MGallery Residences, MontAzure Lakeside ที่สุดของการลงทุนที่มาพร้อมกับการพักผ่อนตาม Style เสือนอนกินของจริง

เป็นการเขียน Content ที่บอกเลยว่านานๆ จะมาทีนึงเพราะเป็นการเขียน Content เพื่อการลงทุนแบบค่อนข้างจริงจัง และเต้ให้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับใครที่ชอบลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในเวลานี้หรือใครที่คิดอยากจะเริ่มลงทุนทางเลือกนี้ถือว่าค่อนข้างปลอดภัยมาก ก่อนเข้าไปที่ตัวบทความ เต้ถามก่อนเลยครับว่า “เคยซื้อคอนโดเพื่อลงทุนไหม?”  ถ้าซื้อแล้วเป็นอย่างไรบ้างครับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน? สำหรับคนที่ซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่าหรือขายต่อก็คงจะทราบคำตอบของคำถามแล้วว่าสภาพสถานการณ์ในช่วงนี้เป็นอย่างไร และเต้เชื่อว่าสถาการณ์ในอนาคตก็น่าจะยังไม่ดีขึ้น Loop ของตลาดอสังริมทรัพย์ประเภทคอนโดในปีนี้และปีหน้าและปีต่อๆ ไปก็คงเหมือนปัจจุบันนั่นคือ

1. รถไฟฟ้าขยายและมีสถานีเพิ่มมากขึ้น
2. ปริมาณคอนโดเกิดใหม่ตามแนวรถไฟฟ้าก็คงมีจำนวนเพิ่มขึ้นตามสถานีรถไฟฟ้าเปิดใหม่
3. ราคาขายคอนโดไม่มีวันถูกลง เพราะราคาขยับตามต้นทุนที่ดินซึ่งสูงขึ้นทุกปี
4. การปล่อยเช่าที่ยากขึ้น เพราะมี Supply มาเติมทุกปี
5. ราคาค่าเช่าที่ยากที่จะขยับขึ้น เพราะมีคอนโดเกิดใหม่เพิ่มขึ้นมากมาย จึงทำให้เกิดการตัดราคากันเกิดขึ้น เพื่อให้ห้องตัวเองปล่อยเช่าได้
6. อัตราการเพิ่มของรายได้วิ่งตามไม่ทันการเพิ่มขึ้นของราคาคอนโด ทำให้ผู้เช่าไม่มีความสามารถในการจ่ายค่าเช่าในราคาสูงได้ ประกอบกับเจ้าของห้องชุดก็พร้อมใจกันลดราคาทำให้อัตราผลตอบแทนตกลง
7. ตึกที่มีอายุมากขึ้นนอกจากค่าเช่าที่ได้น้อยแล้ว ยังมีโอกาสเสี่ยงของการไม่ได้ผู้เช่า เพราะตึกใหม่ๆ มีสร้างเสร็จทุกๆ ปี โดยตึกใหม่ๆพร้อมใจที่จะลดค่าเช่าของตัวเอง

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ถ้ามองในภาพกว้างๆ ตลาดเช่าและขายรีเซลของอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดในบ้านเราจึงค่อนข้างมืดมน แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี???ในเมื่อดอกเบี้ยเงินฝากแบงค์ก็แสนน้อย ตลาดหุ้นก็ไม่ไปไหน มีแต่ทรงกับทรุด ลงทุนในคอนโดก็ไปไม่ไหวละ นั่นซิเราจะทำไงดี? วันก่อนเราไม่รู้แต่วันนี้เต้มีคำตอบที่จะทำให้นักลงทุนเริงร่ากับผลตอบแทนดีๆที่เกิดขึ้นได้จริงและไม่มโนกับการลงทุนในโครงการซึ่งจะนำห้องชุดไปจดทะเบียนเป็นโรงแรม

ก่อนเข้าไปในเนื้อหาเต้ขอกล่าวความเป็นมาของโครงการนี้สักนิดนึงนะครับว่ามาเขียนบทความนี้ได้อย่างไร ก่อนหน้านี้ถ้าใครได้ดู Live ใน Facebook ของเต้ EP 10 จะเห็นว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เต้ลงมาภูเก็ต เพราะต้นเดือนกันยายนได้ลงมาแล้วรอบนึง เอาจริงๆที่ลงมาก็เรื่องนี้ล่ะค๊าบ ลงมาดูและศึกษาโครงการที่เป็น Branded Hotel ซึ่งเราสามารถซื้อเพื่อลงทุนได้ โดยหลังจากเราซื้อแล้วทางโรงแรมจะเข้ามาบริหารโครงการให้ ในช่วงที่ผ่านมาก็ไปดูหลายโครงการหลาย Developer ครับ แต่ท้ายสุดมาจบที่นี่ เพราะค่อนข้างมั่นใน Developer เพราะรู้จักและเคยซื้อโครงการด้วยกันมาก่อน

