Room
Room
โครงการนี้เป็น Fully furnished ครับ คือมีครบจบทุกอย่าง สำหรับความสูงของ The Reserve สุขุมวิท 61 นั้นจะอยู่ที่ 2.7 เมตร โดยโครงการยอมหั่น 1 ชั้นทิ้ง เพื่อความสูงของห้องชุดจะได้มากขึ้น ดังนั้นโครงการนี้จะมีชั้นที่พักอาศัย เพียง 7 ชั้น โดยทั่วไปแล้วตึก Low rise จะมีชั้นพักอาศัยอยู่ที่ 8 ชั้น กับความสูงห้องที่ 2.4 เมตร
เริ่มต้นที่ทางเข้าก่อนเลยครับเพราะเป็นประตูแบบ Oversize พูดให้เข้าใจง่าย ก็คือ เป็นประตูบานใหญ่ละกันครับหุๆ ตามมาด้วย Digital door lock หน้าตาดี ของ Yell พอเข้ามาในห้องก็จะเจอกับจอ LED ขนาดใหญ่ที่เราสามารถเห็นได้ว่าใครมาหาเราและเราสามารถเปิดประตูให้กับแขกของเราได้จากห้องพัก นอกจากนี้ ระบบ Home Automation ก็มีมาให้นะครับ โดยเราสามารถใช้มือถือของเรา เปิด-ปิด เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องชุดได้ แต่สำหรับพื้นฐานที่โครงการมีให้นั้นคือสามารถเปิด/ปิดระบบไฟ และแอร์ผ่านมือถือได้ครับ สำหรับพื้นนั้นถ้าเป็นโซนห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะใช้ Engineering wood ปูเป็น Pattern แบบ Herringbone โดยคอนโดใน Segment ของ Super luxury เกือบทุกโครงการที่เปิดใหม่ช่วงนี้จะนิยมการปูพื้นในรูปแบบนี้ล่ะครับ บางคนอาจสงสัยว่ามันดีกว่าปูแบบธรรมดายังไง ง่ายๆ ครับ ไม่แตกต่าง…แต่การปูแบบนี้จะยากกว่า สวยกว่า หรูกว่า และที่สำคัญคือมันแพงกว่าด้วยหุๆ เอาจริงๆ ที่ต่างประเทศปูแบบนี้กันมานานมากละครับ แต่บ้านเราพึ่งจะนิยมในช่วง1-2 ปีนี้เอง สำหรับระบบแอร์นั้นจะเป็น Conceiling ทุกห้องเลยครับ นอกจากนี้ทางโครงการทำ Drop ฝ้าไว้ให้ด้วยครับ แต่แค่ Drop ฝ้าเฉยๆ นั้น อาจจะไม่ค่อยเร้าใจเท่าไหร่ ดังนั้นทางโครงการจึงติดไฟไว้ให้ ซึ่งในตอนแรก ผมไม่แน่ใจว่าไฟที่ติดไว้ที่รางม่านจะเป็นหลอดนีออนหรือเป็นหลอดแอลอีดี ซึ่งคำตอบที่ผมได้มาทางโครงการก็คือ เป็นแอลอีดีแบบเส้นครับ LED แบบเส้นดีอย่างไร? นอกจากจะทำให้ปริมาณแสงสว่างเท่ากันตลอดรางม่านแล้ว อายุการใช้งานนั้นนานแสนนานด้วยครับ
เราคุยเรื่องเบๆ กันมาสักพักหนึ่งแล้วมาเข้าประเด็นกันดีกว่า…บางคนสงสัยว่านี้เบแล้วเหรอ???สำหรับมันเบๆครับ55 เรามาดูงานเฟอร์นิเจอร์กันดีกว่า Part ของงานเฟอร์นิเจอร์นั้นผมอยากจะแยกออกมาพูดเป็น Section หนึ่งเลยเพราะว่างานเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาในโครงการนั้นผมขอ บอกเลยว่าไม่ธรรมดา และมีไม่กี่โครงการในเมืองไทยที่จะใช้เฟอร์นิเจอร์ของบริษัทนี้แต่งห้องทั้งหมดด้วยครับ โดยโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61ใช้เฟอร์นิเจอร์ของบริษัท ชนินทร์ ซึ่งเป็น Brand นำเข้ามาทั้งหมดเลยครับ
Chanintra
