Saladaeng One Open House

16/07/2018

Score

  • Location: 8.5
  • Design: 8.5
  • Facilities: 8.5
  • Value for money: 8.5
8.5 / 10

Saladaeng One 

ทำเลที่ตั้งของโครงการ Saladaeng One

แค่ระยะเวลาเพียง2 ปีนิดๆ นับจากการรีวิวครั้งแรก ผมไม่นึกว่าพื้นฐานของ Location จะเปลี่ยนแปลงรวดเร็วขนาดนี้ จากที่ดีอยู่แล้วกลายเป็นดียิ่งกว่า การลงทุนครั้งใหญ่ของ TCC Assets กับFrasers Propertyในการพัฒนา One Bangkok ซึ่งจะเป็น Mixed-use ที่ดีที่สุด Hi-so และหรูหราระดับต้นๆ ในเมืองไทยกำลังจะจะเกิดขึ้นที่แยกวิทยุ นอกจากนี้กลุ่มเซ็นทรัลและดุสิตธานี ได้ร่วมมือกันในการพัฒนาอีกหนึ่ง Project ซึ่งจะเป็น Mixed-useขนาดใหญ่ที่จะมีห้างและโรงแรมระดับ 5 ดาวอยู่ด้วยกันโดยพิกัดของ 2 อภิมหาโปรเจคที่กำลังก่อสร้างนั้นห่างจาก Saladaeng One เพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น

2  อภิมหาโปรเจคนี้ ถือว่าเป็น 2 โปรเจคที่ถูกจับตามองมากที่สุดเวลานี้เนื่องจากในอนาคตหลังจาก 2 โครงการนี้แล้วเสร็จ บริเวณถนนเส้นนี้จะเป็นศูนย์รวมของ ออฟฟิต ที่พักอาศัย โรงแรม และร้านค้าชั้นนำที่หรูหราที่สุดย่านหนึ่งในกรุงเทพมหานครนอกจากนี้งาน Architectureที่มาแบบก้าวล้ำนำอวกาศก็จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะยกระดับให้กรุงเทพมหานครเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มี Skyscraper ที่สวยระดับต้นๆของโลก และที่สำคัญกว่าก็คือ คุณจะได้เป็นส่วนหนึ่งของ Location ที่ซึ่ง Business มาบรรจบกับความ Luxury เรามาดูกันครับว่า Saladaeng One จะใกล้กับ Landmark ใหม่ของเมืองไทยมากแค่ไหน

พิกัดของSaladaeng One อยู่บริเวณศาลาแดงซอย 1 ซึ่งห่างเพียง 80 เมตร จากถนนพระราม 4 โดยห่างจาก สถานีรถไฟฟ้า MRT ลุมพินี และ สีลม เพียง 400 เมตรและ 600 เมตร ตามลำดับ ซึ่งแปลว่าโครงการนี้จะห่างจาก One Bangkok และ Mixed-use ของ กลุ่มเซ็นทรัลเพียง 400 และ 600เมตร ตามลำดับอีกเช่นกัน สำหรับHighlightที่เป็นที่สุดของโครงการนี้คือสวนลุมพินี เพราะห่างเพียง 120เมตร เท่านั้น ดังนั้นจึงทำให้ห้องชุดของโครงการ Saladaeng One มากกว่า 50% จะได้วิวของสวนลุมพินีอีกด้วยครับ และอีกหนึ่งมุมที่โครงการ Saladaeng One  Proudly present มากในเวลานี้ก็คือ วิวของ One Bangkok ครับรับประกันความเต็มตาเต็มอารามณ์

Architecture

เป็นโครงการที่มองใกล้ๆจะสวยพอประมาณ แต่ถ้ามองไกลๆแล้วจะสวยมากโดยโครงการออกแบบให้เป็นModern Contemporary ในลักษณะ Horizontal Design การใช้Facade ที่เป็น Horizontal slabทำให้เหมือนชั้นหินที่เรียงตัวสลับ หนาและบาง ก่อขึ้นไปเป็นชั้นๆ โดยวัสดุที่ใช้จะเป็น Aluminium Composite ลายหินอ่อนสีขาว นอกจากนี้ Horizontal Facade Element นี้ ยังทำหน้าที่เป็นที่บังแดดและฝน ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือตึกนี้จะไม่ร้อนมาก นอกจากนี้เวลาที่ฝนตกโอกาสที่น้ำจะเข้าห้องชุดนั้นจะน้อยมาก เพราะตึกนี้โดนห่อด้วยAluminium Composite เกือบทั้งตึก ดังนั้น Saladaeng one จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่แทบไม่มีพื้นที่ปูนเหลือภายนอกอาคารเลย นอกจากข้อดีดังกล่าวแล้ว การใช้ Aluminium Composite ยังช่วยในเรื่องของการดูแลและทำความสะอาดในระยะยาว และทำให้ตึกนี้ไม่มีวันเก่าด้วยครับ เพราะอะไร? ตึกเก่าเพราะว่าสีตึกม่ายช่ายเหรอ?ในเมื่อโครงการนี้ห่อทั้งตึกไม่ว่าจะเป็นกระจกและ Aluminium Composite แล้ว คงไม่มีอะไรจะให้เก่าแล้วมั้งครับหุๆ Timeless building

