Beatniq Open House กับที่สุดส่วนของกลางบนเส้นสุขุมวิท

Beatniq open house กับที่สุดในโครงการบนเส้นสุขุมวิท

Beatniq

เป็นการรอคอยที่แสนยาวนานกับโครงการที่ผมคาดหวังมากที่สุดและแพงที่สุดโครงการหนึ่งตั้งแต่ผมเคยซื้อคอนโดมา ซึ่งราคาของโครงการ ณ วันที่ผมซื้อ ตกตารางเมตรละเกือบ 3 แสนบาท เอาจริงๆอย่าว่าแต่เวลานั้นเลยครับ เวลานี้ราคาตารางเมตรละ 3 แสนบาท ยังถือว่าไม่ถูกเลยครับหุๆ ซึ่งก็แปลว่าโครงการนี้ถ้าทำ Spec มาไม่ปังก็คงต้องพังเป็นแน่ครับ ซึ่งเรามาดูไปพร้อมๆ กันครับว่าโครงการนี้จะปังหรือพัง แต่ใครที่เป็นเพื่อนกับผมใน Facebook อยู่แล้วก็คงทราบแล้วล่ะเนอะว่าปังหรือพัง อย่างไรก็ตามโครงการ Beatniq ผมเคยรีวิวมาแล้วในเรื่องของ Location หรือ Spec ทั่วไป สามารถตามอ่านจากรีวิวเก่าได้เลยครับ ‘link’ เรามาเริ่มต้นกันที่ส่วนกลางกันเลยดีกว่า ว่าของจริงกับ CG ส่วนไหนจะปังกว่ากัน

Architecture

Super unique กับงาน Exterior ที่ไม่เหมือนใครโดยการหุ้มตัวตึกด้วย Aluminium Cladding ที่มีรูปทรงแบบ Bevel edge นอกจากนี้ Podium ที่หุ้มบริเวณชั้นลานจอดรถซึ่งออกแบบให้มีองศาเพื่อรับกับแสงที่ตกกระทบจึงทำให้ตัวตึกเปลี่ยนสีไปในแต่ละช่วงเวลา ด้วยวัสดุและ Design ที่แปลกใหม่จึงทำให้ตึกนี้มีความโดดเด่นและแปลกตากว่าทุกๆโครงการที่เราเคยเห็นอยู่ทั่วไป

Landscape

สวนเล่นระดับภายนอกอาคาร Featuring ด้วยน้ำตกบริเวณสวนหน้าโครงการ นอกจากนี้มีสระน้ำเล็กๆ ให้นั่งแช่ขาอีกด้วยครับ สำหรับวัสดุที่ใช้ภายนอกโครงการจะปูด้วยหินอ่อนทั้งหมด มาแจ่มไหมล้า…

Lobby

สวยเก๋ไม่เหมือนใครกับการใช้หินอ่อนสีขาวอย่าง White Volaskas และ หินอ่อนสีดำอย่าง Black Marquina มาตัดกัน โดยใช้การวางหินแบบ Geometric ทำให้ได้งานปูพื้นหินที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้รูปแบบงานของ Geometric ยังปรากฎในส่วนต่างๆ ภายใน Lobby ด้วยครับ เช่น ผนัง Lobby ที่มีกระจกกรุอยู่ วัสดุที่เห็นสีเทาๆ นั้นเป็นหินแกรนิต นำมาขัดจนเรียบกริบ หลังจากนั้นจึงนำกระจกมาวางตรงกลางจึงเกิดงาน Interior ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเต้มั่นใจว่าคุณจะไม่เคยเห็นจากโครงการไหนในโลกมาก่อน กล้าพูดว่าในโลก เพราะไม่เคยเห็นจากโครงการไหนหรือที่ไหนจริงๆ สำหรับงาน Furniture นั้นสวยงามเข้ากับงาน Interior ส่วนอื่นได้ดี ไม่มีติครับ