ในตอนแรกผมที่ทราบว่าทางโครงการจะใช้เฟอร์นิเจอร์ของบริษัทนี้ ผมมีคำถามมากมายในใจว่าทางโครงการจะให้ทางชนินทร์เลือกเฟอร์นิเจอร์มาลงให้เฉยๆหรือเปล่า พูดง่ายๆก็คือเฟอร์นิเจอร์จะไม่ใช่แบรนด์ที่ชนินทร์ขายอยู่ทั่วไปแต่เหมือนแค่ให้ทางชนินทร์เลือกเฟอร์นิเจอร์มาลงให้กับโครงการเฉยๆ ซึ่งไม่ใช่แบรนด์ที่ขายอยู่แล้ว แต่เป็น Brand พิเศษที่จัดให้กับโครงการนี้โดยเฉพาะ ซึ่งถ้าออกมาในรูปแบบนี้ผมคงไม่แฮปปี้มากๆ เพราะว่าเหมือนโดนหลอกยังไงไม่รู้ อย่างที่หลายๆคนทราบ บริษัทนี้ขายของแพงม๊ากกกก ขอย้ำอีกครั้งนะครับว่าแพงม๊ากกกก (ขอโทษเพื่อนด้วย) ที่ขอโทษเพื่อนเพราะว่าเพื่อนผมทำงานอยู่ในบริษัทนี้ครับ ไหนๆทำงานในนี้แล้วคงต้องมีการล้วงความลับกันหน่อย เพราะถ้าผมถามกับโครงการตรงๆผมว่าพฤกษา ไม่บอกความจริงผมแน่…ผมจึงได้ถามเพื่อนผมไปตรงๆ เลยว่า ‘ทางพฤกษาให้ทางชนินทร์เลือกเฟอร์นิเจอร์ให้โดยที่ไม่ใช่แบรนด์ของทางบริษัทชนินทร์เอาเข้ามาขายเองหรือเปล่า’
“ซึ่งคำตอบก็คือไม่ใช่นะครับ”
แบรนด์ของเฟอร์นิเจอร์ที่เอามาใช้ในโครงการ The Reserve Sukhumvit 61 นั้นหลายๆ Brand ก็ใช้อยู่ที่ โครงการ Mahanakorn หรือที่ 98 Wireless นะครับ จบประเด็นเรื่องย้อมแมว ตามที่กล่าวไปในตอนต้น Furniture ของบริษัทนี้ ราคาโหดมากครับ เอาจริงๆบริษัทนี้ไม่เคยขายของถูก มีแต่ของแพงมากถึงมากที่สุด(ขอโทษเพื่อนอีกรอบ) ดังนั้นจึงไม่บ่อยมากนักที่จะเห็นบริษัทชนินทร์จะทำโครงการ Fully furnished ให้กับ โครงการคอนโดสักเท่าไหร่โดยเหตุผลที่ผมทราบมาก็คือ Developer หลายๆ เจ้านั้น กดราคาจะเอาของถูก…จึงไม่สามารถร่วมกันพัฒนาโครงการได้ แต่สำหรับโครงการ The Reserve นั้นทุ่มทุนสร้าง ขายแพงแต่ก็ให้ของดี เพื่อนยังมาชมให้ฟังเลยว่าทีมนี้ไม่กด Supplier เลย (ผมพูดแบบนี้สะเทือน Developer รายอื่นไหมเนี้ยอุ๊บ!!! )สำหรับสไตล์ Furniture ของบริษัทชนินทร์นั้น ก็จะเป็นแบบอเมริกันสไตล์ก็จะออกแนวผู้ดีหน่อยๆโดยจะนิ่งๆเรียบๆครับ ถามว่าสวยไหม สวยนะ…บริษัทนี้ขายของแพง แต่เป็นของดีและสวยด้วยนะหุๆ บริการหลังการขายก็ดีด้วย ผมก็เป็นลูกค้าคนนึงเหมือนกัน อิๆ สวยแค่ไหนสวยอย่างไรหา คำตอบได้ที่ Sales Gallery ที่ The Reserve สุขุมวิท 61 ดูนะครับ
สำหรับโครงการนี้จะมีห้องเพียง 1 ห้องโดยจะเป็น 2 ห้องนอนขนาด 125.44 ตารางเมตร เรามาดูกันครับว่าภายใน ห้องตัวอย่างนั้นจะเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามจะมีเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นในห้องตัวอย่างจะไม่เหมือนกับห้องที่ได้จริงนะครับ ยังไงผมรบกวนสอบถามเซลโครงการนี้อีกทีนึงว่ามีอะไรบ้างที่อาจจะได้แตกต่างไปจากห้องจริงบ้างครับ
Living room