Facilities

เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ผมได้มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องและมีโอกาสแสดงความคิดในหลายๆสิ่ง เรามาดูกันครับว่าโครงการนี้Final Version แล้วจะเป็นอย่างไร

Lobby

เป็นLobby ที่เปลี่ยนมาหลาย Version มากและในเวอร์ชั่นที่เห็นนี้ เป็นเวอร์ชั่นที่ 3 แล้วครับ สำหรับผมแล้วใน Versionที่ 3 ไม่มี Comment ที่ไม่ดีสวยสมบูรณ์แบบ เป็น Lobby ที่ดูไม่มากหรือน้อยเกินไปครับ วัสดุที่อยู่ภายในนั้นถือว่าพรีเมี่ยมครับ ไม่ว่าจะเป็น Lobby หินอ่อน White Volakas สำหรับชุดโซฟาของ Minottiที่เห็นอยู่ประมาณ 4 ชิ้นค่าตัวเบาๆอยู่ที่7 หลักนะครับ

Outdoor lobby

เหมือนเป็นส่วนกลางที่โครงการทำเพิ่มพิเศษขึ้นมาให้ครับ โดยจะอยู่ภายนอกอาคาร ผมเลยเรียกว่าเป็น Outdoor lobby ละกันครับ 55 งาน Interior ค่อนข้างนิ่งดีครับ อย่างไรก็ตามแอบไม่ชอบภาพที่ผนังสักเท่าไหร่เพราะดูเหมือนไม่เข้าพวก แต่ถ้ามองในองค์รวมผมถือว่าดีครับ (ปล.ส่วนกลางนี้ผมขอไม่ลงรูปนะครับ เพราะโครงการอาจจะรื้อทำใหม่ถ้ามี Final Version จะมาอัพเดทให้อีกที)

Lift

โถงลิฟท์มีความวิ้งในตัว แต่ไม่ได้วิ้งแค่ชั้น Lobbyนะครับ แต่วิ้งทุกชั้นครับ สวย หรู ถูกใจผมมั๊กๆ อย่างไรก็ตาม Highlightของโครงการนี้ไม่ใช่โถงลิฟท์ครับ แต่เป็น Void ขนาดใหญ่ 2 Void บริเวณระหว่างชั้นครับ ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ผมเคยรีวิวคอนโดมาเลยครับ ดังนั้นสิ่งที่ได้ก็คือการ Flowของอากาศที่ดี เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ฟุ่มเฟือยมากครับ ชอบครับเพราะดูสิ้นเปลื้องดี…ก็ Super Luxury อ่ะ…จะเอาอะไรมินิก็ไม่Grand น่ะสิ

Pool

สระว่ายน้ำหินอ่อนWhite Volaskas ซึ่งเป็นสระแบบเป็น Infinited Edge Pool ใน Part นี้ผมให้ภาพเป็นตัวบรรยายว่า สระที่นี่สวยงามแค่ไหน และวิวที่ได้งามเพียงใด เป็นอีกหนึ่งวิวที่จะสวยตลอดไป

Fitness

ขนาดของห้องค่อนข้างใหญ่ งาน Interiorมาแบบสวยงามตาม Theme ของโครงการเลยครับ กระจกบานใหญ่ให้ดูวิวได้รอบทิศทาง ค่าวิวก็คุ้มแล้วครับ เครื่องเล่นที่ให้ก็ค่อนข้างดีเพราะเป็นของ Life Fitness แต่ถ้าได้ความหลายหลายกว่านี้อีกนิดจะแจ่มมากนะ ขอตินิดๆ