Business lounge

ภายในห้องนี้จะมีห้องประชุม และโต๊ะให้นั่งอ่านหนังสือด้วยนะครับ งาน Interior สวยเรียบ หรู นิ่ง เข้ากับตึกเป็นที่สุดครับ ไม่อวยแต่เชียร์สุดตัวแค่นั้นโฮะๆ

Lift

ตัวโถงลิฟท์ทางเข้ายังคงความหรู เรียบนิ่ง สิ่งที่ผมแอบชอบเกี่ยวกับลิฟท์โครงการนี้ก็คือตัวเลขดิจิตอลบอกชั้น ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามีบอก วันที่และเวลา ณ ขณะนั้นด้วยนะครับ พอประตูลิฟท์เปิดออกจะพบกับงานตกแต่งภายในลิฟท์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตัวงาน Exterior จากภายนอกอาคาร หลังจากออกมาจากลิฟท์เต้ก็พบกับความ Shock ครับ เพราะโถงลิฟท์ของชั้นพักอาศัยของโครงการนั้น สวยมาก ผมให้เป็นโถงลิฟท์ชั้นพักอาศัยที่สวยที่สุดตึกนึงตั้งแต่ผมเคยรีวิวโครงการมาเลยครับ โดยผนังของโถงลิฟท์จะกรุด้วยหินอ่อน Black Emperado สีดำ นอกจากนี้บริเวณโถงลิฟท์ยังมีการติด LED บริเวณมุมทางออกทั้งสองด้านของโถงลิฟท์ด้วยครับ พอเปิด LED ขึ้นมาแสงสีเหลืองตัดกับหินสีเทาดำ ทำให้บรรยากาศดูหรูหราแต่ก็ซ่อนไว้ด้วยความลึกลับน่าค้นหา ดังนั้นวันนี้ผมจึงได้ศัพท์ใหม่สำหรับโครงการนี้ นั่นคือ MysteriousLuxury โดยงาน Interior โถงลิฟท์ของโครงการนี้มีมาให้ทุกชั้นนะครับ ไม่ใช่มาแต่ชั้นส่วนกลาง สำหรับทางเดินระหว่างชั้น สีที่ใช้ทาผนังนั้นสวย ดูเนียนสบายตา นอกจากนี้ยังทาเสมอกัน ไม่มีด่างอีกด้วยครับ นอกจากความสวยงามแล้วความปลอดภัยก็มีมานะครับ เพราะโครงการนี้มีการทำ Floor drain บริเวณทางเดินชั้นพักอาศัยด้วยครับ ดังนั้นถ้าเกิดเรื่องไม่ขาดฝัน เช่น น้ำรั่วหรือท่อแตกไหลมาที่ทางเดินชั้นพักอาศัย โครงการนี้จะปลอดภัยเพราะน้ำเหล่านั้นจะไหลลงไปที่ Floor drain ที่โครงการเตรียมไว้ ไม่ไหลเข้าไปภายในห้องพักอาศัยครับ

Pool

เป็นสระว่ายน้ำที่หรูที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยครับ โดยบริเวณชั้นนี้จะปูด้วยหินอ่อนทั้งหมดครับ การใช้หินอ่อนอาจจะดูธรรมดา แต่โครงการนี้มีการเลือกชนิดหินที่สวยมาก โดยเฉพาะ Arabascato ที่โครงการเลือกใช้ ผมว่าสุดยอดมาก เป็นอีกครั้งที่ผมต้องพูดว่า Flawless ครับ นอกจากนี้บันไดวนหุ้มด้วย Stainless กับทางเดินที่ทำจากหิน Arabascato สวยและลงตัวมากครับ ใน Part ของสระว่ายน้ำผมให้ 10 คะแนนเต็มเลยครับ

