Intercontinental Hua Hin

Review

รีวิว Intercontinental Hua Hin

Score

9.1 / 10
  • Location 9.5
  • Transportation 9.5
  • Exterior 8.5
  • Facilities 9
  • Room Interior 9
  • Room Comfort 8.8
  • Amenities 8.3
  • Cleanliness 9
  • Services 10

Intercontinental Hua Hin

เป็นโรงแรมที่เต้มาพักบ่อยมาก แต่ไม่เคยได้เขียนรีวิวแบบเป็นทางการสักที ดังนั้นวันนี้เต้ขอลัดคิวมารีวิวโรงแรมนี้ก่อนละกันนะครับ เพราะพึ่งไปมาเมื่อ 2-3 อาทิตย์ก่อน ไฟยังร้อนๆอยู่เลย สำหรับโรงแรมที่เชียงภูเก็ตกับเชียงใหม่ก็รอก่อนนะค๊าบ จะเขียนให้ภายในเดือนนี้นะแฮะๆ 

สำหรับการรีวิวในวันนี้จะเป็น Intercontinental Hua Hin ที่เป็น Version Upgrade แล้วนะครับ เพราะตอนนี้ภายในโรงแรมมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ ไม่ว่าภายในห้องหรือส่วนกลาง โดยมีการ Touch up ให้ดูใหม่ขึ้น และภายในห้องพักมีการอัพเกรดบางอย่างให้ดูทันสมัยกว่าเดิม นอกจากนี้ภายในโรงแรมได้มีการเปิดร้านอาหารใหม่และบาร์ใหม่อีกด้วย เราไปดูกันครับว่า Intercontinental Hua Hin ใน Version 2022 จะเป็นอย่างไร

Journey 

เปิด Google Map ใส่คำว่า Intercontinental Hua Hin แล้วขับตาม GPS …โดยตัวโครงการจะอยู่ตรงข้าม Blueport เลยค๊าบ

Around The Hotel

ทั้งโครงการร่มรื่นมากครับ ชอบซุ้มทางเดินที่ปลูกต้นลีลาวดี จาก Lobby ทอดยาวไปถึงสระว่ายน้ำ ฟอร์มต้นไม้สวยมากครับ แต่ลืมถ่ายรูปมาแฮะๆ Enjoy กับบรรยากาศมากไปนิ๊ดนึง

Lobby 

ไม่ว่าจะเป็นที่ภูเก็ตหรือที่หัวหิน Intercontinental ไม่เคยทำให้เต้ผิดหวังครับ งาน Interior ภายใน Cozy และ Welcome มากครับ พอมาถึงทางโรงแรมจะมี Welcome Drink รสชาติดีมาต้อนรับอีกด้วย ใน Part นี้ บรรยากาศ 10 เต็ม 10 ครับ

Club InterContinental

เป็นอีกส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครับ เพราะก่อนหน้านี้ Club InterContinental จะอยู่บริเวณหาด แต่ตอนนี้ย้ายมาอยู่บริเวณที่เคยเป็น Lounge ที่ชั้น 1 ติดกับ Lobby  แล้วครับ อย่างไรก็ตาม เต้ไม่ได้พักห้องระดับ Club นะครับ เต้เลยเข้าไปใช้บริการไม่ได้ สำหรับสิทธิพิเศษสำหรับการจองห้องพักระดับ Club ก็คือ 1. ฟรีอาหารว่าง ของทานเล่น เครื่องดื่ม ตั้งแต่ 6.30 – 23.00 (เวลาเปิด/ปิดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสถาณการณ์) 2.ห้องพัก แบบ Club จะเป็นห้องที่ตกแต่งพิเศษ เช่นห้องจะสวยกว่าและมี Amenities ภายในห้องมากกว่า (เต้จะ Insert ภาพสมัยห้องนี้ยังเป็น Lounge นะครับ งาน Interior ยังเหมือนกันครับ)

