Review
Centara Grand Beach Resort & Villas Krabi แน่ใจหรือว่านี้คือโรงแรม 5 ดาว
Posted 09/12/2020
เห็นจั่วหัวแล้วบางคนมีงง เพราะในการรีวิวโรงแรม Inter Continential Phuket ในครั้งที่แล้ว เต้บอกว่าจะรีวิว 4 โรงแรมที่ภูเก็ตติดๆ กัน แต่มาวันนี้โรงแรมที่กระบี่อย่าง Centara Grand Beach Resort & Villas Krabi มาแรงแซงโค้ง เบียดคู่แข่งอีก 3 โรงแรมให้กระเด็นตกคลองไปก่อน เรามาดูกันครับว่าทำไม Centara Grand Beach Resort & Villas Krabi จึงทำให้อีก 3 โรงแรมกระเด็นตกคลอง และที่ว่าสยองเป็นเพราะว่าโรงแรมนี้จะมีสิ่งเหนือธรรมชาติหรือไม่ โปรติดตามครับ
Journey
การเดินทางจะค่อนข้างแปลกนิดนึง เนื่องจากที่ตั้งของโรงแรมยังไม่มีถนนตัดผ่านทำให้เราไม่สามารถเดินทางไปยังโรงแรมได้โดยรถยนต์ครับ ดังนั้นเราต้องนั่งเรือ Speed Boat จากหาดนพรัตน์ธาราไปที่โรงแรมเท่านั้น อารมณ์เหมือนเราไปเที่ยวเกาะเลยนะครับ
Around the hotel
ค่อนข้างเงียบสงบ เพราะบริเวณหาดจะมีแค่โรงแรมนี้เพียงโรงแรมเดียวสำหรับ Highlight ที่ถือว่าเป็นที่สุดของโรงแรมนี้ก็คือหน้าโรงแรมเป็นวิวทะเล ซึ่งสามารถมองเห็นเกาะแก่งเล็กๆ มากมาย ในทะเลและในเวลาเดียวกันหลังโรงแรมก็เป็นภูเขาหินขนาดใหญ่ บรรยากาศในภาพรวมนั้นค่อนข้างเงียบสงบ ทำให้ผู้พักอาศัยนั้นได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น
Lobby
มีความเป็นไทยนิดๆ ขนาดไม่ใหญ่มาก โดยตัว Lobby จะเป็นแบบ Open Air สำหรับงาน Interior ก็สวยแบบเก่าๆ ดีครับ อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่อยาก Comment ภายใน Lobby ก็คือกองทัพยุงที่ Lobby นั้นโหดมาก นั่ง Check in ไป 15 นาที โดนไปหลายแผลเลยครับเอาจริงๆ ทางโครงการน่าจะมี Spray กันยุงให้ลูกบ้านหน่อยมะค๊าบหุๆ
Fitness
เป็นอีก Part หนึ่งที่ค่อนข้างชอบเลยครับ เพราะอุปกรณ์ต่างๆ มาครบและค่อนข้างใหม่มากถึงแม้ภายในตัวห้อง Fitness จะค่อนข้างเก่ามากถึงมากที่สุดอีกเช่นเคยก็ตาม โดยสิ่งที่เต้คิดว่า Fitness ของโรงแรม 5 ดาวไม่จะน่าเกิดขึ้นก็คือวันที่เต้ไปใช้บริการที่ห้อง Fitness นั้น ฝนตกที่โรงแรมค่อนข้างหนัก แล้วปรากฏว่าภายในห้องน้ำของห้อง Fitness นั้นมีน้ำรั่ว ซึ่งมาจากฝ้า จึงทำให้เกิดน้ำท่วมในห้องน้ำ ก็เข้าใจว่าโรงแรมต้องการให้แขกผู้พักอาศัยใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่ไม่ต้องใกล้ขนาดนี้ก็ได้นะหุๆ…แต่มันยังไม่จบเพียงแค่นั้น…
Cenvaree spa Spa