Fitness+Yoga room

อัดมาแน่นมากสำหรับห้อง Fitness โดยเฉพาะเครื่อง Cardio มาเยอะมาก และ Brand ที่ใช้กับรุ่นที่ให้มาค่อนข้างดีมากด้วยครับ สำหรับเครื่องเล่น Weight มาค่อนข้างดีเกือบครบ น่าเสียดายที่ขาด Smith machine แฮะๆ เอามาลเพิ่มได้นะครับ ถ้ามองใน Part ของงาน Interior นั้น ผมมองว่าสวยงามพอประมาณ อาจไม่ได้เด่นมากนัก อาจเนื่องด้วยเครื่องเล่นเยอะ เลยดูแน่นๆ ไปหน่อย แต่ถามว่าดีไหม? ผมว่าดีนะครับ เพราะในห้องฟิตเนส ความสวยไม่ได้ช่วยให้เราผอมขึ้นหรือหุ่นดีขึ้นครับ สำหรับห้องโยคะก็เป็นห้องเปล่าๆ นะครับ มีไว้สำหรับฝึกโยคะ แต่เต้คิดว่าถ้าคนอยู่เยอะขึ้นแล้ว อาจจะจ้างครูมาสอนให้ลูกบ้านจะเป็น Idea ที่ดีไหมน๊าาา

Fitness

Yoga room

Sky loung

โครงการออกแบบ Sky lounge ได้แปลกมาก เพราะทำออกมาเหมือน Living room ในบ้านเลยครับ มีโซฟา มี Counter bar และมีชุดครัวให้ทำอาหารด้วยหุๆ เอาจริงๆ Part นี้แอบกังวลเรื่องกลิ่นและความสะอาดจัง จุดเด่นของห้องนี้นอกจาก Ceiling ที่สูงมากแล้วเครื่องเสียงของห้องนี้เป็นของ B&O นะค๊าบ Hi-so ม๊าก งาน Interior สวยงามเหมือนเดิม

Sky garden

สุดยอดความหรูของสวนลอยฟ้า เพราะพื้นของชั้นนี้ปูหินอ่อนหมดครับ ฟังไม่ผิดครับพื้นทางเดินบริเวณสวนเป็นหินอ่อนหมดครับ เคยเห็นไหมล้า…โครงการอื่นหรูแค่ไหนก็ปูแค่กระเบื้อง หรือไม้เทียม แต่โครงการนี้ปูหินอ่อน สำหรับ Highlight ของสวนนอกจากพื้นจะเป็นหินอ่อนหมดแล้ว อีกหนึ่ง Highlight ที่น่าสนใจไม่น้อยกว่ากันก็คือ บันไดวนสุด Sexy ของชั้นนี้ สวยไหมล้า…

Onsen

เป็น Onsen ที่สวยหรูที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาครับ ทุกอย่างบนพื้นที่นี่เป็นหินอ่อนหมด อีกเช่น Black Emperado ยังคงตามาที่ห้องนี้ครับ

ผมไม่ได้ไม่ Bias นะ ครับ สำหรับผมแล้ว Beatniq เป็นโครงการที่ให้ Material ของงานส่วนกลางหรูที่สุดระดับต้นๆ บนถนนสุขุมวิทละครับ วัสดุที่ใช้เกือบทุกอย่างจะเป็นหินอ่อน นอกจากนี้งานออกแบบของส่วนกลางยังทำออกมาได้ดีมาก ดีกว่าภาพ CG ที่โครงการเคยใช้ในการ PR อยู่หลายล้านปีแสง สำหรับผมแล้วในส่วน Facilities ไม่อะไรที่ผมจะติเลยครับ

Room

Spec ห้องตัวอย่างผมได้รีวิวไปแล้ว วันนี้ผมจึงคิดว่าผมจะ List จุดเด่น Spec ภายในห้องมาให้ดูกันดีกว่าว่าจะเก๋ขนาดไหน