Toilet+Stream

หินอ่อนทั้งห้อง…สวยและแพงมากในห้องน้ำนอกจากนี้ในส่วนที่เป็นห้องStream นั้นหินอ่อนยังคงเป็นวัสดุหลักที่ใช้ในห้องดังกล่าวและส่วนที่สุดท้ายที่ผมประทับใจที่สุดก็คือ เครื่องเป่ามือของ Dyson ขอเดาว่าคุณพงษ์เลือกมาหรือเปล่า? เพราะBrand นี้ในบ้านเรายังไม่ค่อยมีคนรู้จักหรือใช้เท่าไหร่ เนื่องจากราคาที่แพงระยับ แต่คุณภาพของเค้าดีจริงๆนะ เครื่องเป่ามือนี่ล่ะครับเป็นเหตุผลที่ผมอยากรีวิวห้องนี้ เพราะยังไม่มีโครงการคอนโดไหนใช้มาก่อนเลยหุๆ

Sky Lounge

ฟินมากครับสำหรับห้องนี้ ก่อนที่ห้องนี้จะออกมาสวยงามแบบนี้ โดนเปลี่ยนมา 4 ครั้งครับ และ Final Version ก็เป็นเหมือนที่เห็นครับ ถ้าจะพูดถึงจุดเด่นของห้องนี้ อยากบอกว่าเด่นทุกอย่างเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นผนังหินอ่อนเกือบทั้งห้อง ใน Partที่ผนังไม่ใช่หิน โครงการก็ใช้เป็นกระจก Full Height บานขนาดใหญ่มาก ในบางมุมเป็นกระจกแบบ Wall to Wall อีกด้วยครับ สำหรับวิวนั้นถ้าตีเป็นราคานี้ผมให้หลายร้อยล้านมาก คือไม่รู้จะติอะไรเลยครับ ผมว่าสวยและลงตัวมาก

Business Lounge

โอ๊ย!!!สวยแล้วคร๊าบ เป็นอีกหนึ่งห้องที่ผมเห็นมาหลาย Version มาก และใน Versionนี้ก็สวยดังใจปราถนา Theme ของห้องนี้ยังมากับความหรูแบบเดียวกับLounge ไม่ว่าจะเป็นกระจกบานใหญ่แบบ Full height โดยส่วนที่เหลือจะเป็นหินอ่อนWhite Volaskas หมดเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นผนังหรือพื้น สวยแบบไร้ Comment อีกเช่นกัน

จบกันไปกับส่วนกลางของSaladaeng One เรียบหรูหมดจด ส่วนกลางที่นี่มาแบบพอดี ไม่มากไปไม่น้อยไปในองค์รวมทุกอยากทำออกมาได้ดีมากครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงาน Interiorหรือขนาดของส่วนกลาง ไม่มีติครับชอบทุกอย่าง