ไม่ได้ลองนะครับ แต่ราคา Spa ที่นี่ไม่แรงครับ อาจจะเป็นช่วงโปรโมชั่นหรือเปล่าด้วยไม่แน่ใจ แต่ราคาจับต้องได้เลยครับ
Pool
เป็นสระว่ายน้ำเล่นระดับสองชั้นและมี Slider ในภาพรวมสระว่ายน้ำค่อนข้างธรรมดาไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นเท่าไหร่
Beach
ทะเลสวยมากครับ ชายหาดเป็นรูป U-shape ทอดตัวยาวหายลับไปที่มุมเขา แต่ทรายไม่ค่อยละเอียดเท่าที่หาดกมลาที่ภูเก็ต อย่างไรก็ตามช่วงนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาที่หาดและหาดนี้ก็มีโรงแรมนี้แค่โรงแรมเดียว ดังนั้นจึงทำให้ชายหาดเงียบสงบดี
Library Lounge
เป็นเหมือนห้องนั่งเล่น งาน Interior ภายในห้องถือว่าสวยงามแบบเก่าๆดีครับ
Restaurant
ภายใน Centara Grand Beach Resort & Villas Krabi จะมี Outlet ที่ให้บริการด้านอาหารอยู่ 4 Outlets
- Lotus Court
- ฮากิ
- COAST BEACH CLUB & BISTRO
- สวนบัว
Lotus Court
เป็นร้านอาหารแบบ All day dining ครับ และเป็นห้องอาหารที่มีไว้สำหรับการให้บริการอาหารเช้าด้วยนะครับ สำหรับทริปนี้เนื่องจากการเดินทางระหว่างที่พักกับร้านอาหารไม่ง่าย เพราะต้องนั่งเรือเข้า/ออกโรงแรม จึงทำให้การเดินทางไม่ค่อยสะดวก เต้เลยขอลองอาหารของห้องอาหารโลตัสสักหน่อย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยได้ยินกิตติศัพท์มาว่าร้านอาหารที่นี่แพงและไม่อร่อยหุๆ ต้องมาดูครับว่าคำร่ำรือจะเป็นจริงหรือไม่ โดยเต้ได้ลองอาหารถึง 2 มื้อด้วยกัน ซึ่งการรีวิวอาหารทั้งสองมื้อของโรงแรมจะมาหลังจากรีวิวอาหารเช้านะครับ
Breakfast
Part นี้ขอชมครับถึงคนจะเข้าพักไม่มาก แต่ Line ของอาหารมาค่อนข้างจัดเต็มเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภท American Breakfast อาหารไทย/จีน ก็มีให้เลือกมากมายหลายแบบ สำหรับเครื่องดื่มนั้นมาค่อนข้างเต็มมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้มากมายหลายชนิด รวมทั้ง Infused Water ในส่วนของชา/กาแฟก็มาครบมี Syrub กลิ่นต่างๆ ให้ใส่ผสมด้วยนะ ในเรื่องของความหลากหลายนั้นไม่ติด แต่รสชาติล่ะ???จะผ่านหรือไม่เดี๋ยวมาชมกันครับ
Pastry
ต้องออกตัวก่อนว่าไม่ได้มีโอกาสลองทานทุกอย่างนะครับ เพราะรายการอาหารนั้นมีมากมายหลายอย่าง โดยเต้จะพูดถึงแต่ส่วนที่เต้ได้ทานนะครับ โดยใน Part แรกที่เต้จะกล่าวถึงนั้นคือพวกเมนูขนมปัง ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นเมนูโปรดของเต้ โดยในภาพรวมคะแนนความอร่อยที่เต้ให้กับเมนูขนมปังต่างๆ ในห้องอาหารเช้านี้ก็คือ 9.0 ค๊าบ ซึ่งเต้อยากบอกว่ามันสูงมากนะ โดยเมนูที่เต้คิดว่ามันเป็น Signature ของ Pastry ที่นี่ก็คือ Plain Madeleine กับ Vanilla Croissant อร่อยจริงๆ ใครไปต้องลองครับ