Fully Fitted หรือ Fully Furnished

ในอดีตนั้นโครง Beatniq จะเป็น แบบ Fully Fitted โดยจะมีชุดครัว ห้องน้ำและ Built in ตู้ต่างๆ แต่ปัจจุบันทางโครงการมีแบบ Fully furnished แล้วนะครับ และที่สำคัญ Furniture ที่ให้แพงมากด้วยครับ เพราะเฟอร์นิเจอร์ Brand นอก ไม่ใช่แบบไก่กานะค๊าบ ณ เวลานี้ที่โครงการมีหลายห้อง หลาย Style มาให้เลือกชมอีกด้วยนะครับ

High grade material

ทุกอย่างใช้ของดีหมดยิ่งถ้าเปรียบเทียบกับคอนโดที่เปิดตัวในช่วงปีที่ผ่านมา บอกเลยว่าโครงการนี้ดีสุดครับ เรามาครับว่าโครงการนี้มีอะไรเด่นๆบ้าง

เฟรมทุกอย่างในห้องไม่ว่าจะเป็นเฟรมประตูหรือเฟรมหน้าต่าง ทุกบานจะเป็นอลูมีเนียมหมดครับ ดังนั้นความแข็งแรงต้องบอกว่าตลอดไปครับ ถ้าไปดูโครงการ Super Luxury โครงการอื่นอย่าลืมถามนะครับว่าเฟรมต่างๆ ภายในห้องใช้เป็นอะไรครับ ไม้หรืออลูมิเนียม lol เต้มั่นใจว่าคำตอบที่ได้อาจจะไม่ถูกใจนักนะครับ
ไม่มีงานกระเบื้องภายในห้องเลยครับ เช่น พื้นห้องครัว หรือพื้นห้องน้ำจะเป็น Composit Marble หมดครับ อีกเช่นกันครับ ถ้าไปโครงการอื่นลองถามดูนะครับว่าใช้วัสดุอะไรในการปูห้องน้ำ และห้องครัว เพราะคำตอบที่ได้ผมว่าคงหนีไม่พ้นกระเบื้องประเภทต่างๆ ปล.จะเป็นกระเบื้อง Porecelian หรือ กระเบื้อง Homogeneous แต่กระเบื้องก็คือกระเบื้องนะหุๆ
สำหรับ Top ชุดครัวจะเป็น Composite Stone Quartz ซึ่งโดยปกติหิน Quartzค่อนข้างทนต่อความร้อน ความเป็นกรดหรือด่างค่อนข้างสูงอยู่แล้ว พอมาเป็น Composite ความคงทนยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก
ก๊อกน้ำร้อนของชุดครัว ต่อให้เปิดน้ำร้อนแบบร้อนสุดสุดยังไงตัวก๊อกก็ไม่ร้อน บางคนอาจสงสัยว่าทำไมก๊อกต้องร้อนด้วย เพราะก๊อกอ่างล้างจานของโครงการได้เดินระบบน้ำร้อนมาให้ครับ ซึ่งอีกเช่นกัน หาได้น้อยมากจริงๆ ที่โครงการจะเดินน้ำร้อนมาไว้ที่ห้องครัว แต่ถ้าน้อยยิ่งกว่าหรือผมไม่เคยเห็นจากโครงการอื่นเลยก็คือ โครงการนี้ได้ให้ก๊อกแบบ Cool tap มาด้วย นอกจากนี้น้ำที่ออกมาจะนุ่มและเมื่อสัมผัสมือจะไม่กระจายอีกด้วยครับ
สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าของชุดครัว เช่น เตาไฟฟ้า ฮูดดูดอากาศ โครงการนี้ให้เป็นของ Kuppersbusch ซึ่งเป็น Brarnd ที่ดีระดับต้นๆ เลยนะครับ อ้อลืมบอกว่าเตาไฟฟ้าของโครงการนี้มาแบบ Induction ด้วยนะครับ
ภายในห้องน้ำจะมี Washlet ของ TOTO ให้ด้วยนะครับ นอกจากนี้โครงการยังเดินระบบน้ำร้อนให้กับอ่างล้างมือให้ด้วยนะค๊าบ
Thermostatระบบล็อคอุณหภูมิน้ำที่ Shower ไม่ให้อุณหภูมิน้ำสวิงตามแรงดันน้ำ ระบบนี้จะหาตามโรงแรมยังยากเลยครับ 55
สวิตท์เปิด/ปิดไฟห้องที่สามารถถอดออกจากผนังถือไปไหนก็ได้ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน

สำหรับ Spec ภายในห้องที่ผมพูดถึงในวันนี้จะเป็นในส่วนที่เด่นๆ เท่านั้นครับ ความจริงแล้วในแต่ละ Room type นั้น จะมี Gimmick เก๋ๆ ที่โครงการให้แตกต่างกันไป เช่น บางห้องได้ผนังหินอ่อน Portolo Gold (หินตัวนี้เห็นแล้วสวยน้ำตาไหลเลยครับ)หรือ บางห้องก็ได้โต๊ะทำงานหินอ่อน Black Marquina และในอีกหลายๆห้องนั้นมีการแต่งห้องพิเศษที่เป็นแบบ Fully Furnished แต่ใครเห็นราคาแล้วจะ Shock!!! เพราะเป็นห้องไร้ตำหนิ แต่นำมาทำ Fully Furnished และที่ Surprised ยิ่งกว่าก็คือ ราคาถูกกว่าพรีเซลอีกด้วย อันนี้จริงๆไม่มุขครับ และไม่ได้เขียนเพื่อเรียกแขกไปโครงการด้วยนะครับ หุๆ เอาจริงๆอยากให้ไปดูเองครับว่าผมพูดเกินจริงไหม…

ทำไมต้อง BEATNIQ

ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสคุยกับทีมก่อสร้างตามโอกาสสมควร และแจ้งสิ่งที่ผมอยากเห็นและอยากให้มีภายในโครงการ ประหนึ่งคนร่วมออกอีกหนึ่งคน ซึ่งในวันนี้หลังจากผมได้เห็นอะไรหลายๆอย่างภายในโครงการ ถึงแม้ว่าจะยังไม่ 100% แต่ผมสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าโครงการนี้จะเป็นโครงการที่ Spec ส่วนกลางดีที่สุด หรูที่สุดบนถนนเส้น Main ของสุขุมวิทแล้วครับ ผมว่าไม่หลุด TOP 3 เวลานี้แน่ครับ แล้วทำไมต้อง Beatniq ละครับคุณเต้??? สำหรับในมุมมองของผมทำไมต้อง Beatniq

ความเป็น Exclusive เพราะจำนวนห้องยูนิตไม่มาก จำนวนยูนิตสูงสุด/ชั้น เพียง 9 ห้องเท่านั้น
โครงการติดถนนใหญ่ยังไง Value ก็ไม่ตก
งาน Exterior ที่เป็นแบบ Timeless
ในหลายๆ ห้อง ราคาที่ขาย ณ ปัจจุบันแอบถูกกว่าช่วงพรีเซล
โครงการให้แบบ Fully Furnished แม้แต่เต้เองยังอิจฉา….ได้ไงอ่า…พึงแต่ปลอบใจตัวเองว่าได้เลือกก่อน
โครงการที่เปิดใหม่ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาผมยังไม่เห็นโครงการไหนที่ขายราคาตารางเมตรละประมาณ 2 แสนปลายๆ แล้วให้ Spec ห้องและส่วนกลางดีขนาดนี้ และคาดว่าจะไม่มีอีกแล้ว
งาน Aftersales ที่ดี แม้โอนไปแล้วก็ยังช่วยดูแลกันอยู่ เป็นอีกหนึ่ง Developer ที่ดีที่สุดรายหนึ่งในเมืองไทย
และท้ายสุดก็คือ…เต้ซื้อที่นี่ครับ…และเต้โอนด้วยครับ…และเต้จะถือไปอีกนานแสนนาน…และบรรดาเหตุผลที่ผมกล่าวมาทั้งหมด จะดูเล็กน้อยไปเลย…เมื่อมาอ่านเหตุผลข้อสุดท้ายว่า “ทำไมต้อง Beatniq” ทำไมต้อง Beatniq เพราะว่าเต้ซื้อครับ 55 ล้อเล่นค๊าบ แต่เต้สัญญาว่าจะทำโครงการนี้ให้น่าอยู่นะค๊าบ มาเป็นเพื่อนบ้านกันอิๆ

