The Politan Aqua
มีใครไม่ชอบอยู่โครงการที่มีส่วนกลางใหญ่ๆ บ้างครับ ถ้าเป็นไปได้ ออกแนวหรูๆ หน่อยก็ยิ่งดี แต่ปัญหาของโครงการเหล่านี้ที่ใครหลายๆ คนอยากได้ แต่ไม่สามารถจับต้องได้ เนื่องจากราคาที่ไม่ธรรมดา ความจริงแล้วโครงการที่ส่วนกลางหรูๆ และขนาดใหญ่ๆ นั้น ราคาก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ราคายิ่งไปไกลกันใหญ่เลยครับ แต่สำหรับโครงการ The Politan Aqua ไม่ใช่ครับ….ก่อนที่เราจะพูดคุยถึงราคา เราไปดูรายละเอียด เช่น งานส่วนกลางกันก่อนดีกว่า ‘The Politan Aqua’ เป็นโครงการริมแม่น้ำครับ นอกจากนี้ สำหรับงานส่วนกลางนั้นจะมีอยู่ 2 ส่วน นั่นคือ ส่วนที่เป็นClub houseที่สร้างแยกออกมาจากตึก ซึ่งตอนนี้ได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถไปดูที่โครงการได้เลย และอีกหนึ่งส่วนนั้นจะอยู่ภายในตึกครับ ซึ่งวันนี้ผมจะมากล่าวถึงส่วนนี้ด้วย โดยผมเชื่อว่าไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน เรามาเริ่มกันที่ Club house กันก่อนดีกว่า
Facilities
ณ ช่วงเวลานี้ ผมเห็น Developer หลายๆ เจ้านั้น…ไม่สิ….ผมต้องเรียกว่าเกือบทุกเจ้านำวัสดุประเภทหินอ่อนมาใช้ในงาน Interior เอาจริงๆนะ….มีเพียงไม่กี่เจ้าหรอกครับที่จะนำหินอ่อนที่ค่อนข้าง Exotic มาใช้ในงานส่วนกลางจริงๆ เพราะส่วนใหญ่แล้วจะใช้หินอ่อนบ้านๆ ราคาไม่แพงแต่มาโม้ได้ว่า โครงการฉันใช้หินอ่อนนะ…ขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อโครงการละกันนะครับ55 เรามาดูกันว่าสำหรับโครงการนี้ใช้หินอ่อนอะไรบ้างโดยผมจะดึงหินออกมาแต่ละชนิดแล้วบอกเลยว่าถูกหรือแพงจะได้เห็นภาพกันชัดขึ้น…
Club house
หินที่ใช้ใน Club house นั้นจะค่อนข้างผสมผสานแต่ตัวเด่นๆ หลักๆแล้วจะเป็นประมาณนี้ครับ
Phantom white
เป็นหินที่นำมาใช้ทำ Book match ครับ ถ้าใครไปที่โครงการก็จะเห็นหินตัวนี้อยู่ที่ผนังของ Club house ที่ ชั้น 1 ครับ ความเด่นของหินก้อนนี้คือ พื้นสีขาวแต่ตัดด้วยเส้น Vein สีดำขนาดใหญ่ สำหรับค่าตัวของหินตัวนี้ ถ้าราคาขายปลีกจะตกอยู่ที่ตารางเมตรละหมื่นกว่าบาทซึ่งค่อนข้างสูงมากถ้าเทียบกับหินอ่อนชนิดอื่นๆ โดยถ้าไม่นับโครงการนี้ เราจะพบหินก้อนนี้อยู่ที่โครงการระดับ luxury จนถึง Super luxury โดยโครงการที่ผมเห็นว่าใช้หินก้อนนี้ก็จะมี Edge by Sansiri และ The Monument Sanampao ซึ่งค่าตัวของ 2 โครงการนี้จะอยู่ที่ตารางเมตรละ 2xx,xxx บาท แพงมะ?