Chinses food
บางวันมีซาลาเปาบางวันมีขนมจีบครับ เสริมด้วยโจ๊กและข้าวต้มครับ อย่างไรก็ตามเต้ไม่ได้ทานเพราะว่ามันดูธรรมดาไปนิดนึง และเครื่องเคียงที่ให้ทานคู่นั้นขี้เหร่มากครับ ไม่ว่าจะเป็นยำไข่เค็ม ไข่ต้ม กุนเชียงทอดและผัดกาดดอง น้อยไปมะ? โรงแรม 3 – 4 ดาวที่เคยพักหลายๆ ที่เครื่องเคียงยังมาเต็มกว่านี้มากมาย
Thai Food
มาเยอะมาก ไม่แน่ใจว่าเป็นปกติหรือเปล่า เพราะเมนูเพื่อคนไทยเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยว น้ำยาชนิดต่างๆ ที่เสิร์ฟพร้อมขนมจีน ข้าวผัด ปีกไก่ทอดกับข้าวเหนียว ก็มีนะครับ เอาจริงๆ มีเยอะกว่านี้ครับ แต่ไล่ไม่หมดหุๆ แล้วรสชาติล่ะ? เอาไปเลย 6 ครับ และที่ยังได้ 6 เพราะได้ก๋วยเตี๋ยวหมูช่วยชีวิตนะ คือเต้บอกเลยว่าอาหารไทยรสชาติค่อนข้างพังมากครับ ขนมจีนเส้นขาดเหมือนเศษขนมจีน น้ำยาต่างๆรสชาติธรรมดามากสู้ร้านโขลกที่ Habito Mall ของเต้ก็ไม่ได้ ปีกไก่ก็ไม่อร่อย ผัดซีอิ๋วไม่มีเนื้อสัตว์เลย จะว่าเป็น Vegeterian ก็ไม่ใช่ เพราะใส่ไข่ ผัดมาเหมือนผัดซีอิ๊วที่ขายตามถนนจานละ 10 บาท รสชาติและ Presentation ถูกมาก สรุปแล้วอาหารไทยนอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้วถือว่าไม่ผ่านครับ
Etc…
ก็จะเป็นพวก Ham แบบต่างๆ, Hash brown, Sausage, Cherry Tomatoes with Balsamic, Baled Beans หรือเรียกง่ายๆ ก็เป็นอาหารเช้าแบบ American Breakfast + European Breakfast ความจริง Pastry ก็อยู่ใน Section นี้นะ แต่เต้แยกออกมาพิเศษเพราะเต้ชอบทานเป็นการส่วนตัวหุๆ อย่างไรก็ตาม หลายๆ อย่างที่กล่าวถึงเต้ไม่ได้ทานเลย ใครไปก็ลองทานและ Comment มาได้นะค๊าบ
Cleanliness
ขอใส่ Part นี้หน่อย เพราะว่าโต๊ะทานอาหารไม่สะอาดเลย เห็นความเงาของคราบมันบนโต๊ะ นอกจากนี้ตอนขอทิสชู่เพิ่ม พนักงานนำทิสชู่มาว่างบนโต๊ะไม่มีจานหรืออะไรลองเลย เล่นเอางงไม่น้อย เห็นทางโครงการมีมาตรการป้องกัน Covid ให้สวมหน้ากาก สวมถุงมือเวลาตักอาหาร แต่ทำไมเรื่อง Basic มากๆอย่างความสะอาดพื้นฐานถึงมองข้ามได้
Service
บริการค่อนข้างดี การเก็บจานทำอย่างรวดเร็ว หน้าตาพนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส่