ประมาณนี้นะครับสำหรับโครงการที่ผมชอบมากที่สุดโครงการหนึ่งแห่งปี มีคนแซวผมว่า Beatniq=Newbangkokcondo เพราะเห็นผมพูดถึงโครงการนี้บ่อยมากในช่วงเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา ไม่ได้พูดบ่อยนะครับ แต่แค่พูดถี่แค่นั้นเอง55…เอาจริงๆโครงการไหนที่ผมมีห้องอยู่ ผมก็พูดถึงบ่อยๆแบบนี้ละครับ แต่ที่นี่อาจจะพูดบ่อยหน่อย เพราะว่า คอนโดที่ผมอยู่ตอนนี้อยู่ใกล้กับโครงการมากเลย จึงทำให้ขับรถผ่านบ่อยๆ นอกจากนี้โครงการ Beatniq ยังเป็นโครงการ Super Luxury โครงการแรกที่ผมซื้อ หลังจากทำงานอย่างหนักในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมา ดังนั้นผมรู้สึกถึงความภูมิใจน้อยๆที่ได้มีโอกาสได้อยู่ที่นี่ เอาจริงๆนะครับในตอนแรกก็คิดว่าจะเอาปัญญาที่ไหนมาผ่อนดาวน์ แต่เต้ก็ทำได้(ดีใจจัง)

และท้ายสุดอ่านถึงตอนนี้หลายๆคนสงสัยว่า…ซื้อไปจะคุ้มไหม? คิดง่ายๆครับ อสังหาริมทรัพย์ ติดถนนสุขุมวิท อยู่ระหว่างทองหล่อและพร้อมพงษ์ จะมีราคาลงไหมเอย? ผมอยากให้เปรียบเทียบกับโครงการที่กำลังจะเปิดใหม่เร็วๆนี้หรือที่พึ่งเปิดไปอย่าง Aestique กับ Location ปลายทองหล่อ โดยราคาวิ่งอยู่ประมาณสองแสนปลายๆ-สามแสนกว่าๆต่อตารางเมตร The Strand ก็ซัดไป สามแสนกว่าๆต่อตารางเมตร Hyde Heritage ตรงเอกมัยก็ได้ยินมาว่าประมาณตารางเมตรละสามแสนกว่าๆ แล้วแบบนี้โครงการไหนน่าคุ้มกว่ากันเอย ผมมั่นใจว่า 3 โครงการที่ผมยกมาเปรียบเทียบนั้นถ้าตีตารางเปรียบเทียบ Spec ข้อดีข้อด้อยแล้วผมว่าของโครงการ Beatniq นั้น ไม่แพ้ทั้ง 3 โครงการนี้แน่ครับ แต่คุณซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่าและในบางโครงการผมว่าชนะขาดอีกด้วยครับหุๆ

และท้ายสุดก่อนไปตอนนี้เปิดตัวตึกอย่างเป็นทางการแล้วนะค๊าบโดยงาน Open house จะเริ่มวันที่ 22 – 23 กันยายน โดยจะมีห้องโปรโมชั่น Fully Furnished ราคาพิเศษมาก พิเศษจนทำให้เต้อารมณ์เสีย ว่าทำไมฉันซื้อแพงในรอบ Pre-sales ดังนั้นอย่ารอช้า เพราะมีเพียง 3 ห้องเท่านั้นครับ ย้ำนะครับ 3 ห้องจริงๆ ไปละค๊าบ อ้อเกือบลืมก่อนไป เต้มีภาพห้องตัวอย่างใหม่ 2 ห้องมาให้ชมกันด้วยนะครับอิๆ