Room

  • ใครการนี้จะมีห้องตัวอย่างแต่งใหม่ด้วยกัน3 ห้องโดยจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาดประมาณ 55 ตารางเมตร สำหรับการรีวิวห้องชุดแบบละเอียดผมรีวิวไว้แล้วสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากที่นี่ รีวิว Saladaeng One แต่สำหรับวันนี้ผมจะพูดถึง Project Highlight ที่ผมคิดว่าเป็น The One ของโครงการนี้ครับ โดยผมขอเริ่มตั้งแต่ประตูทางเข้าเลยนะครับ
  • ทางเข้าห้องที่หลบมุมเข้าไป เพื่อความเป็นส่วนตัวเวลาเข้าหรือออกห้อง ซึ่งผมไม่เห็นโครงการไหนในเมืองไทยที่มี Feature ตัวนี้
  • Floor to Ceiling สูง 3 เมตร สิ่งที่ Super Luxury ทุกโครงการต้องมี และที่นี่ก็มีอีกเช่นกัน
  • การออกแบบพื้นที่ให้เป็นห้องขนาดหน้ากว้างพิเศษ โดย 1 ห้องนอน ขนาด 55 ตารางเมตร จะมีหน้ากว้าง 8.10เมตร โดยห้องนั่งเล่นที่เปิดรับวิวจะกว้างถึง 4.5 เมตร ในขณะที่ห้องมาตรฐานของโครงการอื่นทั่วไป อยู่ที่ 3.0-3.5 เมตร และ 2 ห้องนอนจะเป็นห้องหน้ากว้างถึง 16 เมตร เพื่ออารมณ์และความโปร่งของห้อง
  • กระจกบานSlide แบบ Full height เปิดมุมมองใหม่ในการใช้ชีวิต รู้สึกว่าตัวเองเขียนเหมือนข่าว PR เลยเนอะ แต่เป็นเรื่องจริงน๊า
  • ห้องนอนทุกห้องถ้าเป็นฝั่งหันมาทางสวนวิวของหัวเตียงทุกห้องจะหันไปทางสวนลุมพินี แปลว่าคุณจะได้วิวสวนทุกวันถึงแม้ว่าจะนอนอยู่บนเตียงก็ตาม
  • บัวพื้นแบบฝังเข้าไปที่ผนัง ทำให้เวลาตั้งเฟอร์นิเจอร์แล้ว ตัวเฟอร์นิเจอร์จะแนบไปกับผนัง
  • สวิตท์เปิด/ปิดไฟห้องที่สามารถถอดออกจากผนังถือไปไหนก็ได้
  • ระบบ Dimmer ไฟ ที่สามารถปรับความสว่างได้ภายในห้อง ตัวนี้เก๋ม๊าก ชอบมากกว่า Home Automation อีก
  • สามารถเซ็ตระบุตำแหน่งไฟที่อยากให้ส่องสว่างได้ เช่นถ้ากดปุ่มแรก ไฟทั้งห้องจะติด ในทางกลับกันถ้าอยากให้ติดแค่ดวงเดียวที่หน้าห้องก็ย่อมทำได้
  • ในทุกๆ ห้องจะมีหลืบฝ้า โดยภายในหลืบฝ้าทางโครงการได้ติด LED Strip ให้ทุกจุดเพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้ผู้พักอาศัย
  • เฟรมประตูหรือวงกบจะใช้วัสดุที่เป็นอลูมิเนียมทั้งหมด เพื่อความทนทานในการใช้งาน ดังนั้นไม่ต้องกลัวเรื่องปลวกหรืออะไรทั้งนั้น อายุการใช้งานตลอดชีวิต
  • ระบบ Boiler โครงการนี้ติดตั้ง Boiler เพื่อทำความร้อนให้ภายในห้อง ดังนั้นระบบน้ำทุกจุดภายในห้องชุดจะมีน้ำร้อนให้ 1ห้องนอนยังมีให้เลย…อารมณ์เสียBeatniq กับ 28 Chidlom ของผมยังไม่มีให้เลยหุๆ
  • ก๊อกอ่างล้างจานจะเป็นแบบ Cool tap กล่าวคือ ถึงแม้ว่าจะเปิดระบบน้ำให้ร้อนสุด แต่เมื่อเราสัมผัสไปที่ตัวก๊อก ตัวก๊อกจะไม่มีความร้อนให้เรารู้สึกได้ นอกจากนี้น้ำที่ออกมาจะนุ่มและเมื่อสัมผัสมือจะไม่กระจายอีกด้วยทุกห้องชุดจะมาพร้อมกับเครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้าแยกกันคนละเครื่อง
  • ห้องน้ำปูด้วยหินอ่อนWhite Volakas กับ Black Maquina ทุกห้อง พร้อมใช้ Floor drain แบบซ่อน ซึ่งผู้พักอาศัยจะไม่รู้เลยว่า Floor drain นั้นอยู่ตรงไหนภายในห้องน้ำ ซึ่งตอนนี้ผมกล้าพูดเลยว่าโครงการใหม่ๆตอนนี้ ไม่มีโครงการไหนให้ห้องน้ำเป็นหินอ่อนหมดครับ
  • ในห้องที่มีอ่างอาบน้ำหินอ่อนจะถูกปูมาถึงส่วนที่เป็นผนังห้องนอนเลยครับ หรูม๊าก
  • ชักโครกไฟฟ้า และ Rain shower มีมาให้เป็นมาตราฐานของโครงการ
  • กรุท้องพื้นบริเวณระเบียงด้วยAluminium composite ลายหินอ่อน และ ซ่อนไฟ LED Strip ใต้ราวกันตก (Indirect light) เพื่อความสวยงามและการดูแลรักษาง่ายดาย
  • มากมายไหมละครับสำหรับHighlightเด็ดๆ ของ The One ซึ่งความจริงแล้วยังมีที่ไม่พูดอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นการปูพื้นด้วย Engineering Wood หนาถึง 14มิลลิเมตร อยากให้ไปดูที่โครงการของจริงจะดีกว่า และวันที่ 21-22  ก.ค.นี้ทางโครงการได้เปิดห้องชุดสุดพิเศษที่แต่งใหม่แบบ Fully Furnish ซึ่งของทุกอย่างที่เห็นภายในห้องนั้นจะได้หมดทุกชิ้นครับ นอกจากนี้ถ้าใครสนใจงานออกแบบในแต่ละห้อง แต่ไม่ชอบตำแหน่งห้องเป็นห้อง Mock up เราสามารถยกงาน Interior ที่เราชอบไปใส่ในห้องที่เราอยากได้ด้วยนะครับ เรามาดูกันครับว่า 3 ห้องแต่งใหม่จะงดงามแค่ไหน แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสเรื่องวิวมาก ราคาห้องต่ำกว่า 2.4 แสน บาท/ตารางเมตรก็มีนะครับ เฉพาะ Event นี้เท่านั้น