ภูเก็ต

ทำไมต้องภูเก็ต มีใครแย้งไหมว่าก่อน Covid-19 จะมา จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่ถือว่าเป็น World classdestination ซึ่งเวลาที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเมืองไทยก็ต้องมาที่นี่ โดยสิ่งที่เต้ให้ความสนใจอย่างมากมายก็คือความแพงของเกาะนี้ หลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่าค่าครองชีพของจังหวัดภูเก็ตนั้นสูงกว่ากรุงเทพมหานครนะครับ เคยได้ยินไหมครับว่าถ้ามาเที่ยวภูเก็ตเอาเงินไปเที่ยวต่างประเทศดีกว่า นั่นก็เพราะว่าค่าใช้จ่ายพอๆ กัน อย่างไรก็ตามในสายตาสำหรับชาวต่างชาตินั้นค่าใช้จ่ายสูงแค่ไหนก็สู้เพราะภูเก็ตในสายตาของชาวต่างชาตินั้นถือว่าเป็น Beach Paradise ที่มีชื่อเสียงเรื่องความสวยงามระดับโลก ดังนั้นจะเห็นว่าถ้ามาภูเก็ตในสภาวะปกติ เราจะพบกับชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย เริ่มเห็นภาพลางๆ หรือยังว่าเต้จะสื่ออะไร…ถ้ายังเต้อธิบายต่อเนอะ…Content ตัวนี้จะเกี่ยวกับการซื้อห้องในโครงการเพื่อนำมาให้โรงแรมบริหารต่อ ดังนั้นจังหวัดที่มี Traffic ที่ดีและอัตราค่าที่พักต่อคืนค่อนข้างสูง และท้ายสุดก็คือยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่พร้อมจะจ่าย 3 ปัจจัยนี้คือจังหวัดที่เต้จะเลือกลงทุนครับ ซึ่งหลังจากเต้มองซ้ายมองขวาแล้วภูเก็ตคือคำตอบสุดท้ายของเต้ในวันนี้

MontAzure

MontAzure เป็นชื่อโปรเจคของการร่วมทุนของ 3 บริษัทใหญ่ ซึ่งจะประกอบด้วย The Narai Group (Thailand), Arch Capital (Hong Kong) and Philean Capital (Singapore) ซึ่งจะรังสรรค์ Mixed – Used ขนาดใหญ่ที่สุดโปรเจคหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต สำหรับ The Narai Group (Thailand) และ Arch Capital (Hong Kong) ได้มีการทำโปรเจคร่วมกันมาแล้วหลายโครงการในกรุงเทพครับ ไม่ว่าจะเป็น Parkland Charan-Pinklao, Amanta Lumpini, Parkland Grand Taksin หรือ Parkland Phetkasem อ่านรายชื่อโครงการมาถึงตอนนี้แล้ว เต้เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักแล้วเนอะว่าคนที่พัฒนา MontAzure คือใคร 55 ถ้ายังไม่รู้อีกเต้บอกก็ได้ครับ Developer ที่พัฒนา MontAzure ก็คือ Developer ที่พัฒนาโครงการ The Parkland ในกรุงเทพไงครับหรือชื่อที่คุ้นๆ หูก็คือ Narai Property นั่นเอง นี่คือความแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบกับหลายๆ Developer ที่พัฒนาโครงการรูปแบบนี้ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเกือบทั้งหมดจะเป็นบริษัท No name ที่พอไปหา Background ของบริษัทแล้วเกิดอาการงงว่าบริษัทไรหว่า???ไม่เคยได้ยินชื่อ ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบโปรเจค MontAzure กับโปรเจคอื่นๆ เต้จึงค่อนข้างมั่นใจว่าโปรเจค MontAzure น่าเป็นโปรเจคที่น่าไว้ใจที่สุดบนเกาะภูเก็ตสำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในรูปแบบนี้ครับ 

กลับมาที่ Mixed – Used กันต่อดีกว่า ตามที่กล่าวไปนะครับ MontAzure จะเป็น Mixed – Used ขนาดใหญ่ระดับต้นๆบนเกาะภูเก็ตเลยครับ ดังนั้นโปรเจคที่พัฒนาแล้ว กำลังพัฒนาและรอการพัฒนาจะมีมากมายหลาย Phase มากครับ แต่ในวันนี้โปรเจคที่พัฒนาแล้วเสร็จและกำลังพัฒนาจะมีดังนี้ 

