ผมว่าตัวนี้ดูน่าสนใจกว่านะครับ ประหยัดได้ตั้งเกือบ 1 ล้านบาท
At the end
ความจริงพูดไปเกือบหมดแล้วครับ 55 พูดไปเหมือนจะวนไปวนมาครับ แต่ขอสรุปสั้นๆอีกนิดดีกว่า Chapter One Midtown อาจจะไม่ใช่โครงการที่เห็นแล้ว WoW สำหรับใครหลายๆคน เนื่องจากงาน Exterior หรือ Interior ซึ่งอาจจะแตกต่างจากโครงการอื่นในตลาด แต่ถึงหน้าตาจะแปลกกว่าโครงการอื่นๆในกรุงเทพ แต่ถ้าเป็นอาหารผมรับรองว่ากินอร่อยนะถึงหน้าตาจะไม่ได้สวยเหมือนจริตนิยมที่เห็นกันในตลาดในเวลานี้ แต่ผมว่ามีเสน่ห์เฉพาะตัวไม่เหมือนใครดีครับ ถามว่าซื้อไหม…ถ้าคุณต้องทำงานโดยที่ต้องใช้รถไฟฟ้าเส้นนี้ หรือทำงานบริเวณนี้ ชอบพื้นที่ส่วนกลางเยอะๆ ผมว่าโครงการ Chapter One Midtown จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ผมแนะนำให้ซื้อได้อย่างสบายใจ ไม่มี Hidden Agenda แต่อย่างไรครับ
สุดท้าย ท้ายสุด สำหรับปัจจัยสุดท้ายที่หลายๆคนสงสัยว่าทำไมผมถึงยังไม่พูดสักที…ไม่ลืมครับแต่อยากจะนำมาปิดตอนสุดท้ายครับ สิ่งนั้นก็คือรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่สุดท้ายจะมาบริเวณโครงการเลยครับ ซึ่งหลังจากมาแล้วจะทำให้สถานีนี้แปลงร่างเป็น Interchange ทันที อย่างไรก็ตามผมไม่ได้พูดในตอนแรกเนื่องจาก ผมคิดว่าแค่ปัจจัยในเรื่องของ Location ณ เวลาปัจจุบัน+ส่วนกลาง+ราคา ก็เพียงพอที่จะให้ซื้อโดยไม่ต้องคิดถึงปัจจัยอื่นได้แล้ว ประกอบกับรถไฟฟ้ากว่าจะสร้างเสร็จน่าจะใช้เวลาอีก 4-5 ปีดังนั้น ผมจึงไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ณ เวลานี้เท่าไหร่ครับ ต่อจากนี้ไปเมื่อรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเริ่มใช้ ผมถือว่าเป็น Benefit on top ให้โครงการต่อไปในอนาคตครับ รู้สึกผมชมโครงการนี้เยอะไปไหมเนี่ยหุๆ มันเป็นเรื่องจริงน๊า55 เขียนจากใจ No Script ครับหุๆ ไปละคร๊าบได้เวลาไป Shopping ที่ Bicester ละใครมาอังกฤษ ไม่ควรพลาดนะครับเป็น Outlet ที่ดีที่สุดของอังกฤษแล้วครับ Gucci, Prada, Dior, Balenciaga มาครบครับ ถ้าแบบเบาๆหน่อยพวก Coach หรือ Polo ก็มานะ…ไปละ Bye Bye
ปล. กว่าจะเขียนบทความนี้เสร็จโครงการก็เหลือแค่ 4 ห้องละครับ ส่วนราคาผมว่าประมาณ 1.1-12 แสน บาท/ต่อตารางเมตรก็จัดไปได้เลยครับ หาที่ได้ที่โครงการในเมืองราคาต่อตารางเมตร 1 แสนจิ๊ดๆ ที่เปิดใหม่ตอนนี้สถานีไกลๆเมือง ถ้าใกล้รถไฟฟ้าก็ซัดไปแสนกว่าหมดแล้วครับ…แล้วจะรอเพื่ออะไรจริงมะครับ…