Room 1

Room 2

Room 3

In the end

จะเขียนแบบไม่PR เลยนะครับ เอาแบบจากใจจริงๆเลยนะครับว่า…ทำไมถึงควรซื้อโครงการนี้

SC Asset

ถ้าผมจะบอกว่าเพราะเป็นSC Asset จะได้ไหมครับ…ณ เวลานี้คอนโดตารางเมตรละ 2 แสนปลาย-แสนบาท/ต่อตารางเมตร ขึ้นเกลื่อนแล้วครับ และไม่ใช่ของแปลกอีกต่อไป แต่จะมีกี่ Developer ที่สามารถเชื่อถือได้อย่างหมดใจว่าถ้าซื้อไปแล้วจะได้รับการดูแลอย่างดี บริการหลังการขายดีเยี่ยม ถ้าโครงการมีปัญหาพร้อมจะรับฟังและแก้ไขปรับปรุงตลอดเวลา ผมให้ SC Asset is  my Choice เพราะเป็นประสบการณ์ตรงของผมและลูกบ้านที่ซื้อโครงการของ Sc Asset บอกผมมา ดังนั้นโครงการนี้ที่คนซื้อ/กำลังจะซื้อ มั่นใจได้ครับว่า คุณจะได้โครงการที่ Developer ใส่ใจลูกบ้านมากที่สุดโครงการหนึ่งในเมืองไทย ไม่ต้องเชื่อผมนะครับลองถามเพื่อนๆที่ซื้อโครงการของSC Asset ดูครับ อย่างเช่น โครงการราคาล้านกว่าบาทตระกูลChamber ดูก็ได้ครับว่า โครงการดูแลลูกบ้านดีอย่างไรครับ

Location

Developerดีแล้ว Location ก็ดีด้วยครับ ของเดิมก็ดีอยู่แล้ว มี 2 โปรเจคขนาดใหญ่มาขนาบข้างอีก…ไม่ต้องบรรยายต่อเลยครับ ในอนาคตที่บริเวณนี้จะเป็นบริเวณที่ Business และ Lifestyleมาอยู่ด้วยกัน ผมว่าอารมณ์จะคล้ายๆกับเพลินจิตนะครับ แต่จะมีความเก๋อยู่ที่ หน้าบ้านเรามี Central Park อยู่ด้วยอ่ะดิ

Price

ยอมรับว่าไม่ถูก…แต่ผมให้ไปพลิกโครงการหาเลยครับว่า ณ ราคา 2-3แสนบาท ต่อตารางเมตร ที่เปิดขายกันอยู่ตอนนี้ มีโครงการไหน Specเท่า Saladaeng One บ้างครับ ผมยังนึกไม่ออกเลยครับว่าที่ไหน ที่เปิดใหม่ๆราคาพอๆ กันSpec ก็โดนกดลงไปอย่างมากมาย ถ้าใครหาโครงการ Spec นี้Location ระดับนี้ บอกเลยว่าม่ายมีแล้วครับ…

Investment

ไม่รู้นะ…ถ้าไม่ซื้ออยู่เองก็ซื้อเก็บไว้เป็นมรดกไว้ให้ลูกให้หลานไปเลยครับ หรือให้เต้ก็ได้นะค๊าบ เอาจริงๆครับ บริเวณนี้คอนโดเกิดใหม่แทบไม่มีเลย และยิ่งเป็นวิวสวนลุมนี้ ผมนับโครงการได้เลยครับ ดังนั้นถ้าซื้อเก็บไว้ระยะยาวยังไง Value ก็มีแต่ขึ้นกับขึ้นครับ ซื้อเก็บไว้ ดูดีจะตายหุๆ ไม่เชื่อดูอีก 3ปี ที่ One Bangkok สร้างเสร็จซิ โครงการนี้จะ Hot แค่ไหนหุๆ

ทิ้งท้ายว่าซื้อเฮอะ!!!โครงการ Spec แบบนี้ ราคานี้หาไม่ได้แล้วครับ 

Copy link
Powered by Social Snap