• Twinpalms Residences MontAzure
• InterContinental Phuket Resort
• HQ Beach Lounge Restaurant
• MontAzure Beach Club
• Cafe Del Mar 
• Movenpick
• MGallery Residences, MontAzure Lakeside ซึ่งจะเป็นพระเอกของเราในวันนี้

และในอนาคตก็จะมีโปรเจคอื่นๆ ตามมา เห็นแต่ละ Brand ไหมครับ มาแบบ World Class ทั้งนั้นเลยครับ เราไปต่อกันที่พระเอกของเรากับ MGallery Residences, MontAzure Lakeside กันเลยนะค๊าบ

MGallery Residences, MontAzure Lakeside

สำหรับ Content ในตัวนี้จะมี Part 1 และ Part 2 นะครับ โดย Part แรกจะเป็นของ MGallery Residences, MontAzure Lakeside แต่ต่อไปขอเรียกสั้นๆว่านะครับ เพราะชื่อเต็มแอบยาวไปนิดนึงแฮะๆ ส่วน Part ที่ 2 ต้องรอติดตามนะค๊าบ

สำหรับเต้แล้วถ้าพูดถึง MGallery มันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก โดย MGallery จะอยู่ในเครือของ Accor ครับ ซึ่งตัว Brand ของ MGallery นั้นจะตีคู่มากับ Pullman, Movenpick และ Swissotel ซึ่ง Brand เหล่านี้ถือว่าเป็นโรงแรม 5 ดาวทั้งหมด โดยตัว Brand ของ MGallery ก็เป็น โรงแรม 5 ดาว เช่นกัน แต่จุดที่แตกต่างกันเล็กน้อยกับ Brand อื่นๆที่กล่าวมาก็คือ MGallery จะเป็น Boutique 5 Hotel หรือเรียกง่ายๆก็คือเป็นโรงแรมบูทีค 5 ดาวนั่นละครับ ซึ่งถ้ามอง Character ของตัว Brand ในภาพรวมแล้ว MGallery ในแต่ละ Location จะมีลักษณะงาน Interior และ Exterior ที่ค่อนข้าง Unique  เรียกได้ว่า MGallery ในแต่ละ Location ตัว Concept ในการออกแบบจะไม่เหมือนกันเลยครับ โดยงานออกแบบของแต่ละโครงการจะจำคำนึงถึงพื้นที่ของโรงแรมที่ไปตั้ง โดย MGallery จะไม่ใช่ความหรูหราแบบโรงแรม 5 ดาวทั่วไป แต่ตัว Character ของตัวโครงการจะมีความ Distinctive ในแบบฉบับของตัวเอง แต่สิ่งที่ MGallery แต่ละLocation แชร์ร่วมกันก็คือความ Grand ของโครงการ ก็เป็นโรงแรม 5 ดาวอะครับ ยังไงความว่า Grand ก็ทิ้งไม่ได้

อย่างไรก็ตามบางคนสงสัยว่าทำไมโครงการนี้จึงมีคำว่าResidences หลังคำว่า MGallery ด้วยสาเหตุที่มีคำว่า Residences ตามท้าย เนื่องจากตัวโครงการมีการแบ่งตึกขายระหว่างโรงแรมและที่พักอาศัยส่วนตัว พูดง่ายๆ ก็คือถ้าเราอยากได้บ้านพักตากอากาศโดยไม่คิดจะปล่อยเช่าและอยากได้บริการแบบโรงแรมทางDeveloper ก็แยกตึกขายสำหรับลูกค้ากลุ่มดังกล่าวด้วยครับ สำหรับอาคารที่จะพัฒนามาเป็นโรงแรม ทางผู้ซื้อจะต้องเข้าร่วม Rental Program แบบ 100% ไม่สามารถอยู่เองได้นะครับ อย่างไรก็ตามถ้าใครไม่ชอบอาคารที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้ เราสามารถไปซื้อห้องในอาคารอื่นแล้วมา Join Rental Program ก็สามารถทำได้นะครับ แต่ส่วนตัวแล้วแอบชอบตึกที่นำมาทำเป็นโรงแรมมากกว่า 55 เพราะทุกห้องคือโรงแรมหมด สำหรับใครที่ต้องการซื้อไว้พักอาศัยเอง สิ่งที่ลูกค้าจะได้ก็คืองานบริการระดับ 5 ดาว ภายในโครงการ จาก MGallery ซึ่งเต้ว่ามันเป็นอะไรที่ฟินมากมาย

Overview