จะเกิดอะไรขึ้นกับ แอชตัน อโศก ถ้าศาลปกครองสูงสุดยืนยันตามคำพิพากษาตามศาลปกครองกลาง

เรื่องที่เกิดขึ้นการเหตุการณ์ของ แอชตัน อโศก นั้นถือว่าเป็นปรากฎการณ์ที่สั่นสะพรึ่งไปทั่ววงกาลอสังหา สำหรับรายละเอียดนั้นเต้คงไม่ลงเยอะละ เพราะเกือบทุกสื่อได้ลงกันไปหมดแล้ว แต่เต้ขอสรุปสั้นๆก็คือ คนที่โดนฟ้องนั้นไม่ใช่อนันดานะครับ แต่ฟ้องไปที่ หน่วยงานราชการ และ รัฐวิสาหกิจ ในการออกใบอนุญาติให้ทางอนันดาก่อสร้างโครงการ แอชตัน อโศก ซึ่งหลังจากทางอนันดาได้ใบอนุญาติก่อสร้างแล้ว ทางบริษัทก็ดำเนินการก่อสร้างไปตามปกติจนแล้วเสร็จและมีคนเข้าพักอาศัยอยู่ถึงทุกวันนี้ 

จนถึงวันที่ศาลปกครองกลางมีคำตัดสินออกมาให้เพิกถอนใบอนุญาติก่อสร้าง ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ก็คือการอุธรณ์ไปที่ศาลปกครองสูงสุด เพื่อดูว่าคำตัดสินจะเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าคำตัดสินออกมาว่ายกฟ้อง ไม่โดนเพิกถอนใบอนุญาติก่อสร้างแล้วทุกอย่างก็คงเข้าสู่ภาวะการณ์ปกติ แต่ถ้าศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางละ อะไรจะเกิดขึ้น

1. กทม. ต้องออกคำสั่งระงับการใช้อาคาร ใครฝ่าฝืนเข้าไปใช้อาคารจะต้องถูกดำเนินคดี หรือพูดง่ายๆก็คือทุกชีวิตจะต้องย้ายออกจากโครงการ แอชตัน อโศก
2. กทม. จะมีคำสั่งให้เจ้าของอาคารรื้อถอนโดยถ้าเจ้าของไม่รื้อถอน ทางกทม. จะรื้อถอนเองแล้วไปเรียกเก็บเงินค่ารื้อถอนจากเจ้าของอาคาร
3. จะมี 2 Scenario ให้ทางอนันดาเลือก 

3.1 อนันดาคืนเงินให้ผู้ซื้อพร้อมดอกเบี้ยโดยไม่มีเงื่อนไข

3.2  เจ้าของห้องชุดต้องไปฟ้องร้องเรียกเงินของห้องชุดและค่าเสียหายจากอนันดาฐานผิดสัญญา เพราะนำห้องชุดที่ขายไม่สามารถใช้พักอาศัยมาขาย

เอาจริงๆเคสนี้อนันดาไม่ผิดนะ เพราะถ้าใบอนุญาติไม่ออกอนันดาก็คงไม่สร้าง แต่คำถามคือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือเปล่าซึ่งอาจนำช่องว่างของข้อกฎหมายที่ไม่ชัดเจนมาใช้เพื่อออกใบอนุญาติจนมีปัญหาตามมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งเราก็ต้องมาดูต่อกันว่าจะเป็นอย่างไร แต่บทสรุปของเรื่องนี้คงอีกนาน โดยเต้ได้สอบถามไปยังผู้มีความรู้ด้านกฎหมาย ซึ่งคำตอบที่เต้มาก็คือกว่าโครงการนี้จะได้บทสรุปอาจจะต้องสู้กันถึง 5-10 ปี ดังนั้นช่วงนี้ใครมีห้องชุดโครงการนี้ก็ใจเย็นๆก่อนก็ได้นะค๊าบ หรือถ้าอนันดาจะแสดง Sprit ขอซื้อห้องคืนจากลูกบ้านก่อนก็น่าจะเป็นอะไรที่น่าชื่นชมนะครับอิๆ