Pool

เป็นโรงแรมที่มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่มากครับ และมาถึง 2 สระเลยครับ สำหรับบรรยากาศรอบๆสระว่ายน้ำก็ดีมากเช่นกัน  ไม่ว่าจะเป็น  Daybed ตามจุดต่างๆ หรือซุ้มที่นั่งเล่นริมสระก็ออกแบบมาได้อย่างสวยงาม 

Beach 

หน้าหาดสวยมากครับ และหน้าหาดของ Intercontinental Hua Hin ก็กว้างมากด้วยครับ 

Fitness 

ในการเลือกพักโรงแรมของเต้ 1 สิ่งที่เต้ให้น้ำหนักมากถึงมากที่สุดก็คือห้องฟิตเนส ยิ่งถ้าเต้ต้องพักโรงแรมไหนนานๆ แต่โรงแรมไม่มีห้อง Fitness ที่ดี เต้ก็ไม่ไปครับ และสำหรับ Intercontinental Huahin ก็ไม่ทำให้เต้ผิดหวัง เพราะเครื่องเล่นมาค่อนข้างเต็มมาก อุปกรณ์ Free Weight หรือ Machine ก็มาครบและใช้ Brand เดียวกันกับ Fitness เกรด A ในกรุงเทพ นอกจากนี้ งาน Interior ภายในก็สวยงามและสะอาดสะอ้านมาก ใน Part นี้เอาไปเลย 10 คะแนนเต็มอีกเช่นกันครับ 

Kids’room

ใครมีเด็กเล็กมาฝากไว้ที่ห้องนี้ได้นะค๊าบ ภายใน Kids’ room มี โซน Indoor และ Outdoor ด้วยนะครับ งาน Interior น่ารักใช้ได้เลยครับ

Meeting room

เห็นมีอยู่นะครับ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาแฮะๆ

Spa 

มีแต่ก็ไม่ได้ลองเหมือนกันครับ

Restaurant 

ร้านอาหารภายใน Intercontinental Huahin จะมี 3 ร้าน ซึ่งประกอบด้วย Azure , Pirom และร้านน้องใหม่ Style fine dining อย่าง Jarus ครับ สำหรับร้านที่เต้ได้ไปลองทานจะมี 2 ร้านนะครับนั่นคือ Pirom ที่เป็น Buffet อาหารเช้าและ Jarus ที่จะเสริฟแบบ Course สไตล์ Fine dining ครับ สำหรับการรีวิว เต้จะขอเริ่มจาก Pirom ก่อนนะครับ

Pirom

Pirom จะเป็นร้านอาหารแบบ All day dining โดยห้องอาหารนี้จะให้บริการอาหารเช้าแบบ Buffet ด้วยครับ สำหรับพื้นที่นั่งจะมีการแยกโซนระหว่าง Indoor และ Outdoor ครับ โดยโซน Outdoor จะได้บรรยากาศแบบธรรมชาติ นั่งทานอาหารริมสระ หรือแบบ Sunken ที่สระว่ายน้ำจะโอบรอบตัวเรา สำหรับโซน Indoor เราจะได้บรรยากาศการรับประทานอาหารแบบโรงแรม 5 ดาว กับงาน Interior ภายในที่ออกแบบอย่างสวยงาม สำหรับ Line อาหารนั้น ช่วงที่เต้ไปจะเป็นแบบ Semi Buffet ครับ กล่าวคืออาหารบางอย่างจะต้องไปตักเอง แต่บางอย่างจะต้องสั่งจากพนักงานครับ สำหรับภาพรวมของอาหารเช้านั้น ก่อนอื่นเต้ต้องขอย้อนอดีตไปนิดนึงนะครับ เพราะว่าในอดีต Intercontinental Hua Hin น่าจะเป็นโรงแรมที่มี Line อาหาร เช้าที่ดีที่สุดโรงแรมหนึ่งในหัวหินเลยครับ แต่มารอบนี้เต้มีความรู้สึกว่าอาหารนั้นดูน้อยลงกว่าแต่ก่อน พอสมควร อย่างไรก็ตามอาหารไม่ได้แย่นะครับ ในภาพรวมก็ยังคงรักษาคุณภาพได้ค่อนข้างดีครับแต่ภาพจำในอดีตนั้นดีกว่าครับ 