Breakfast 1
Breakfast 2
Lunch/Dinner
ได้ลองทานอาหารของห้องอาหาร Lotus 2 ครั้ง โดยมื้อกลางวันจะเป็นผัดไทยและผัดกระเพรา เริ่มต้นที่ผัดกระเพรา ผัดกระเพราที่นี่ใส่ถั่วฝักยาวมาด้วย ทำเมนูอย่างกับผัดกระเพราะข้างทางที่ผัดแบบใส่ถัวฝักยาว เพื่อประหยัดเนื้อสัตว์ สำหรับรสชาติก็มาแบบเบๆ มาก ร้านข้างทางบ้านๆ ข้างถนนในกรุงเทพทำอร่อยกว่าไม่คุ้มค่ากับราคาที่เสียไป ในฝั่งของผัดไทยนั้น ซอสผัดไทยทำออกมาได้ Unique ดี รสชาติใช้ได้เลย แต่ข้อเสียก็คือผัดเปียกมาก และลวกเส้นไม่สุก ดังนั้นผลที่ตามมาก็คือเส้นแข็งม๊ากก จึงทำให้ Part นี้ไม่ผ่านเหมือนเดิมครับ
สำหรับมื้อเย็นมี 3 เมนู ครับ โดยจะเป็นปลากะพงทอดน้ำปลา ยำวุ้นเส้น และต้มยำกุ้ง ในภาพรวมทั้ง 3 เมนูนั้นรสชาติถือว่าใช้ได้ครับ อาจจะไม่ได้อร่อยน่าประทับใจ แต่ความรู้สึกแย่ไม่เกิด Seafood ที่ใส่ในอาหารถือว่าสดดี ยกเว้นแต่ปลาที่เต้คิดว่าไม่สดเท่าไหร่ครับ อาหารประเภทยำรสชาติดี แต่น่าจะทิ้งไว้นานจนวุ้นเส้นอืดทำให้เสียคะแนนไปโดยไม่จำเป็น อย่างไรก็ตามเต้ยังให้ผ่านครับ
Service
ช่วงเช้าถือว่าดีครับดูใส่ใจลูกค้าดีแต่สำหรับมื้อเย็น Service ค่อนข้างธรรมดาถึงเกือบห่วย เพราะหาตัวพนักงานแทบไม่เจอ เห็นไปหลบคุยกันแต่บริเวณ Counter จะเรียกทีต้องเดินไปหาที
COAST BEACH CLUB & BISTRO
จะเป็นร้านอาหารติดทะเลครับ โดยจะเสิร์ฟอาหารประเภท GRILL AND STEAK เป็นหลักครับ อย่างไรก็ตามอาหารไทยก็มีนะครับ โดยปกติแล้วเต้จะชอบอาหารไทย ดังนั้นเต้จึงให้โอกาสอาหารไทยกับโรงแรมนี้อีกครั้ง โดยเมนูที่เต้สั่งในวันนี้ก็คือสปาเก็ตตี้ขี้เมา กระเพรากุ้ง ทอดมันปูและปอเปี๊ยะ มีเมนูเดียวที่ผ่านนั่นคือทอดมันปู เมนูที่เหลือนั้นบอกได้เลยว่าสอบตก สปาเก็ตตี้ขี้เมา และกระเพรากุ้ง หวานมาก ไม่รู้จะหวานไปไหน ใครเป็นเบาหวานถ้าทานสิ่งนี้อาจน้ำตาลขึ้นได้ สำหรับปอเปี๊ยะนั้นรสชาติห่วยมาก ไม่มีอะไรข้างในนอกจากผัก ไม่รู้จะบรรยายรสชาติอย่างไรแต่บอกคำเดียวว่าไม่ผ่านอย่างแรง
SERVICE
ถือว่าค่อนข้างดีมาก ใส่ใจลูกค้าขออะไรเพิ่มเติมนำมาให้ค่อนข้างเร็ว การตอบสนองดี
สรุปในเรื่องของอาหารนั้นเต้ให้แค่ 5 เต็ม 10 อาหารถึงรสชาติอาหารจะไม่น่าประทับใจ แต่งานบริการค่อนข้างดีมากจึงช่วยให้ภาพรวมของอาหารดีขึ้น อย่างไรก็ตามห้องอาหารคะแนนหลักคืออาหารถึงแม้งานบริการจะดีก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนักครับ
ฮากิ
