Location, Facilities, Building Character, Room Character
Location
ถ้าใครอ่านบทความที่ผมเขียนตลอดมานั้นจะสังเกตุได้ว่าไม่บ่อยมากนักที่ผมจะเขียนรีวิวโครงการที่ห่างจากรถไฟฟ้าใครที่คิดจะซื้อโครงการนี้แล้วหวังจะใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักผมว่าอาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ครับ แต่ถ้าใช้รถยนต์เป็นหลักผมว่า Location ตรงนี้เหมือนเป็นศูนย์กลางสำหรับการเดินทางเลยครับจะไปลาดพร้าว ห้วยขวาง พหลโยธิน หรือรัชดาก็ง่าย ความจริงแล้วซอยแถวนี้มันทะลุกันหมดเลยครับ ตัวโครงการ Chambers Chaan นั้นตั้งอยู่ระหว่างซอยวังหิน 66 กับ ซอยวังหิน 68 ครับ การสำหรับการใช้ชีวิตแถวนี้แล้วผมว่าง๊ายง่ายครับ เพราะโครงการห่างจาก Tesco แค่ 250 เมตร ห่างจาก Comnunity Mall (Jas วังหิน) 350 เมตร แค่ 2 สิ่งนี้ก็จบแล้วครับมีครบทุกอย่างอยากซื้ออยากกินแถวนี้มีให้หมด ในที่นี้ไม่รวมถึงร้านค้า ร้านอาหารริมทางให้เลือกมากมายน่ะครับ ถ้าว่างๆเบื่อๆอยากดูหนังก็ขับรถไป Major รัชโยธินครับรถไม่ติด Google Map บอกว่า 9 นาทีถึง ใกล้ไปม่ะเอย สำหรับเส้นทางที่มาจะมาโครงการนั้นมีมากมายหลายเส้นทางมาก วันนี้ผมจะวิ่งมาจากพระราม 9 ครับโดยวิ่งบนถนนรัชาภิเษกผ่านห้วยขวางและแยกสุทธิสารจนถึงแยกรัชดา-ลาดพร้าวหลังจากนั้นก็เลี้ยวขวา ถ้ามาจากเมเจอร์รัชโยธินต้องเลี้ยวต้องเลี้ยวซ้ายครับ ตรงมาเรื่อยๆจนถึงลาดพร้าว 41 จึงเลี้ยวซ้ายเข้ามาตรงมาจนถึงลาดพร้าวแยก 6 จึงเลี้ยวซ้ายหลังจากนั้นตรงมาเจอทางแยกให้เบี่ยงซ้ายตรงไปจนถึงซอยวังหิน 66 แต่ถ้าจะให้ง่าย 1.หยิบมือถือขึ้นมา 2. เปิด Google Mapห 3. พิมพ์วังหิน 66 4. Start the route แค่นี้ครับ Nice and easy จะอยู่ไหนในกรุงเทพก็มาได้ครับ ความจริงก็ไม่อยากเวิ้นเวออะไรมากหรอกครับ แต่เห็นเวปด์อื่นเข้าพิมพ์ๆถ่ายๆกันเลยขอทำพอเป็นพิธีบ้างครับอะไรบ้างปีนี้ 2015 คนที่อ่านเวปด์ผม ผมเชื่อว่าทุกคนใช้ Smart Phone กันหมดแล้วครับจริงอ่ะเปล่า…..หรือว่ายังใช้ Nokia 3300 กันอยู่หุๆ
Facilities
• Swimming Pool(สระน้ำเกลือ) ชั้น G ระหว่าง ตึก B1 และ B2
• Lobby ทุกอาคาร
• Sky Garden ชั้นดาดฟ้าบนอาคาร A
Pocket Garden ที่ชั้น 5
• Fitness ชั้น G ตึก B2
โครงการนี้ออกแนวทั่วถึงครับ เพราะทุกตึกจะมีส่วนกลางเป็นของตัวเอง เช่น สระว่ายน้ำ(ขนาด ยาว 20 เมตร กว้าง 7.6) หรือห้องฟิตเนตที่เป็นส่วนกลางหลักๆจะอยู่ระหว่างตึกB1- B2 แต่สำหรับตึก A จะมีความพิเศษอยู่ตรงที่มีสวนให้อีก 2 สวนครับ โดยจะมีที่ชั้น 5 และดาดฟ้าครับ นอกจากนี้ในแต่ล่ะตึกยังมี Lobby เป็นของตัวเองด้วยครับ ประมาณว่าใครอยู่ตึกไหนก็มีอะไรทำครับ แต่เอาจริงๆน่ะครับแต่ละตึกมันก็ไม่ได้ไกลกันมากครับเดินถึงกันได้อยู่แล้วครับ