Honey Onxy
ปีที่ผ่านมาหินตัวนี้มาแรงมากครับ โดยสีของหินชนิดนี้จะมีหลายสีมาก เช่น สีฟ้า สีชมพู สีขาว แต่ที่โครงการใช้คือสีเหลืองครับโดยมีชื่อว่า Honey Onxy ซึ่งความเด่นของหินก้อนนี้ก็คือแสงสามารถผ่านหินได้สำหรับ ค่าตัวของหินก้อนนี้ก็ถือว่าไม่ถูกอีกเช่นกัน เพราะตกตารางเมตรละเกือบ 1 หมื่นบาทกันเลยทีเดียว โครงการที่ใช้หินตัวนี้เยอะๆ ซึ่งเปิดขายไปเมื่อปีที่แล้วนั้นก็คงไม่พ้นโครงการ Celes สำหรับค่าตัวของโครงการ Celes จะอยู่ที่ตารางเมตรละ 25x,xxx บาท
Palissandro Bluette
ตัวนี้ถือว่าเป็นหินอีกตัวที่มีมูลค่าค่อนข้างสูงมาก เพราะความเด่นของหินตัวนี้จะอยู่ที่สายแร่ที่เป็นสีฟ้า ความจริงแล้วหินตัวนี้มีหลายเกรดมาก โดยเกรดดีหรือไม่ดีนั้นจะอิงจากสายแร่ในเนื้อหินว่าสวยและเป็นเส้นแค่ไหน สำหรับ Palissandro Bluette ของโครงการนี้ผมต้องยอมรับจริงๆ ว่า ทางโครงการเลือกเอาหินที่สวยมากก้อนหนึ่งเท่าที่ผมเห็นมาเลยครับ
อีกเช่นกันโครงการได้ทำ Book match หลายแผ่นกับหินก้อนนี้นอกจากนี้ ผนังบางส่วนนั้นก็มีการนำ Palissandro Blutte มาต่อลาย โดยถ้าใครมาโครงการจะเห็นหินก้อนนี้อยู่ที่ชั้น 2 ครับ สำหรับค่าตัวของหินก้อนนี้ ราคาขายหน้างานจะตกอยู่ที่ตารางเมตรละประมาณ 1 หมื่นบาทกลางๆบวกลบนิดหน่อย โดยถ้านำมาทำ Book Match แล้วราคาอาจจะสูงกว่านี้อีก สำหรับโครงการที่ใช้หินตัวนี้ค่อนข้างมากก็คงหนีไม่พ้นโครงการ Vittorio ครับ สำหรับราคาของโครงการ Vittorio นี้ก็ไม่มากหรอกครับเพราะ ราคาขายต่อตารางเมตรอยู่แค่ 3xx,xxx บาทเอง
White Venus+Olan Black
สำหรับ White Venus กับ Olan Black จะนำมาใช้กับพื้นของคลับเเฮ้าส์ทั้งหมด สำหรับหินสองตัวนี้ โดยเฉพาะ White Venus ถือเป็นหินสุดฮิตและคลาสสิคมาก ซึ่งเราจะสามารถพบเห็นหินเหล่านี้ได้จากโครงการ Segment luxury ทั่วไป อย่างโครงการที่ค่อนข้างเด่นชัดก็จะเป็นโครงการ Keyne by Sansiri ที่ติด BTS ทองหล่อ ซึ่งค่าตัวจะอยู่ที่ตารางเมตรละ 2 แสนกว่าบาท สำหรับหินนั้นตกตารางเมตรละ 2-3 พันบาทครับ
Silver Grey Quartzite
ซึ่งเป็นหินนำเข้าจากประเทศอินเดีย โดยลักษณะของเนื้อหินจะมีสายแร่สีเงินและสีดำอยู่ภายในเนื้อหิน ซึ่งเมื่ออยู่ในน้ำและมีแสงตกกระทบจะทำให้เนื้อหินสะท้อนกับแสงเป็นประกายระยิบระยับ ค่อนข้างสวยมากครับ โดยหินตัวนี้จะอยู่ที่ The Reserve สุขุมวิท 61 โดยค่าตัวของโครงการนี้อยู่ที่ตารางเมตรละ 2xx,xxx บาท กว่าๆเอง