เป็นห้องนั่งเล่นซึ่งมีขนาดใหญ่มากครับ ถึงโครงการนี้จะเป็นแบบ Fully furnished แต่อาจจะมีเฟอร์นิเจอร์ บางชิ้นหรืองาน Built in หลายๆ อย่าง เช่น งานกรุผนังหินอ่อน งานผนัง หรือว่างานฝ้าบริเวณเหนือโซฟา ที่เราจะไม่ได้นะครับ แต่งานเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นลอยตัวส่วนใหญ่จะได้เหมือนกับห้องตัวอย่างครับ มาดู Spec กระจกหน้าต่างกันบ้าง ปกติแล้วผมจะไม่ค่อยชอบโครงการที่ให้กระจกเล็กนะ แต่ไม่รู้เป็นอะไรกระจกของโครงการนี้ถึงจะไม่ใหญ่มากนักแต่มันทำให้ผมรู้สึกว่า มันดูสวยจัง ดูไปดูมา ผมว่าเฟรมกระจกหน้าต่างแน่ๆ เพราะค่อนข้างมี Detail นอกจากนี้ถึงบานกระจกจะไม่ใหญ่แบบ Wall to Wall หรือ ชนทะลุฝ้า แต่ถ้าสังเกตดีๆ ผนังฝั่งหน้าต่างนั้นมีผนังที่เป็นปูนน้อยมาก โดยจะเป็น กระจกเกือบทั้งหมด จึงทำให้บรรยากาศภายในห้องนั้นค่อนข้างโล่ง แสงสว่างจากภายนอกเข้ามาถึงภายในห้องได้ นอกจากนี้ตามที่แจ้งไปในตอนแรกว่า บริเวณรางม่านได้ทำ Drop ฝ้าให้ด้วยและภายในมีการใส่แอลอีดีแบบเส้นเพื่อให้แสงสว่างเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งเป็นส่วนที่ผมชอบมากครับ เพราะมันดูหรูขึ้นเยอะ แม้แต่โครงการ Super luxury บางโครงการในส่วนนี้ก็ไม่มีไฟให้นะ หรือบางโครงการมีไฟให้แต่ก็เป็นเพียงแค่หลอดนีออนธรรมดา ทำให้ความสว่างของรางม่านดูไม่สม่ำเสมอ สำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ในภาพรวมนั้นก็สวยตามแบบฉบับของชนินทร์ครับไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทานข้าว โซฟา หรือโต๊ะกาแฟ
นอกจากนี้ภายในห้องนั่งเล่นยังมีห้องแยกมาอีก 2 ห้อง โดยห้องแรกนั้น ผมขอเรียกว่าเป็นห้องไว้รีดผ้าละกันครับ เพราะจะมีการ Built in ที่วางเสื้อผ้า และที่รีดผ้าไว้ให้ด้วย เอาจริงๆ ผมไม่เคยเห็นโครงการไหนทำห้องแบบนี้ไว้ให้เลยครับ
ส่วนอีกห้องนึงนั้นจะอยู่ฝั่งตรงข้าม ผมขอเรียกว่าเป็นห้องเก็บของแล้วกันครับ ซึ่งภายในนั้นโครงการก็ได้ Built in ตู้ไว้ให้วางของหรือเก็บของใช้ทั่วไป ที่อยู่ภายในห้องชุด ส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างชอบมาก เพราะว่าปกติแล้วถ้าใครพักอาศัยอยู่ในคอนโดนั้นจะมีปัญหาเรื่องการเก็บของไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเดินทางหรือของใช้ทั่วไป แต่ใครที่ซื้อโครงการนี้ปัญหานี้ก็จะหมดไป ส่วนค่าตัวนะเหรอ…เชิญที่ Sales Gallery
Guest toilet
สำหรับห้องน้ำนั้น จะอยู่ภายในห้องนั่งเล่นครับ สำหรับสเปคภายในห้องน้ำ Guest นั้นจะมีเพียงอ่างล้างมือและ สุขภัณฑ์ชำระล้างแค่นั้นครับ เดี๋ยวในรายละเอียดผมจะพูดถึงตอนรีวิวห้องน้ำ Master ละกันครับเพราะตัว Detail นั้นจะ คล้ายๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ที่ใช้หรือวัสดุต่างๆภายในห้องน้ำ