สำหรับในเรื่องของรสชาติอาหารนั้นแต่ขอแยกเป็นประเภทนะครับ

Thai Food 

เป็นโรงแรม Chain ที่ทำอาหารไทยได้ถูกปากคนไทยมากครับ รสชาติมาแบบไทยๆ แกงเขียวหวานรสชาติจัดจ้านมาก ข้าวมันไก่/ข้าวหน้าเป็ดน้ำจิ้มคือดีมากอร่อยมาก ก๋วยเตี๋ยวก็รสชาติดี ในภาพรวมคือดีเกือบหมดครับ เพราะอะไรทำไมมีคำว่า”เกือบอะ?”…ที่มีคำว่าเกือบก็เพราะว่าบางเมนูก็สุดทนเหมือนกันครับ เช่นหมูย่าง ที่หมูเหมือน Reheat มาไม่รู้กี่รอบแล้ว เหนี่ยวจนทานไม่ได้ ตอนแรกนนึกว่าเป็นเนื้อแดดเดียว สภาพอาหารก็อย่างที่เห็นตามสภาพครับ นอกจากนี้ถึงน้ำจิ้มน้ำซุปของข้าวหน้าเป็ดและข้าวมันไก่จะดีมาก แต่เนื้อไก่กับเนื้อเป็ดก็สภาพคล้ายๆหมูย่างครับ เพราะค่อนข้างแห้งและสภาพก็เหมือนผ่านการ Reheat มาหลายครั้งละ แต่ก็ยังพอทานได้นะครับไม่แย่เท่าหมูย่าง ปล.เมนูอาหารไทยมีเยอะกว่านี้นะครับ แต่ลองทานแค่นิดหน่อยครับ

European Food / Cold cut / Pastry

สำหรับ Cold cut รสชาติค่อนข้างมาตรฐานครับเพราะบางอย่างเป็นของสำเร็จรูปที่สั่งมาจาก  Supplier ที่ส่งอาหารประเภทนี้ตามโรงแรมไม่ได้ทำเอง ดังนั้นอาหารประเภทนี้แต่ละโรงแรมรสชาติจะคล้ายๆกันหมด  สำหรับอาหารปรุงสุกอย่าง Egg Benedict เต้ค่อนข้างชอบเพราะว่าทำ Presentation ออกมาได้น่าประทับใจ ในส่วนของ Pastry ซึ่งจะขอรวมถึงปาท่องโก๊และวาฟเฟิลด้วยนะครับ ในภาพรวมเต้ไม่ได้ทาน Pastry เลยคร่าวนี้ เพราะเต้ว่าไม่ค่อยน่าทาน Presentation  ในการจัดวางไม่ดึงดูดเท่าไหร่ และเมนูค่อนข้างธรรมดา เมนูโปรดของเต้อย่าง Almond Croissant ก็ไม่มี มีแต่ Croissant ธรรมดา กับ  Croissant Chocolate ซึ่งเต้ไม่ทาน อย่างไรก็ตามเต้ได้ลอง ปาท่องโก๊และวาฟเฟิลนะ รสชาติค่อนข้างดีโดยเฉพาะสังขยาคือชอบมากเลย ส่วนขนมครกก็รสชาติดีครับ

Juice Bar 

ค่อนข้างชอบครับกับโรงแรมที่เสริฟน้ำผลไม้คั้นสด แต่เต้ว่าความหลากหลายยังน้อยกว่าโรงแรม 5 ดาว หลายๆที่ ที่เต้เคยไปพักมาและที่สำคัญคือไม่สามารถ Mixed ได้ด้วย บางโรงแรมอย่าง Marriott ที่ภูเก็ต เราสามารถเลือกผสมผลไม้และคั้นสดได้เลย ซึ่งเราจะมีความสนุกสนานกับการทานมากกว่า อย่างไรก็ตามในภาพรวมถือว่ายังดีครับ เพราะอย่างน้อยน้ำผลไม้ที่นี่ไม่ได้เป็นแบบ Concentrate ครับ