บางคนอาจจะไม่เห็นภาพว่าใช้หินแล้วแพงอย่างไร…ถ้าเป็นโครงการทั่วไปที่ปูด้วยกระเบื้องนั้น ราคากระเบื้องตกตารางเมตรละ 1xx-2xx บาท หรือเอาอย่างหรูหรืออย่างแพงหน่อยก็ยังอยู่ในช่วงหลักร้อยครับ เป็นอย่างไรบ้างครับ พอจะเห็นภาพหรือยังครับหุๆว่าโครงการที่ใช้กระเบื้องเป็นส่วนประกอบหลัก ถ้าเทียบกับหินนั้นแตกต่างกันแค่ไหน
รูป Club house
จบกันไปแล้วกับ Club house เรามาดูกันดีกว่าว่าภายในตึกนั้นจะใช้หินอะไรกับงานส่วนกลางบ้าง อย่างไรก็ตามสำหรับหินที่ใช้ส่วนกลางภายในตึกนั้นอาจจะยังไม่ Final นะครับเพราะทางโครงการแจ้งว่าอาจจะมีการปรับเพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ของหิน ณ ช่วงเวลานั้นด้วย ดังนั้นสำหรับใน Part นี้ ผมจะพูดในภาพรวมของส่วนกลางและจะแซมๆ ด้วยชนิดของหินที่คิดว่าไม่น่าจะเปลี่ยนแน่ๆ ด้วยดีกว่า สำหรับโครงการนี้ได้อัพเกรดงานส่วนกลางภายในตึกใหม่ เรามาดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง
Lobby
สำหรับ Lobby นั้น ถือว่าเป็นภาพอัพเกรดใหม่ ซึ่งยังไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ในองค์รวมสวยมากครับ เท่าที่เห็นพื้น Lobby น่าจะเป็นหินอ่อนสีขาวซึ่งก็มีอยู่หลายตัวเหมือนกัน แต่ผมไม่สรุปนะครับว่าเป็นตัวไหนเพราะมีความเป็นไปได้ว่าหลายตัวอยู่ สำหรับผนังและเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากหินผมว่าน่าจะเป็นตระกูล Emperado ครับ ค่าตัวหินอยู่ที่ตารางเมตรละ 2,xxx บาทครับ
Pool
นอกจากสระว่ายน้ำที่อยู่บริเวณ Club house ชั้นล่างแล้วทางโครงการยังมีสระว่ายน้ำบนตึกด้วยนะครับ ขนาดของสระนั้นถือว่าใหญ่มาก โดยไฮไลท์ของสระว่ายน้ำนี้นอกจากขนาดของสระที่มาแบบอลังการแล้วก็คงเป็นเสาหินอ่อน Black Marquina แต่เอ๋!!!! คล้ายๆ Ashton Asoke หรือเปล่าน๊าาา 55 แต่ของ Ashton Asoke ยังไม่มานะรอแพร๊บบบบบ
Fitness
เห็นแล้วจะเป็นลม (อีกครั้ง) งาน Interior อย่างกับโครงการตารางเมตรละ 3 แสน เครื่องเล่นให้รุ่นแบบนี้จริงๆ นะคร๊าบ การปูพื้นด้วย Pattern แบบนี้ ใครที่ตาม Facebook ผมอยู่น่าจะเห็นว่าการปูพื้นแบบนี้จะอยู่แต่ในโครงการ Super luxury เท่านั้นเช่น Esse สุขุมวิท 36 หรือ The Reserve สุขุมวิท 61 สำหรับหินที่ใช้ในห้องนี้น่าจะเป็นตระกูล Emperado (ค่าตัวตารางเมตรละ 2,xxx บาท)