ไม่ได้ลองนะครับ เพราะช่วงที่เต้ไป เพราะไม่ได้เปิดทุกวัน แต่เต้มีงาน INTERIOR มาฝาก
Room
ในชีวิตกับการเข้าพักโรงแรม 4 – 5 ดาว ของเต้มีอยู่ 2 – 3 โรงแรมเท่านั้น ที่เต้คิดว่าโรงแรมคิดอะไรอยู่ถึงกล้าเอาห้องสภาพแบบนี้มาเปิดให้ลูกค้าเข้าพัก โดยหนึ่งในนั้นคือ Centara Grand Beach Resort & Villas Krabi เรามาดูกันเลยครับว่ามันน่ากลัวแค่ไหนหุๆ
สำหรับห้องพักของเต้จะอยู่โซนหลังของโรงแรมโดยตำแหน่งของห้องจะอยู่ติดกับภูเขาเลยครับ อ่อ!!!ก่อนเข้าไปรีวิวห้องพัก เต้ขอลำดับเหตุการณ์ในการเข้าพักโรงแรมก่อนดีกว่าว่าเป็นอย่างไร โดยความประทับใจแรกหลังการ Check in ก็คือ…โดยปกติแล้วห้องพักต่างๆ ตามโรงแรมที่อยู่บนเขานั้น เวลาไปที่ห้องพักทางโรงแรมจะมีรถ Buggy ไว้บริการใช่ไหมครับ??? แต่สำหรับโครงการ Centara Grand Beach Resort & Villas Krabi ไม่ธรรมดาครับ พนักงานบอกว่าถ้ารอรถอาจจะนาน เพราะตอนนี้มีพนักงานขับรถคนเดียว ซึ่งคนเดียวนี่คือต้องรับ/ส่งกระเป๋าและขนของให้โรงแรม พนักงานคงกลัวผมจะรอนานจึงพาให้ผมเดินขึ้นเขาไปที่ห้อง ซึ่งมันไม่ได้ใกล้ๆด้วยนะครับ (อย่างน้อยควรจะถามความคิดเห็นลูกค้าก่อนไหม?) lol สาบานว่านี่เป็นบริการโรงแรม 5 ดาว หุๆ พอเดินมาถึงห้องพักบนเขาก็แอบมีผงะกับสภาพห้อง lol เพราะมันเก่าและสกปรกมาก ถึงมากที่สุด ดูภาพประกอบได้นะครับ เช่นเฟรมอลูมิเนียมเหมือนไม่ได้ทำความสะอาดมาหลายเดือนน่ากลัวมาก สำหรับ Jacuzzi ที่ระเบียงของโรงแรมที่ถือว่าเป็น Signature แต่เห็นสภาพแล้วไม่กล้าลง ขอบๆ ฐานอ่างเชื้อราเกาะเต็มไปหมด หลังจากนั้นเดินเข้ามาภายในห้องเห็นผนังห้องแล้วตกใจ ทำไมมันร้าวขนาดนี้ ตู้เก็บเครื่องดื่มก็ปิดไม่ได้ ประตูห้องน้ำก็ปิดไม่ได้ สภาพพื้นห้องเหมือนผ่านสงครามมาหลาย 10 ปี การเดินไฟภายในห้องเห็นแล้วตกใจทำไมเป็นแบบนี้ พอเดินเข้ามาในห้องน้ำก็ต้องผงะอีกครั้ง ทำไมสภาพหินของห้องน้ำถึงยับเยินขนาดนี้ ระหว่างที่เดินสำรวจห้องอยู่นั้นก็มีฝนตกเปาะแปะอยู่ข้างนอก ซึ่งระหว่างที่ฝนตกเปาะแปะอยู่ภายนอกโรงแรมนั้น ภายในห้องน้ำก็ได้ยินเสียงน้ำหยดแมะๆ อยู่เหนือฝ้า หลังจากนั้นเต้ก็เริ่มสำรวจห้องว่ามีจุดไหนที่รั่วอีก หลังจากสำรวจจนทั่วแล้ว ก็เลยเดินมาสำรวจที่หน้าประตูห้อง…ก็ตามภาพอะครับ หลังคารั่ว น้ำหยดแมะๆ อยู่หน้าห้องอีกเช่นกัน สุดมะกับ First impression ของห้องภายในโรงแรมนี้ อย่างไรก็ตามถึงทุกอย่างจะสภาพค่อนข้างยับเยิน แต่หนึ่งสิ่งที่โรงแรมนี้มีและเต้มองว่าเป็นจุดที่แข็งมากสำหรับโรงแรมนี้ก็คือวิวจากห้องพัก เพราะถ้าเราจองห้องที่เป็นวิวทะเลห้องที่ได้จะค่อนข้างดีหมด แต่ถ้าเราเลือกจองห้องราคาถูกเท่ากับว่าเราแทบจะหาข้อดีจากห้องพักไม่ได้เลย