Master Bedroom
ตั้งแต่ผมเคยรีวิวคอนโดมานั้น ผมให้โครงการนี้เป็นโครงการที่ทำ Built in ภายในห้องที่สวยที่สุดครับโดยชนะ Park 24 Phase 2 ค่อนข้างขาดลอย และที่สำคัญได้ทุกห้องแต่จะอยู่ตรงไหนขึ้นอยู่กับ Layout ของห้อง โดยห้องนี้เริ่มตั้งแต่ทางเข้าห้อง ทุกคนจะสะดุดตากับ Built In ตู้เก็บกระเป๋า Hermes เครื่องประดับของ Cartier หรือแม้แต่ที่เก็บนาฬิกาของ Patek Philippe โดยตู้โชว์กระจกสีเทา Built สูงจากพื้นจรดฝ้า Featuring โดยการเดินไฟแอลอีดีภายในตู้ทั้งชุด พอวางกระเป๋าหรือนาฬิกาที่เราสะสมเข้าไปในตู้แล้วเปิดไฟ ภายใน ตู้ดังกล่าวก็จะกลายร่างเป็น Display ของ Shop Hermes, Cartier, Patek Philippe หรืออื่นๆที่ใจอยากจะให้เป็น… สำหรับผมแล้วบริเวณนี้คือ Display เล็กๆ ที่สร้างความภูมิใจและตอกย้ำความสำเร็จในการทำงานและการใช้ชีวิตทุกครั้งที่เดินเข้ามาในบริเวณนี้(ถ้ามีของนะแฮะๆ) เพราะโครงการไม่ได้เตรียมของเหล่านี้ไว้ให้นะคร๊าบแฮ่… แค่เตรียมตู้ไว้รอคนเอาของมาใส่ให้เท่านั้นครับ อีกหนึ่งความชอบก็คือ บริเวณห้องนอน Master นั้นสามารถเดินออกระเบียงได้ โดยประตูที่กั้นระหว่างห้องนอน Master กับระเบียงนั้นจะเป็นกระจกใสบานเต็ม สำหรับงาน Furniture เช็คกับโครงการอีกทีนะครับ เพราะในห้องตัวอย่างบางชิ้นได้ บางชิ้นไม่ได้ ถ้าถามผมว่าในส่วนที่เป็นห้องนอนของมาสเตอร์นั้นมีอะไรที่ผมไม่ชอบบ้าง ผมบอกได้เลยว่า ไม่มี ทุกอย่างดูลงตัวมากถือว่าเป็นอีกโครงการหนึ่งซึ่งผมชอบมากที่สุดตั้งแต่เคยรีวิวมา
Mater Toilet
ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดีชอบมากทุกอย่างเลยอ่ะ เอาเป็นว่า ผมขอเริ่มจากพื้นฐานก่อนละกันครับ วัสดุที่ใช้ ในการปูผนังและปูพื้นนั้นจะมีอยู่ 2 ส่วน ก็คือ หินอ่อนสีดำ Black Forest สำหรับห้องจริงนั้นผนังส่วนดังกล่าวจะเป็นหินอ่อนต่อลายทั้งหมดนะครับ โดยในห้องตัวอย่างมาแค่เสี้ยวหนึ่ง ซึ่งผมขออนุมานว่าห้องจริงจะต้องสวยกว่านี้แน่ เพราะผนังส่วนนี้จะเป็นหินอ่อนทั้งหมด โดนส่วนที่เหลือจะเป็นกระเบื้องลายหินนะคับ สำหรับสุขภัณฑ์ที่ใช้ภายในห้องน้ำทั้งหมดจะเป็นของ Villeroy and Boch จริงอยู่ว่าช่วงนี้หลายๆ โครงการได้นำยี่ห้อนี้มาใช้กันมากขึ้น แต่สำหรับโครงการ The Reserve Sukhumvit 61 นั้น มีความพิเศษมากกว่า เพราะใช้รุ่นตัวท็อปต้นๆ ของแบรนด์เลยครับ ก่อนหน้านี้ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมในหลายโครงการ ซึ่งใช้แบรนด์นี้เหมือนกัน แต่ก็ใช้รุ่นธรรมดา เรียกว่าเหมือนเอาแค่ Brand มาโฆษณา แต่ที่นี้ไม่ใช่น๊า เพราะ Spec มาหนักมาก สำหรับห้องน้ำ Master นั้นจะได้เป็น Rain shower แบบ Built