Service 

10 คะแนน เต็มครับ บริการดีมากการเก็บจานรวดเร็ว พนักงานอัธยาศัยดีมาก 

Cleanness

ถ้วยชามสะอาดมากครับ ไม่มันเลย เรื่องนี้เต้ซีเรียสนะครับ เพราะโรงแรม 5 ดาว บางโรงแรมถ้วยชามล้างไม่สะอาด จับแล้วมันมือมากครับ 

สรุปห้อง Semi Buffet อาหารเช้าของที่นี่นะครับ อย่าไปอ่านรีวิวที่มี Blogger คนหนึ่งที่พึ่งเขียนไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เพราะมันเหมือนหนังคนละม้วนกับทุกวันนี้ เต้ว่าวันนั้นเหมือนโรงแรมเซ็ตอาหารให้ดูเว้อๆ เกินความเป็นจริงเพื่อไว้ถ่ายรูปครับ อย่างไรก็ตามถามว่าวันนี้แย่ไหม เต้ตอบเลยว่าในภาพรวมยังคือเป็นมาตรฐานโรงแรม 5 ดาวเกรดดี  แต่ถ้าเทียบกับในอดีตที่เต้ไปมาช่วงปลายปี 2020 ณ เวลานั้นเต้ว่าในภาพรวมดีกว่านี้เยอะครับ

Jarus

เป็นร้านอาหารเปิดใหม่ครับ โดยในอดีตจะเป็นที่ตั้งของ Club InterContinental เก่าครับ แต่ตอนนี้ได้ปรับเปลี่ยนเป็นร้านอาหารแบบ Fine dining แล้วครับ โดยอาหารของที่นี่จะมีแบบ Course และ แบบ A la carte ที่ให้สั่งทีละเมนูครับ เต้ถ้าใครสนใจแบบ Course เราสามารถเลือกได้ว่าอยากได้ 5 Courses หรือ 7 Courses ครับ สำหรับวันนี้เต้ได้สั่งแบบ 5 Courses ครับ 

อย่างไรก็ตามถึงวันนี้เมนูที่เต้เลือกจะเป็น 5 Courses แต่รูปที่ลงจะมีมากกว่า 5 รายการนะครับ เพราะใน บางรายการที่เป็นเนื้อวัว แต่เต้ไม่ทาน ทางร้านอาหารได้จัดเตรียมเมนูพิเศษแทนเมนูที่มีเนื้อวัวเป็นส่วนประกอบครับ โดยเพื่อนเต้ที่มาด้วยจะได้เมนูแบบ Original ครับ สำหรับรสชาติอาหารที่เต้และเพื่อนเต้ช่วยกัน Comment มีดังนี้ครับ

Welcome Drink 

เป็น Complimentary Welcome drink จาก CoCco bar โดยมีชื่อเก๋ๆว่า เมลาโทนิน ดื่มแล้วสดชื่นๆหอมโฟมกะทิ+น้ำฝรั่ง เมนูนี้แนะนำครับรสชาติดีเลย

ยำปลากระพง (Starter)

เมนูนี้ไม่ได้อยู่ใน Course นะครับแต่เป็น Complementary สำหรับภาพรวมในเมนูนี้ถือว่าเปิดตัวได้น่าประทับใจมากครับ Presentation คือดีงาม สำหรับการเสริฟจะเป็นการใช้ไม้เสียบเนื้อปลา หลังจากนั้นนำไปวางเหนือถ่านที่กำลังจุดอยู่ครับ เวลาทานเราจะได้ความหอมของถ่านด้วยครับ สำหรับรสชาติถือว่าดีมาก เป็นรสชาติยำที่ไม่จัดมาก ทุกรสชาติมีความกลมกล่อมและลงตัวมากครับ