Co-Working Space
สวยหรูและดูดีมากวัสดุที่ใช้ในการปูพื้นและกรุผนังเป็นหินอ่อนหมด งาน Interior ทำออกมาได้แพงดี ขนาดพื้นที่ใหญ่และใช้งานได้จริง ดูขนาดกระจกของห้องแล้วจะเป็นลม ของจริงใหญ่แบบนี้จริงๆ นะครับ
Game Room
มีกลิ่นความเป็น Lobby ของ โครงการ Ashton Asoke-Rama 9 ไม่น้อยเลยนะครับ สวยม๊ากกกกก สำหรับค่าตัวของโครงการ Ashton Asoke-Rama 9 อยู่ที่ตารางเมตรละ 2-3 แสนบาท ตะลึงกันเลยใช่ม๊า
Golf room
มาครบจริงๆ แม้แต่ Golf Room ก็ยังมาหรือครับสวยงามอีกเช่นเคย
Meeting room
สวย สวย สวย อีกเช่นเคย พื้นเป็นหินอ่อน Featuring ด้วยกระจกชาทองและกรุผนังต่อด้วยลามิเนตลายไม้
Sky lounge
โรงแรม 5 ดาวยังอายเลยครับ งาน interior สวยงามมาก Classy Luxury Fabulous ไม่รู้ว่าจะบรรยายอะไรเลยครับ สำหรับไฮไลท์ของ Sky lounge นอกจากการตกแต่งระดับเวิลด์คลาสแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากและดูแพงมากก็คือหินอ่อน Black marquina สีดำที่พื้น สลบแพร๊บ หินตัวนี้ราคาใช่เล่นอยู่ ถ้าลายสวยๆ หน่อยก็จะตกตารางเมตรละประมาณ 5,xxx บาทเลย ชอบม๊ากก
Waiting Area
คุณพระ!! พอเห็นภาพนี้แล้วเต้ตกใจมากเพราะหินอ่อนที่นำมาใช้นั้นเป็นตัวเดียวกับ The Monument ทองหล่อ ซึ่งเป็นคอนโดตัวท็อปของแสนสิริเลยครับเมื่อวานเจอโปรเจคที่ดูแล The Monument ทองหล่อ ผมบอกโปรเจคว่า หินของโครงการนี้ไม่ Unique แล้วนะเพราะโดน The Politan Aqua เอาไปใช้แล้วเหมือนกัน 55 ครั้งแรกที่ผมเห็นภาพ CG ของ The Monument ทองหล่อ นั้น ผมยังตะลึงกับความสวยงามของหินอ่อนตัวนี้ที่มาทำ Book match ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโครงการ The Politan Aqua จะนำหินตัวนี้มาใช้ในโครงการด้วย ประทับใจเกินคำบรรยาย ในบรรดาส่วนกลางทั้งหมดที่เวอร์วังอลังการนั้น ผมชอบห้องนี้ที่สุดแล้วครับ เพราะผมว่าน่าจะเป็นห้องที่แพงที่สุดห้องหนึ่งของโครงการนี้เลยครับ
จบแล้วครับจบงานส่วนกลางภายในตึก ซึ่งยังไม่มีใครเคยได้เห็นและรีวิวมาก่อน เอาจริงๆ นะครับอย่าโกรธผมนะ The Politan Aqua เหมือน Copy งานส่วนกลางของคอนโดใน Segment Luxury – Super Luxury มาจากเกือบทุกโครงการในกรุงเทพเลยครับ แต่ผมไม่ซีเรียสนะ ถ้าผมจะซื้อโครงการนี้ จะซีเรียสทำไมในเมื่อเราจ่ายค่าห้องในราคาล้านกว่าบาทแต่ได้ใช้ส่วนกลางเหมือนคอนโดราคาห้องละสิบกว่าล้านจริงไหมครับ?