Welcome Complementary
ไม่มีอะไรทั้งนั้นครับ มีแต่ความว่างเปล่าเท่านั้น
Interior
เก่าดีครับ วัสดุต่างๆ จะเน้นใช้ไม้เป็นองค์ประกอบครับ ถ้าเมื่อสักประมาณ 20 กว่าปีก่อนโรงแรมนี้น่าจะสวยมาก แต่ปัจจุบันมันคือสยองมาก
Size
เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่มากครับ อาจเนื่องด้วยเป็นโรงแรมเก่าขนาดไซด์ของห้องจึงค่อนข้างใหญ่มาก ไม่ว่าจะเป็นตัวระเบียงแบบ L-Shape ห้องนอนและห้องน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเพียงข้อดีข้อเดียวที่เต้หาได้จากห้องพักของโรงแรมนี้
Quality
เกือบจะทุกอย่างที่เต้คิดว่าอยู่ต่ำกว่ามาตรฐานห้องชุดของโรงแรม 5 ดาว เริ่มจากสภาพห้องตามที่กล่าวไปแล้ว ผ้าปูที่นอนปูไม่ดียับไม่เรียบร้อย และที่ Peak ที่สุดก็คือผ้าปูที่นอนขาดยาวมาก ก็ยังนำมาปูให้ลูกค้านอนอีก ห้องพักไม่สะอาด น้ำดื่มที่เป็น Complementary ให้ลูกค้าก็เป็นน้ำที่โรงแรมกรอกใส่ขวดแก้วเอง ทำอย่างกับเป็นสินค้า OTOP แบบนี้เรื่องความสะอาดจะตรวจสอบได้อย่างไร ที่ Renaissance Pattaya Resort & Spa ให้น้ำดื่มขวดแก้ว Crystal ก็ Peak มากแล้วสำหรับโรงแรม 5 ดาว แต่ที่นี่ให้น้ำดื่มเหมือนผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP บอกตรงๆ ว่า Shock!!!จะประหยัดอะไรขนาดนั้น
มาต่อกันที่ห้องน้ำครับ ถึงสภาพห้องน้ำจะค่อนข้างยับเยินเพราะความเก่าแบบ Irresistible แต่ครีมอาบน้ำ
ยาสระผม และครีมนวดให้ของดีนะครับเพราะเป็นของ Panpuri แต่ก็เหมือนเดิมครับพักสองคนแต่ให้แค่ 1 ชุดไม่ค่อย Make sense เท่าไหร่ สำหรับสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำมันเก่าซะจนไม่มี Brand ให้เห็นละ นี่ยังไม่รวมถึง Rain shower พังๆ ในห้องน้ำเปิดที่ทีกระจายทั้งห้องน้ำ ส่วน Shower ที่มีในห้องน้ำก็เป็นตัวถูกๆ ไม่เหมือนโรงแรม 5 ดาวอื่นๆ ที่ใช้ Brand ดี และที่ Peak อีกหนึ่งจุดในห้องน้ำก็คือ อุณหภูมิน้ำตอนอาบแกว่งไปแกว่งมาเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นอาบไปสะดุ้งไป แอบลุ้นตลอดเวลาว่าจะร้อนหรือเย็นนานไหม