CG
Building Character
โครงการนี้มี 3 ตึก ครับซึ่งแต่ล่ะตึกนั้นบอกตรงๆเลยว่ามีจุดขายแตกต่างกันอย่างเด่นชัดมากครับ ความแตกต่างนั้นมีตั้งแต่ลักษณะรูปแบบตึก รูปแบบห้อง จนไปถึง Facilities เลยครับ แต่ราคาก็แตกต่างกันน่ะครับลองมาดูกันเล่นๆว่าตึกไหนเหมาะกับใคร
Master Plan
ตึก A
เป็นตึกที่มียูนิตมากที่สุดใน 3 ตึกครับเพราะมีถึง 176 ยูนิตแต่ผมถือว่าไม่มากน่ะครับถ้าเทียบกับ Low rise โครงการอื่นครับ อย่างไรก็ตามไหนๆยูนิตก็มากที่สุดใน 3 ตึกล่ะ ทีมออกแบบให้ส่วนกลางเพิ่มโดย Design ให้ชั้นบนสุดให้มีสวนลอยฟ้า และมี Pocket Garden ที่ชั้น 5 ด้วยครับ โดยตึกอื่นอีก 2 ตึกไม่มีส่วนกลางนี้ครับ ความจริงแล้วส่วนกลางไม่ว่าจะเป็นสระหรือฟิตเนตทุกตึกสามารถเข้าไปใช้ได้ครับผมว่าในส่วนนี้ไม่น่าเป็นประเด็นมากครับ แต่ผม็แอบส่งสัยว่าอีก 2 ตึกจะมาใช้ส่วนกลางของตึกนี้ได้ไหมเน้อ….นอกจากมีส่วนกลางที่ตึกอื่นไม่มีแล้วตึกนี้ยังเป็นตึกที่ราคาย่อมเยาว์ที่สุดด้วยครับเพราะเริ่มต้นแค่ 1.8 ล้าน แต่ได้ยินมาว่าขายหมดแล้ว ตอนนี้ราคาเริ่มต้นน่าเริ่มต้น 2.0x ล้านครับแต่ผมว่าก็ไม่แพงน่ะครับ สำหรับผมแล้วเป็นตึกที่เหมาะกับการซื้อลงทุนที่สุดครับ
ตึก B1
ถ้าผมอยู่เองผมจะเลือกอยู่ตึกนี้ครับเพราะจำนวนยูนิตมีเพียง 54 ยูนิตแต่มีลิฟท์ให้ 2 ตัว ตึกนี้มีห้องที่เลอค่าอยู่ 2 Type ครับ ห้องแรกจะเป็นห้อง Chaan ที่เป็นกระจกเข้ามุมยืนออกมาจากตึกตอนยืน โดยห้องนี้จะเป็นอีก Type ของ 1 Bed plus ซึ่งห้องที่ Plus นี้สามารถทำเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนก็ได้ครับ ส่วนอีก Type นั้นจะเป็นห้องที่มี Floor to Ceiling 4.3 เมตรครับ ดีงามเลอค่าอีกเช่นกันครับโดยกระจกหน้าต่างจะเป็น Floor to Ceiling โดยห้อง Signature ห้องนี้จะอยู่ที่ชั้น 6 เท่านั้นครับ โดย Layout ห้องจะใมาแบบ 1 Bed Plus อีกเช่นกันครับ ผมว่า 2 Type นี้น่าจะเป็นห้องที่ราคาต่อตารางเมตรสูงสุดอีกด้วยครับ แต่ถ้ามีเงินจัดเถอะครับผมว่ามันจะดีงามมากถ้าได้อะไรที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร
ตึก B2