สุดยอดมากขอชมจากใจจริง ย้ำอีกครั้งนะครับว่าจากใจจริง งานส่วนกลางที่นี่ ดีทะลุเกิน segment ดีกว่าทุกโครงการที่ผมเคยรีวิวมาก่อนหน้า สำหรับของคอนโดใน segment นี้เลยครับ ถ้าไม่ดู Spec ห้องนั้น ส่วนกลางของโครงการนี้ผมสามารถพูดได้เลยครับว่าเป็นส่วนกลางของคอนโด Super Luxury แล้วครับเพราะวัสดุที่ใช้นั้น Premium และแพงมากจริงๆ เรามาดูกันในห้องต่อดีกว่าว่ามีอะไรอัพเกรดให้บ้าง…
Room
ที่มาเขียนเพิ่มในวันนี้ เพราะทางโครงการแจ้งว่า โครงการจะอัพเกรดสเปคห้องให้ครับ พอผมทราบ Spec ห้องใหม่แล้วยังตกใจ (คนซื้อก่อนจะงอนไหมเนี่ย) เพราะอะไร? สำหรับสเปคที่มีการอัพเกรดขึ้นมาก็คือ ทางโครงการจะมีโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้าให้ แต่ตู้เสื้อผ้าไม่ธรรมดานะครับเพราะวัสดุที่ใช้จะเป็น หน้าบานกระจกสีชาทอง พร้อมอลูมีเนียมสีแชมเปญ และซ่อนไฟ LED อีกด้วยเหมือน The Reserved ทองหล่อ เลยครับ (ไปเอาของเขามาอีกแล้วอ่ะ55) นอกจากนี้ยังมี โซฟา โต๊ะกลาง และตู้ทีวีด้วยนะแต่….ถ้ามีแค่ตู้ทีวีคงจะธรรมดาไป….ดังนั้นโครงการได้ Built in หน้าบานกระจกชาทองตัดด้วยเฟรมอลูมิเนียมสีแชมเปญและซ่อนไฟแอลอีดีภายในตู้ให้ด้วยนะครับ สำหรับตู้ทีวีจะใช้ High gloss เป็นวัสดุในการปิดผิว อีกด้วย เห็น Spec ตัวนี้แล้วทำให้คิดถึง Urbano Signature 55 แต่เป็น Version อัพเกรดนะ เพราะอลูมิเนียมใช้เป็นสีแชมเปญครับ
ส่วนตัวแล้วถ้าเป็นห้อง Version ของห้อง Serie ใหม่ อาจจะต้องปรับ Segment กันแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ Segment ของโครงการนี้โดนกดลงมา เนื่องจากสเปคของห้องที่ยังไม่สุด แต่สำหรับการปรับปรุงครั้งใหญ่ของห้องในครั้งนี้ ผมต้องขยับ Segment ของโครงการนี้ให้อยู่ระหว่าง Mid segment จนถึง Luxury แล้วครับ เพราะความจริงแล้วใน Part ของส่วนกลางนั้นผมให้เป็น Super luxury แล้วนะ แต่ด้วยสเปคของห้องซึ่งยังก้ำกึ่งระหว่าง Mid segment – Luxuryจึงทำให้โครงการนี้ยังไม่สามารถไปสู่ luxury ไม่ได้ อย่างไรก็ตามในองค์รวมนั้นประทับใจมากครับ กับทุกอย่างที่โครงการอัพเกรดขึ้นมาในครั้งนี้ ตอนแรกที่ทราบมาว่าทางโครงการจะมีการปรับส่วนกลางให้ดีขึ้นก็ไม่นึกว่าจะทำออกมาได้ดีขนาดนี้ โดยองค์รวมนั้นประมาณนี้ครับ
สำหรับวันที่ 3-4 กุมภาพันธ์นี้ ที่โครงการ The Politan Aqua จะมี Event สำหรับคนที่ซื้อโครงการภายในงาน เพราะทุกห้องที่ซื้อในวันนั้นจะได้รับ Premium Furniture Package ทุกห้อง โดยราคาเริ่มต้นของโครงการนั้นอยู่ที่ 1.45 ล้านบาท ผ่อนเพียง 3,999 บาท แล้วจะรออะไรล่ะครับ โครงการล้านกว่าบาทหน้าบ้านติดแม่น้ำเจ้าพระยาหลังบ้านไปรถไฟฟ้าได้ ซื้อสิครับ อ้อ!!!บางคนอาจคิดว่าจะสร้างได้ตามแบบหรอ ผมมั่นใจ 100% ว่าทำได้จริงๆ เพราะผู้อยู่เบื้องหลังโครงการนี้ผมรู้จักอยู่พอสมควรและผมเห็นผลงานเก่าๆ ที่เคยได้สร้างมาก่อนหน้านี้ว่าเป็นอย่างไร ถ้าไม่ดีจริงผมไม่เชื่อขนาดนี้หรอกครับมั่นใจได้ สำหรับวันนี้แค่นี้ก่อนนะครับ Bye bye