in บนฝ้าที่มาพร้อมกับ Thermostat ที่ใช้ในการควบคุมอุณหภูมิของน้ำให้คงที่ ไม่มีสวิงตามแรงดันน้ำ Feature นี้หาได้จากโรงแรมหรูๆทั่วไป อย่างไรก็ตามจะมี 2 ส่วนที่ไม่ได้ Brand ของ Villeroy and Boch นั่นคืออ่างล้างมือกับอ่างอาบน้ำครับโดยทั้งสองส่วนนั้นจะใช้แบรนด์ของ Lavenz ความพิเศษของแบรนด์นี้ก็คือ เป็นหินเทียมหล่อขึ้นรูป ดังนั้นจะไม่มีรอยต่อเลยครับ โดย Brand นี้ไม่ใช่ Brand บ้านๆ นะครับ เป็นแบรนด์นำเข้าจากอิตาลี ถ้ามีโอกาสได้ไปที่โครงการลองเอามือลูบดูนะครับ รับประกันความเนียนกริ๊บเหมือนก้นเด็กทารกเลยครับหุๆ สำหรับชุดอ่างล้างมือก็คงต้องบอกเหมือนเดิมว่า ลงตัวมากครับ นอกจากนี้กระจกเงาของที่นี่มาพร้อมกับที่วางของด้วย Particle มากครับ สําหรับพระเอกตัวจริงของห้องนี้ก็คงหนีไม่พ้นสุขภัณฑ์ชำระล้างแบบไฟฟ้าครับ ตัว Top เหมือนเดิมโดยปุ่มคำสั่งจะติดอยู่ที่ผนังห้องน้ำ เห็นไหมครับว่ามาเต็ม บางคนอาจสงสัยว่าจะ Spec ห้องน้ำ เช่น Rain Shower ชักโครกไฟฟ้าหรือหินอ่อนนั้นจะได้เฉพาะ 2 ห้องนอนหรือเปล่า สรุปว่า Spec พื้นฐานของ 1 ห้องนอนไม่ว่าจะเป็น Rain shower ชักโครกไฟฟ้าหรือหินอ่อนนั้นจะได้เหมือนกันกับ 2 ห้องนอน แต่ที่แตกต่างก็คือ Space ของห้องน้ำนั้นอาจจะเล็กลงหรือในบางห้องนั้นอาจจะไม่มีอ่างอาบน้ำให้ครับ ถ้าถามผมนั้นมีอะไรบ้างที่ผมไม่ชอบ ผมตอบว่าไม่มีครับ แต่ถ้าถามผมว่าจะสามารถทำไรได้อีก ส่วนตัวแล้วผมมองว่าถ้าโครงการให้ห้องน้ำเป็นหินอ่อนหมดก็คงจะดี… อย่างไรก็ตามเหนือสิ่งอื่นใดคือการ Combination ครับจะใช้หินหรือไม่ใช้หิน ถ้า Combination ของทุกอย่างในห้องไม่ลงตัวมันก็จบครับ
Emergency Call
สำหรับหลักการทำงานนั้นโทรศัพท์ตัวนี้จะอยู่ในห้องน้ำหลักของทุกห้องครับ ซึ่งถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินภายในห้องน้ำไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม เราสามารถใช้โทรศัพท์เพื่อโทรไปหานิติและขอความช่วยเหลือได้ อีกทั้งฟังก์ชันของโทรศัพท์ตัวนี้ เราสามารถกดเปิดประตูเพื่อให้ทางนิติหรือคนที่เราต้องการขอความช่วยเหลือสามารถเข้ามาภายในห้องได้ด้วยครับ
Bedroom 2
ความสวยของห้องนอน 2 นั้นไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าห้องนอน Master เลยครับ โดยเฉพาะตู้เสื้อผ้า ที่เป็นตู้กระจกทั้งหมดนอกจากนี้ภายในตู้ยังคงเดินไฟแอลอีดีให้เหมือนเดิม สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งที่ Built in นั้นสวยลงตัวไม่มีที่ติครับ ใน Part ของงานเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนั้น จะเหมือนกับห้องตัวอย่างเลยครับแต่แค่ไม่ได้กรุฟองน้ำบริเวณหัวเตียงให้เท่านั้น สำหรับแอร์ยังคงเป็น Concealing เหมือนห้องนอน Master บริเวณรางม่านก็มีการติดแอลอีดีแบบเส้นให้เหมือนเดิม