5 Courses

พล่าหอยเชลล์

เมนูนี้สุดมากครับ แนะนำอย่างยิ่งยวด โดยหอยเชลจะนำเข้าจากฮอกไกโดซึ่งมีความสดมาก รสชาติของพล่าจะมีความเผ็ดนิดๆรสชาติน้ำยำคล้ายๆลาบ หอยสุกพอดีมาก นุ่มลิ้นมากครับ

ยำเนื้อย่าง

เมนูนี้เพื่อนเต้ได้นะครับ โดยที่นี่จะใช้เนื้อวากิวจากจังหวัดสกลนคร(ในส่วนนี้เต้ก็งงเบาๆนะฮะ วากิว+สกลนคร…) Anyway…สำหรับ Texture ของเนื้อจะมีความเปื้อยยุ้ย นุ่มเคี้ยวง่ายมาก โดยในเมนูจะเสริฟพร้อมซอสซีฟู้ด รสชาติซอสอมเปรี้ยวอมหวานในภาพรวมคืออร่อยครับ

ยำส้มโอกุ้งย่าง 

เต้จะได้เมนูนี้แทนเมนูเนื้อครับ โดยกุ้งที่ได้จะเป็นกุ้งลายเสือจากชาวประมงเขาตะเกียบครับ ในเรื่องของความสดและ Presentation ถือว่าชนะเลิศสวยงามมาก ส่วนในแง่ของรสชาติเต้ว่าจืดไปนิดและส้มโอก็ไม่อมเปรี้ยวอมหวาน เลยทำให้ภาพรวมไม่ค่อยมีรสชาติเท่าไหร่ เมนูนี้เต้ว่ากลางๆเลยครับ

ต้มข่าปลาทราย

เมนูนี้เต้บอกว่าต้องลองเท่านั้นครับ รสชาติละมุ่นและผู้ดีมากครับ และกรรมวิธีก็ค่อนข้างวุ่นวาย เห็นเมนูจานเล็กๆแบบนี้ Chelf ต้องใช้ปลาทรายถึง 8 ตัวมาจัดให้เป็นรูปดอกกุหลาบเลยนะครับ เมนูนี้ทานเป็นซุปก็อร่อย ทานคู่กับข้าวก็ดีครับ

มัสมั่นแก้มวัว

เมนูนี้เพื่อนเต้ได้ โดยกรรมวิธีการทำนั้นค่อนข้างยาวนานมาก เพราะต้องนำแก้มวัวตุ่นถึง 12 ชั่วโมง ให้นิ่ม โดยจะเป็นการเสริฟพร้อมครีมมันฝรั่งบดและซอสมัสมั่นครับ สำหรับรสชาติเพื่อนเต้บอกว่า แก้มวัวรสชาติสุดยอดมากครับคือทุกอย่างเข้ากันมาก ส่วนเต้ได้ลองซอสมัสมั่นครับ หลังจากลองแล้วเต้อยากบอกว่าซอสมัสมั่นของที่นี่ Spin off ไปเป็นอีกเมนูได้เลยครับ เพราะว่ามันอร่อยม๊าก รสชาติมหัศจรรย์มาก 

ห่อหมกคุณย่า

เมนูนี้เต้ได้แทนมัสมั่นแก้มวัวครับ สำหรับห่อหมกที่นี่จะเป็นการนำปลากรายและปลากระพงมาผสมกันแล้วใช้ไม้ไผ่บ่องตันในการกวนตามกรรมวิธีในการทำห่อหมกโบราณ โดยส่วนผสมต่างๆเป็นของครอบครัวลิปตพัลลภ และเป็นเมนูลับที่ทำทานกันในครอบครัว อย่างไรก็ตามส่วนตัวแล้วเต้เมนูนี้แอบจืดไปหน่อยครับ เหมาะกับคนไม่ทานเผ็ดหรืออาหารรสจัด ดังนั้นเต้ให้เมนูนี้กลางๆเลยครับ 