อย่างไรก็ตามข้อดีของห้องน้ำของโรงแรมนี้ก็มีนะครับ นอกจากห้องน้ำที่ใหญ่มากแล้ว ภายในห้องน้ำยังมีการแบ่งโซน เช่น โซนล้างหน้า โซนอาบน้ำ หรือห้องแยกสำหรับวางชักโครก การแยกเป็นโซนทำให้เราสามารถทำกิจกรรมอะไรหลายๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน และที่สุด Highlight ห้องน้ำของโรงแรมนี้ก็คือเสียงน้ำหยดบริเวณฝ้าเหนือห้องน้ำตามที่กล่าวไปในตอนต้น ซึ่งเต้จะขออธิบายเพิ่มเติมในย่อหน้านี้ครับ โดยเราเรียกการออกแบบนี้ว่า Outside in เป็นการทำธรรมชาติเข้ามาในห้อง อย่างไรก็ตามเมื่อนำธรรมชาติเข้ามาภายในห้องมากเกินไปอาจจมีปัญหาได้…ใช่ครับ ห้องนี้มีการ Evolve ไปอีกหนึ่งระดับ เพราะเสียงน้ำหยดคงยังไม่ใกล้ธรรมชาติมากพอ ทางโรงแรมจึงเตรียมน้ำตกให้ภายในห้องน้ำเลยครับ โดยในช่วงที่ฝนตกหนักนั้นสายน้ำจากภายนอกได้ไหลจากฝ้าผ่านผนังห้องลงมาที่พื้นด้านล้างทำให้เกิดบ่อน้ำเล็กๆ ภายในห้องน้ำ มันเป็นอะไรที่ประทับใจเต้มากเลยครับ จากเสียงน้ำหยดเหนือฝ้าพัฒนาเป็นน้ำตกและในที่สุดก็มีบ่อน้ำเล็กๆ ภายในห้อง เอาจริงๆถ้ามีปลามาปล่อยให้ด้วยจะเป็นอะไรที่ฟินกว่านี้นะ อย่างไรก็ตามในวันนั้นเต้คิดว่า ธรรมชาติมันใกล้ตัวมากเกินไปละ เต้จึงตัดสินใจขอย้ายห้อง เพราะเต้คิดว่าเต้ไม่อยากใกล้ชิดธรรมชาติมากขนาดนี้
Beverage
มีให้นิดหน่อยนอกจากน้ำดื่ม OTOP + ชา/กาแฟแบบซอง Standard เดียวกันกับโรงแรม 2-3 ดาว นอกจากนี้จะมีเครื่องดื่ม Alcohol เตรียมไว้ในห้องอีกนิดหน่อย อย่างไรก็ตาม เครื่องดื่ม Alcohol ต้องเสียเงินนะครับ vอาจมาถึงตอนนี้แล้วบางคนอาจจะสงสัยว่าน้ำดื่มแบบ OTOP คืออะไร? ง่ายๆ ครับโรงแรมผลิตเองเลยครับ ขั้นตอนแรก นำขวดแก้วมา หลังจากนั้นก็ใส่น้ำลงไปเลย คำถามคือความสะอาดหรือ Hygiene จะมีไหม?
Amenities
ผมขอแยกเป็นสองห้องนะครับ โดยในห้องแรกจะเป็นห้องนอน หลักๆ ก็จะมี
- TV เก่าๆ 32 นิ้ว 1 เครื่อง อายุน่าจะพอๆ กับโรงแรม
- Slipper ซึ่งต้องขอกับทางโครงโรงแรมในตอนแรกโรงแรมลังเลที่จะให้ด้วยและที่ Peak สุดคือเป็น Slipper แบบ Reused ลูกค้าใช้แล้วเอาไปซักแล้วมาวางใหม่
- ตู้ Safe
- เสื้อคลุมอาบน้ำ
- รองเท้าเดินชายหาด
- ที่ชั่งน้ำหนักที่เด็กสมัยนี้อาจจะไม่เคยเห็น เพราะมันควรจะอยู่ Antique Shop มากกว่าโรงแรม 5 ดาว
ประมาณนี้ครับอะไรทันสมัย หาจากที่ห้องพักของโรงแรมนี้ไม่มีครับ สำหรับส่วนที่สองจะเป็นส่วนของห้องน้ำ ซึ่งก็แทบจะไม่มีอะไรให้เลย
- ครีมอาบน้ำ สบู่ก่อน ยาสระผม ครีมนวดผม ครีมทาตัว จะเป็นของ Panpuri ซึ่งถือว่าดีครับ เห็นหลอดใหญ่ๆ แบบนี้ ใหญ่แต่หลอดนะค๊าบ55 ปริมาณไม่ได้ตามหลอด