Toilet 2
สเปคในภาพรวมนั้นยังคงเหมือนห้องนอน Master Bedroom ครับ แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือสำหรับห้องนอน 2 นั้นจะไม่มีชักโครกไฟฟ้าและ Rain shower ให้ครับนอกจากนี้ แม้ว่าผนังจะไม่ได้เป็นหินอ่อนเหมือนห้องนอน Master แต่สิ่งที่ได้มาแทนนั้นก็คือกระจกกั้นห้องน้ำบริเวณ Shower กับห้องนอนครับ ผมว่ามันสุดยอดมาก เพราะเป็นกระจกสีเทาบานเต็มไม่มีซอยที่สำคัญมันใหญ่มากครับ ใน Part นี้ผมชอบมากกว่า 1 ห้องนอนใหญ่อีกครับ เพราะ Sexy ได้อย่างเต็มพิกัดอ่าาาา องค์รวมไม่มีที่ติเหมือนเดิมครับ
Kitchen
สำหรับผมแล้ว Spec ของชุดครัวโครงการ The Reserve Sukhumvit 61 ผมให้เป็น Spec ชุดครัวของคอนโดระดับต้นๆ ของเมืองไทยเลยครับ เพราะ Spec แต่ละอย่าง นั้นสุดยอดมากครับ เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้าเกือบทุกชิ้นจะเป็น Brand ของ Gorenje ที่ Design by Starck ทั้งหมดครับ ไม่ว่าจะเป็น เตาไฟฟ้า เครื่องดูดอากาศ หรือตู้อบและไมโครเวฟ โดยเฉพาะ ฮูดดูดอากาศผมว่าหล่อม๊ากก สำหรับอ่างล้างจานเป็นของ Blanco ครับ ซึ่งเป็น Brand ชั้นนำของ German โดยในเนื้ออ่างนั้นมีส่วนผสมของหิน Quatze อยู่ถึง 80% ซึ่งจะมาพร้อมความสวยงามและทนทาน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่กล่าวมานั้นยังไม่ใช่ Highlight ของชุดครัว เพราะ Highlight จริงๆ ของชุดครัว คือ ก๊อกน้ำครับ ซึ่งเป็น Brand ของ Cotto โดยความพิเศษของก๊อกตัวนี้ก็คือ เวลาเราต้องการใช้น้ำเราแค่สัมผัสที่หัวก๊อกน้ำ หลังจากนั้นน้ำก็จะไหลออกมาเอง เป็นหนึ่งในความสุดยอดที่ผมไม่เคยเห็นจากคอนโดโครงการไหนในเมืองไทยมาก่อน
นอกจากนี้อีกหนึ่ง Highlight ที่เต้ Proudly Present มากก็คือ….เคยมีปัญหาใช่ไหมครับเวลาล้างจานแล้วมีเศษอาหารอยู่ที่ตะแกรงทำให้น้ำไม่ระบาย นอกจากนี้พอล้างจานเสร็จเราก็ต้องนำตะแกรงเพื่อเทเศษอาหารออก แต่สำหรับโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 นั้นปัญหานี้จะไม่มีอีกต่อไป เพราะเราสามารถกวาดเศษอาหารลงไปในท่อได้เลย หลังจากนั้นแค่เรากดปุ่ม เครื่องก็จะทำการบดเศษอาหารให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและไหลไปตามท่อระบายน้ำของชุดครัวเลิศไหมล้า….
แต่ถ้าแค่นั้นยังหรูหราไม่พอ อีกหนึ่ง ฟังก์ชันที่ผมคิดว่ามันมหัศจรรย์มาก….เคยมีปัญหาใช่ไหมครับเวลามือสกปรกแล้วอยากจะเปิดตู้เพื่อหยิบ ถ้วยชาม หรือหม้อภายในตู้ของชุดครัว ปัญหานี้จะหมดไป เพียงเราแค่เอาขาไปวางบริเวณเซ็นเซอร์ของชุดครัว ลิ้นชักของชุดครัวก็จะเปิดออกมาเอง คุณพระ!!!ผีหลอก ตู้ลิ้นชักครัวเปิดเอง…..