ตึกนี้จะเป็นตึกที่มี Facility หลัก เช่นสระว่ายน้ำกับห้องฟิตเนตครับตึกนี้จะเป็นตึกที่ค่อนข้างสมบูรณ์สำหรับคนชอบใช้ส่วนกลางครับเพราะไม่ต้องเดินข้ามตึกมาใช้ สำหรับตึกนี้มีจำนวน 84 ยูนิตแต่มีลิฟท์ให้ 2 ตัว เท่ากับว่าลิฟท์ 1 ตัวต่อจำนวน 42 ยูนิตครับ ซึ่งถือว่าจำนวนยูนิตต่อลิฟท์ยังคงถือว่าน้อยมากครับโครงการ Low-rise แบบ Hi-End ยังต้องแชร์จำนวนลิฟท์ต่อยูนิตสูงกว่านี้เลยครับ สำหรับโครงการใหม่ๆสมัยนี้ถ้าเป็น Segment กลางๆลิฟท์ 1 ตัวจะต้องแชร์ประมาณ 2xx ยูนิตแล้วครับ เห็นภาพขึ้นไหมครับ 🙂 สำหรับตึกนี้ยูนิตจะเหมือนกับตึก A ครับแต่จุดขายจะมีแค่สระว่ายน้ำและห้องฟิตเนตที่สามารถเดินลงไปใช้ได้เลยครับ
Chambers Chaan เป็นโครงการที่แอบเวียนหัวไม่น้อยเวลาเลือกห้องและตึกเพราะมีมากมายหลายแบบให้เลือก นอกจากนี้ยังมี Spec ห้องตั้งแต่ Segment C- จนไปถึง B+ เลยครับ เพิ่มความงงไปอีกขั้นแต่ถือว่าเป็นความหลากหลายในตัวสินค้าล่ะกันครับ 🙂 แต่สิ่งที่ผมประทับใจสุดยอดคือเรื่องลิฟท์เพราะตึก B1 มี 54 ยูนิตแต่ให้ลิฟท์ 2 ตัวเท่ากับ ลิฟท์ 1 ตัวต่อ 27 ห้อง และ ตึก B2 สำหรับ 84 ยูนิตต่อลิฟท์ 2 เท่ากับ ลิฟท์ 1 ต่อ 42 ห้อง นอกจากนี้ งาน Exterior ของตึกที่ค่อนข้างหน้าสนใจเพราะมีการใส่รายระเอียดต่างๆลงไปในตึกด้านนอก เช่นระแนงเป็นซี่ๆที่ตัวตึก(ผมไม่แน่ใจว่าวัสดุจะเป็นอะไรแต่ที่ทราบมาจะคล้ายๆที่ Sales Gallery ด้านนอกครับ) นอกจากนี้ห้อง Signature ที่มีพื้นยื่นออกมาจากตึกหรือกระจก Floor to ceiling สิ่งเหล่านี้จะทำให้ตัวตึกดูมีอะไรมากขึ้นไม่ใช่แค่ผนังปูนเหมือนโครงการ Low rise อื่นๆทั่วไปครับ
Room Character
ห้องของโครงการนี้มาแบบ 6 แบบ 6 Style และแต่ละแบบนั้นมี Spec ที่แตกต่างกันออกไป โดยแบบแรกนั้นจะเป็นแบบธรรมดาอย่าง Studio ครับ แบบที่ 2 ก็จะเป็นแบบ 1 ห้องนอนธรรมดา แบบที่ 3 จะเป็นแบบ 1 ห้องนอน+1 ห้องเอนกประสงค์ แบบนี้ชอบม๊ากครับเพราะสามารถดัดแปลงได้ครับ แบบที่ 4 จะมาแบบ 2 ห้องนอน สำหรับ 4 Type นี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไปไม่ยากครับ แต่สำหรับแบบที่ 5-6 นั้นเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ครับ แต่จะเป็น 1 ห้องนอน+1 ห้องเอนกประสงค์ สิ่งที่ทำให้ 2 ห้องหลังนี้ Unique นั้นว่าเพราะห้องแบบที่ 5 จะ เป็น Loft ครับ คือพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะสูงถึง 4.3 เมตรครับ แปลกดีไหมครับหาได้ไม่บ่อยน่ะครับ Low rise จะสูงขนาดนี้ สำหรับ Type ที่ 6 ความพิเศษคือห้องอเนกประสงค์นั้นจะสร้างยื่นออกมาจากตึกโดยกระจะเป็นกระจกเข้ามุม Floor to Ceiling ครับห้องนี้ดูเด่นม๊ากครับแต่น่าเสียดายไม่มีห้องตัวอย่างสำหรับ 2 Type นี้ครับ มาชมห้องตัวอย่างกันเลยครับ