- Vanity set + สบู่ก้อน + Shower Gap
- เซ็ตแปลงสีฟัน 1 เซ็ต ไม่มีให้
แค่เนี่ย? แอบตกใจ…เพราะตอนเขียน InterContinential หัวหิน ว่าน้อยแล้วที่นี่แอบน้อยกว่าอีก ในส่วนของ Amenities ในห้องน้ำนั้นอย่างน้อยน่าจะมีหวี มีที่โกนหนวดให้ บางที่ก็จะมี Nail File พ่วงมาให้ด้วย
Day 1
Cleanness
ทรายเต็มระเบียง Jacuzzi ที่ระเบียงน่ากลัวมาก ภายในห้องเดินแล้วเหมือนมีเศษอะไรบนพื้น เดินแล้วไม่สบายเท้า งานเฟรมอลูมิเนียมไม่ว่าภายในหรือภายนอกห้องสกปรกมาก สรุปว่าต่ำกว่ามาตรฐานโรงแรม 5 ดาว เต้ว่าสภาพความสะอาดต่ำกว่ามาตรฐานครับ
ความไม่เรียบร้อยของห้องพัก
Day 2
Service ภาพรวมในโรงแรม
พนักงานมีความสุภาพและ Friendly ในทุกพื้นที่ของโรงแรม เวลาเราเดินผ่านก็จะมีการกล่าวสวัสดีนอบน้อมเหมือนโรงแรมได้เทรนด์พนักงานมาดี สำหรับภาพรวมของงาน Service และบริการถือว่าดีมาก อย่างไรก็ตาม เต้มีความรู้สึกว่าเหมือนพนักงานไม่พอ เวลาเต้ Request อะไรเพิ่มเติม การ Respond ของพนักงานจะช้ามากครับ และอย่าคาดหวังที่จะติดต่อกับโรงแรมถ้าโทรจากห้องนอน เพราะโทร 5 ครั้งจะมีคนรับสายแค่ 1-2 ครั้งเท่านั้น
ความคุ้มค่า
ในภาพรวมของ Centara Grand Beach Resort & Villas Krabi ถ้าจ่ายราคาเต็มไม่ได้จ่ายผ่าน “เราเที่ยวด้วยกัน” เต้พูดเลยว่าโครตไม่คุ้มเพราะขนาดช่วงเวลานี้ลดราคาห้องพัก Spa Deluxe ตกคืนละประมาณ 5,900 พันบาท สมาชิก Centrara หรือ The One Card ลด 20% บาท จะเหลือราคา 4,720 บาท และถ้าเราใช้เราเที่ยวด้วยกันลดอีก 40% จะเหลือแค่ 2,832 บาท และได้ Voucherไว้ทานอาหารอีก 1,000 บาท ดังนั้นจึงทำให้เราจ่ายค่าห้องเพียง 1,832 บาท เอาจริงๆ ราคานี้ก็ถือว่าคุ้มอยู่ แต่ถ้าต้องจากราคาเต็มไม่มีของรัฐมาช่วย บอกเลยว่าราคานี้โครตไม่คุ้มครับ
จบแล้วครับกับ Centara Grand Beach Resort & Villas Krabi ในภาพรวมสรุปสั้นๆ ว่าเราคงไม่ได้พบกันอีก เพราะ Centara Grand Beach Resort & Villas Krabi เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่เต้ว่ามีความ Nightmare มากที่ที่สุดโรงแรมหนึ่ง so far สำหรับวันนี้ประมาณนี้ครับ โรงแรมหน้าจะกลับไปที่ภูเก็ตแล้วนะครับ เพราะรีวิวโรงแรมซี่รีย์นี้จะเป็น Phuket Hotel วันนี้เต้ขอให้ Centara Grand Beach Resort & Villas Krabi ลัดคิวโรงโรงแรมอื่นนิดนึงครับ ใครอ่านจนจบก็น่าจะทราบว่าเพราะอะไรเต้ถึงลัดคิว55 สำหรับวันนี้ก็ประมาณนี้นะค๊าบ