ทับทิมกรอบ

ทานแยกทีละอย่างก็อร่อย ทานรวมก็อร่อย ทับทิมไม่หวานมากกำลังดี สัปรดเชื่อมหวานเปรี้ยว Crumble สีดำออกหวานขมแบบช็อกโกแลต ส่วน Crumble ขาวออกเนยๆเค็มๆ ทานผสมกันแล้วอร่อยมากครับไอศครีมบูลเบอรี่โยเกิร์ต ก็ทำออกมาได้ดีมากครับ

สรุปในภาพรวมเมนู 5 Courses แบบ Original ทุกเมนูคือชนะเลิศหมดครับ เพื่อนบอกว่าอร่อยมาก สำหรับเต้แล้ว 2 เมนู ที่ทางร้านอาหารเลือกมาให้แทน 2 เมนูที่เป็นเนื้อวัว เต้ว่ารสชาติค่อนข้างธรรมดาไปหน่อยครับ คิดว่าคงไม่สั่งอีกครับ

Service

ถ้าคะแนนเต็ม 10 เต้ขอให้ 11 ได้ไหม? บริการดีมากถึงมากที่สุด ประทับใจมากครับ 

Cleanness

Never been better 

Azure

ร้านอาหารนี้เต้ไม่ได้ทานนะครับ เลยไม่ทราบว่ารสชาติเป็นอย่างไร

นอกจากร้านอาหารแล้วก็จะมี Bar กระจายตามจุดต่างๆของสระว่ายน้ำ โดยวันที่เต้ไปจะมี Bar เปิดใหม่อย่าง CoCco โดยพิกัดจะอยู่ติดกับร้านอาหาร Jarus เลยครับ สำหรับเครื่องดื่มเต้ก็ได้ลองแค่ 1 Drink นั่นคือ เมลาโทนิน ซึ่งรสชาติก็ตามที่รีวิวไปเลยครับ

 

อาหารจบไปเรามาดูในส่วนของห้องพักกันดีกว่า……..

 

Premier King Bed ขนาด 55 ตารางเมตร

สำหรับห้องที่เต้ได้ไปพักครั้งนี้จะเป็นห้อง Premier King Bed โดยจะเป็นตึกฝั่งทะเลนะครับ

Sleep Zone

Interior 

งาน Interior ตาม Style ของ InterContinental ไม่เคย Minimal อยู่แล้วครับ ทุกอย่างมาแบบจัดเต็มและมี Character มากครับ ไม่ว่าจะเป็นเตียง หัวเตียง โคมไฟ งานบัวผนัง งานฉลุไม้ แม้แต่ Ceiling ในห้องนี้ยังมาแบบจัดเต็มเลยครับ สรุปแล้วทุกอย่างสวยลงตัว และ Classic มากครับ 

Wooden Floor 

เป็นอะไรที่ชอบมากครับ ความรู้สึกเวลาที่เดินในห้องพัก เหมือนอยู่บ้านเลยครับ Feeling ของผิวสัมผัสไม้จริงคือดีจริงๆครับ 

Bed Quality 

Flawless ครับ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของ ฟูก หมอน ที่นอน และผ้าปูครับ 

Beverage 

ไม่มีอะไรมากมาย โดยภายในห้องจะมีชาของ TWG กาแฟ และน้ำเปล่าครับ

Lighting

ไฟในตอนกลางคืนภายในห้อง จัดมาได้สวยงามดีครับ 

Amenities 

มาแบบจัดเต็ม(แต่ไม่สุด)ครับ โดยผมขอแยกเป็น 3 ส่วนภายในห้องนะครับ โดยในส่วนแรกจะเป็นห้องนอน หลักๆก็จะมี 