อย่างไรก็ตามวันที่ผมไปโครงการนั้นระบบยังไม่เรียบร้อยดีเลยยังไม่ได้ลอง ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชม Sales Gallery ก็ลองไปเล่นดูได้นะครับ ผมว่าการทำงานน่าจะคล้ายๆกับ รถยนต์บางรุ่นครับ เช่น เวลาเราถือของหนักๆมาอยากจะเปิดฝากระโปรง เราแค่เอาขาไปไว้ใต้รถฝากระโปรงก็จะเปิดเอง
ยังไม่หมด…โครงการนี้ผมเขียนเยอะม๊าก…ก่อนหน้านี้ผมได้คอมเม้นสิ่งที่ผมไม่ OK เกี่ยวกับหน้าบานชุดครัวของ The Reserve ทองหล่อไป ผมบอกว่าหน้าบานมันดูถูกไม่มีราคาไปหน่อยเพราะใช้เป็นวัสดุลามิเนต แต่….โครงการนี้ได้เปลี่ยนแล้วครับเพราะโครงการให้หน้าบานชุดครัวเป็นกระจก แต่….ไม่ใช่กระจกธรรมดานะครับลองเอามือลูบมันจะเป็นคลื่นและมี Texture (สวยม๊ากก) โดยจะมีบางส่วนที่ Hi-gross ครับอย่างไรก็ตามรูปที่ถ่ายมาจะไม่เห็นรายละเอียดมากนัก แต่ถ้าไปที่โครงการแล้วลองสังเกตดูนะครับว่างามแค่ไหน สำหรับ Top ชุดครัว เป็นหิน Quartz เซาะร่องครับ เพื่อให้เวลาวางจานน้ำจะไหลลงไปที่อ่างครับ สำหรับ Top หิน ผมว่าตัวที่ใช้น่าจะแพงกว่าหินอ่อนบางตัวด้วยครับ
สำหรับส่วนเล็กๆน้อยๆในชุดครัวที่ผมยังไม่กล่าวถึงนั้น ก็จะมีที่วางของที่เปียก เช่นแก้วน้ำหรือจานบริเวณชุดครัวฝั่งไอซ์แลนด์ แต่หากเรานำตะแกรงออก เราสามารถใส่น้ำแข็งไปที่ช่องดังกล่าวเพื่อวางขวด Champaign ได้อีกด้วย ผู้ดีไหมละค๊าบ โดยใต้ของตะแกรงนั้นก็จะมีการเชื่อมต่อกันกับท่อของอ่างล้างจานเพื่อให้น้ำแข็งที่ละลายมีที่ระบายครับ นอกจากนี้ยังมี Function ในการเก็บของภายในตู้ชุดครัวต่างๆที่ Practicle มาก ถ้าไปโครงการลองไปเปิดดูนะครับ อย่างไรก็ตาม หนึ่งสิ่งที่หายไปจาก The Reserve สุขุมวิท 61 ก็คือ โครงการนี้ไม่มี Built in ตู้เย็นให้นะค๊าบ อารมณ์เสียนิดนึงและแอบเสียดายเบาๆ55 วันนี้ประมาณนี้ครับ เอาเป็นว่าแค่นี้ผมว่าก็ตาแฉะกันแล้วมั้งครับหุๆ
Balcony
เป็นโครงการที่มี Detail มากจริงๆ นอกจากราวกันตกที่เป็นกระจกแล้ว ถ้าสังเกตบริเวณผนังให้ดีๆ จะมีการทำ Texture เพื่อให้ตัวผนังระเบียงด้วยนะครับหุๆ
จบแล้วครับสำหรับโครงการ Low rise ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นโครงการที่ผมชอบมากที่สุดตั้งแต่เคยรีวิวมาเลยครับ ทุกอย่างถือว่าลงตัวมาก อย่างไรก็ตาม แอบเสียดายนิดนึงเพราะห้องตัวอย่างนั้นเป็นไซส์ใหญ่ ถ้าทางโครงการทำห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอนขนาดเล็กบ้างน่าจะดี เรามาดูกันดีกว่าว่าถ้าลงทุนละจะเป็นอย่างไร