Final Chapter
Analysis investment potential
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการของ The Cube รามอินทรา 109 อยู่ที่ 56,000 บาท/ต่อตารางเมตร ยูนิตราคาส่วนใหญ่ของโครงการนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านกลางๆสำหรับห้องขนาด 24-26.5 ตารางเมตร ซึ่งผมว่าราคาไม่แพงนะครับ เหมาะกับการซื้อเพื่อเป็นทรัพย์สมบัติชิ้นแรกหลังเรียนจบ หรือซื้อไว้เพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 ก็ยังได้ อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าหลายๆคนอาจยังไม่เห็นภาพว่าซื้อเพื่อเป็นทรัพย์สมบัติชิ้นแรกคืออะไรแถวนี้ยังไม่เห็นอะไรเลยโล่งไปหมดไม่เหมาะกับเป็นทรัพย์ซะเท่าไหร่…ใช่ค๊าบยังไม่มา แต่ต่อไปมาแน่ครับ…แต่อาจจะหลายปีหน่อยครับ เพราะอะไรหรือครับ…ก็เพราะรถไฟฟ้าไงครับห่างจากโครงการเพียง 280 เมตร เองครับ อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยอนาคตที่ค่อนข้างไกลเพราะรถไฟฟ้ายังสร้างไม่เสร็จ+รถไฟฟ้าสายสีชมพูไม่ได้ตัดเข้า CBD แต่เป็นการวิ่งรอบนอก ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายของผู้ซื้อเพื่อหวังจะเข้าไปทำงานในเขตเมืองเช่น อโศก สาทร หรือ Location พัฒนาใหม่อย่างพระราม 9 โครงการนี้อาจไม่ใช่คำตอบที่ตรงใจนัก เพราะจะใช้เวลาเดินทางนานมาก และอาจจะเสียค่าเดินทางหนักมาก แต่สำหรับคนที่ทำงานในเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูวิ่งผ่าน ผมว่าโครงการนี้น่าสนใจไม่น้อยครับ เนื่องจากราคาไม่สูงมาก และระยะไม่ไกลจากรถไฟฟ้ามากนัก นอกจากนี้ในรูปแบบการใช้ชีวิตก็ไม่ยาก เพราะโครงการใกล้ Community ใกล้ Super market (Makro) แล้วถ้าซื้อเพื่อปล่อยเช่าละ? ถ้าคาดหวังค่าเช่าประมาณ 5% ผมว่าก็น่าจะพอไปได้ แต่กลุ่มเป้าหมายนั้นอาจมีไม่มากนัก เพราะต้องยอมรับว่าแถวนี้คนไม่ได้มีรายได้มากนักส่วนใหญ่คนทำงานแถวนี้จะเป็นพนักงานธรรมดา ประกอบกับความเป็นชุมชนอาจจะยังไม่สูงมาก ความต้องการห้องพักจึงยังไม่มากตาม แต่ถ้ามองในอีกมุมแถวนี้ยังไม่มีคอนโดดีๆเลย แต่ถ้าจะมีบ้างก็จะเป็นแถว Fashion Island ดังนั้นน่าจะมีกลุ่มคนบางคนอยากจะขยับออกจากแถวนั้นมาหาห้องพักแถวนี้เพื่อแลกกับสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าครับซึ่งผมมองว่ากลุ่มนี้คือกลุ่มเป้าหมายสำหรับการปล่อยเช่า อย่างไรก็ตาม ผมยังไม่ได้ให้เป็นเหตุผลหลักในการซื้อนะครับ แล้วถ้าซื้อเพื่อปล่อย Speculate ละ? ถ้าเล่นระยะสั้น ผมไม่ให้ราคาตรงส่วนนี้เท่าไหร่เลยครับ แต่!!!มี 1 เงื่อนไขถ้าโครงการนี้จะ Speculate ได้ นั่นคือถ้าโครงการนี้ขายได้ดีช่วงเปิดตัวครับ Demand เหนือความคาดหมาย อย่างไรก็ตามผม Play Safe นะครับ ผมไม่อยากให้เป็นเหตุผลหลักในการซื้อครับ อยากให้มองเป็นผลพลอยได้ดีกว่าครับ ดังนั้นผมขอสรุปเลยว่า โครงการนี้เหมาะกับซื้ออยู่เองเป็นจุดประสงค์หลักดีกว่าครับ เนื่องจากอาจต้องอาศัยเวลาสักนิดสำหรับสิ่งต่างๆที่กำลังจะมาหลังจากรถไฟฟ้าสร้างเสร็จครับ ผมให้สัดส่วนเหตุผลในการซื้อเป็น ซื้อเพื่ออยู่เอง 55% ซื้อเพื่อปล่อยเช่า 20% และซื้อ เพื่อ Speculate ระยะยาว ที่ 15% ครับ และระยะสั้นที่ 10%
At the end
แว๊บแรกที่ผมเข้าไปเห็นห้องตัวอย่างนั้น ส่วนตัวแล้วนั้น ผมค่อนข้างชอบเลยครับ ผมว่าเป็นโครงการที่ให้งานเฟอร์สวยและครบมากครับ Function ดี มี Detail ในตัวงาน เช่นการทำเฟรมหน้าต่างชนฝ้า การทำหลืบฝ้าเพื่อใส่รางม่านหรืองานเฟอร์นิเจอร์ก็ค่อนข้าง Detail เช่นมี Soft close ให้ มีหลอดไฟในตู้เสื้อ มีช่องเก็บของใต้เตียง และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งผมเชื่อว่าหลายๆคนที่ไปดูคอนโดต่างๆ แต่ไม่เคยสังเกตอะไรลึกขนาดนี้ หรือแม้แต่หลายๆ Developer จะตัดสิ่งเหล่านี้ออกไปเพื่อลดต้นทุน ผู้ซื้อก็ไม่ทราบ แต่ที่โครงการ the Cube รามอินทรา ให้ครับ ซึ่งสำหรับผมแล้ว Point ตรงนี้สำคัญครับ Gimmick เล็กๆของห้องนั้น จะเป็นการ Differentiate ตัวเองจากคู่แข่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ผมชอบโครงการนี้ อย่างไรก็ตามด้วยความเป็นที่ Location นี้เป็น Up coming ดังนั้นการซื้อเพราะคาดหวังความเจริญแบบก้าวกระโดดอาจจะต้องให้เวลากับ Location สักนิด แต่ถ้ามองข้าม Factor ของเรื่องรถไฟฟ้าไปก่อน ต้องการซื้อโครงการนี้เพราะชอบ Location อาจเนื่องด้วยพักอยู่แถวนี้ ทำงานอยู่แถวนี้ โครงการ Fashion Island ใกล้ Community Mall ใช้รถยนต์เป็นหลัก มีงบไม่มาก ผมว่าโครงการนี้ค่อนข้างตอบโจทย์เลยครับ จริงๆนะ
สิ่งที่ประทับใจ
- เฟอร์นิเจอร์สวยมาก
- ราคาไม่สูง
- ใกล้รถไฟฟ้า
- ใกล้ห้างและ Community Mall
สิ่งที่ไม่ประทับ
- ไม่มีแอร์มา
- ไม่มีเตาไฟฟ้ากับฮูดดูดอากาศ