  • Smart TV แต่ไม่สามารถต่อเข้ากับ Netflix หรือ Youtube โดนลบ 0.1 คะแนน รายการหนังก็น้อย โดนหักอีก 0.1 คะแนน รายการทีวีที่ดีที่สุด สำหรับเต้แล้ว เต้ยกให้ Twinpalm Montazure ที่ภูเก็ต ที่นั้นหนังชนเสริฟถึงห้องเลยครับ
  • ลำโพงของ Bose ต่อเข้ากับ TV แต่เชื่อมต่อ Bluetooth ไม่ได้ เต้ว่าควรอัพเกรดได้แล้วน๊า ตัวนี้แอบเก่าไปหน่อยละครับ
  • วิทยุพร้อมนาฬิกาปลุกข้างหัวเตียง เต้ว่าแอบโบราณไปนิดนึงครับ เปลี่ยนเป็น  Speaker ดีๆสักตัว ห้องก็จะทันสมัยขึ้นครับ
  • ระบบควบคุมไฟบริเวณหัวเตียงที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ ใช้งานง่ายชอบครับ
  • Universal Plug พร้อม USB ถือว่าดีครับ เพราะมีครบ และหลายจุด (โครงการอัพเกรดมาใหม่ละ)
  • พัดลมบริเวณฝ้า ชอบๆครับ
  • Slipper คุณภาพดีมาก
  • ที่ขัดและที่ใส่รองเท้า
  • ตู้เซฟ
  • เตารีดและที่รีดผ้า (ไม่ใช่โรงแรม 5 ดาวทุกที่จะมีนะครับ)
  • ร่ม
  • กาต้มน้ำ

Toilet

มาค่อนข้างครบกับ Amenities ภายในห้องน้ำของที่นี่แต่…มีบางอย่างที่เต้แอบผิดหวัง…

  • ครีมอาบน้ำ/ยาสระผม/ครีมนวด ต้องขอบอกเลยครับว่าเสียใจมาก เพราะจากเดิมที่มากี่ครั้งก็เป็นเซ็ตเล็กๆของ L’occitane แต่ตอนนี้เป็นของ Harnn แล้ว และที่โหดมากมากกว่าก็คือ เป็นแบบ Refill ซึ่งเต้ไม่ชอบอยากแรง เนื่องจากเหตุผลในแง่ของ Hygiene ล้วนๆ สุดท้ายก็เปลี่ยนไปเหมือนที่ InterContinental Huahin ละ อย่างไรก็ตามหนึ่งสิ่งที่อยากชมก็คือ ถึงจะเป็นแบบ Refill แต่ ครีมอาบน้ำ/ยาสระผม/ครีมนวด คุณภาพและกลิ่นดีมากครับ ชอบจริงๆ
  • อ่างอาบน้ำ (น่าจะให้ Foam bath มาให้)
  • ผ้าขนหนูคุณภาพดีมาก 
  • เสื้อคลุมอาบน้ำ เนื้อผ้ากลางๆ อยากได้นิ่มๆ
  • ชุดแปรงสีฟัน สำลี ชุดเย็บผ้า ที่ตะไบเล็บ
  • ไดเป่าผม

ประมาณนี้ครับในภาพรวม มาค่อนข้างครบมาก แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดก็คือที่โกนหนวดครับแฮะๆ

Balcony

ระเบียงใหญ่มากครับ มีที่นั่งทานข้าว โซฟาขนาดใหญ่ และพัดลม นอกจากนี้ระแนงที่ระเบียงก็เลื่อนไปมาเพื่อบังแดดและเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ และท้ายสุดที่ชอบมากก็คืองานกรุไม้บริเวณระเบียงดู  Detail ดีครับ 

Cleanness

ความสะอาดภายในห้องเต้ต้องบอกว่าเกือบไร้ที่ติครับ ที่เต้ว่าเกือบก็เพราะว่า เต้เหยียบเจอทราย 1 เม็ดที่ห้องครับ เว้อมะ? นอกนั้นคือดีงามหมดครับ

สรุปภายในห้องพักนะครับ สำหรับจุดใหญ่ๆที่เต้ติไปบ้างก็คงหนีไม่พ้น Technology ที่บางอย่างน่าจะอัพเกรดอีกนิดก็จะดีมาก และการลด Cost โดยการใช้สบู่ ยาสระผม ครีมนวดและโลชั่นแบบ Refill อย่างไรก็ตามในภาพรวมเต้ยังให้คะแนนอยู่ที่เฉียดๆ 9 คะแนน เพราะเต้ถือว่าไม่ใช่สาระสำคัญเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามถ้าได้ L’occitane เต้จะให้คะแนนในส่วนนี้เก้ากว่าๆเลยครับ55

Service ภาพรวมในโรงแรม

พนักงานมีความสุภาพและ Friendly ในทุกพื้นที่ของโรงแรม เวลาเราเดินผ่านก็จะมีการกล่าวสวัสดีเหมือนโรงแรมได้เทรนด์พนักงานมาดี สำหรับภาพรวมของงานบริการถือว่าดีมาก ไร้ที่ติครับ

ความคุ้มค่า

สำหรับอาคารฝั่งทะเลกับราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 5,xxx บาท เต้ถือว่าคุ้มค่าครับ

เพราะอะไร????

Room

ทุกอย่างที่อยู่ภายในห้องพักถือว่าเป็น The Finest หมดครับ อย่างไรก็ตามบาง Part ที่เกี่ยวกับ Technology อาจจะ Obsolete ไปบ้างตามเวลา แต่เต้เชื่อว่าสิ่งนี้ไม่ใช่จุดขายของโรงแรมครับ 

Facilities  

สระว่ายน้ำ/ฟิตเนส คือดีงามมาก โดยเฉพาะห้องฟิตเนส อุปกรณ์ที่นำมาลงคือเกรดเดียวกับฟิตเนสเกรด A ในกรุงเทพเลยครับ

Breakfast

จริงอยู่ว่า Drop ลง แต่….ถ้าเทียบกับโรงแรม 5 ดาว อื่นๆที่เต้ไปพักมา เต้ว่าคุณภาพ/รสชาติของอาหารที่ Intercontinental Hua Hin ยังถือว่าดีกว่ามาก ยิ่งถ้าเปรียบเทียบกับโรงแรมเปิดใหม่อย่าง The Standard Huahin ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของ ความหลากหลาย รสชาติและคุณภาพ Intercontinental Huahin ชนะขาดครับ

Vana Nava

และนี้คือที่สุดในความคุ้มครับ นั่นก็เพราะว่าใครพักที่ Intercontinental Huahin ได้เข้า Vana Nava ฟรี 2 คน ครับ เอาจริงๆแค่นี้ก็คุ้มสุดๆละครับ เพราะค่าเข้าเอาแบบราคาโปรโมชั่นในช่วงนี้ก็คนละ 780 บาท บาทละครับ ถ้าไม่ใช้โปรก็ 1,200 บาท 

นี้ละครับทำไมเต้ถึงว่า Intercontinental Hua Hin เป็นโรงแรมที่น่าพักที่สุดในหัวหินครับ เพราะมันครบจริงๆครับ 🙂

ปล.3 หลายๆคนอาจจะไม่ทราบว่า Intercontinental Hua Hin เป็นโรงแรมที่เต้มาพักบ่อยที่สุดในหัวหินค๊าบ

ปล.2 Intercontinental Hua Hin ส่ง Voucher พัก Club InterContinental มาให้เต้เลย ใช่เวลาทำ Content นี้ตั้ง 1 อาทิตย์กว่าๆเลยนะ เหนื่อยมั๊กๆเลย ทำเหมือนได้เงินเลย55

ปล.3 อยากเขียน Marriott ที่ภูเก็ต กับ Rati ล้านนา ที่เชียงใหม่แล้วอ๊า ดองไว้นานมากละ เดี๋ยวอาทิตย์นี้ต้องเริ่มงานเขียนรีวิวคอนโด 125 Sathorn จะมีเวลาทำไหมเนี่ย! บ่นเสร็จละไปละค๊าบ

 

Copy link
Powered by Social Snap