Review

The Privacy จตุจักร ที่สุดแห่งความหลายหลายและหรูหรา ในราคาที่ใครก็จับต้องได้

Facilities

เต้ไม่ได้เห็น Interior แบบล้นๆ หนักๆ แบบนี้มานานแล้วนะครับ งาน Interior ของโครงการนี้มีความละลานตามาก วิ้งไปหมด Material ที่เลือกใช้ก็ค่อนข้างดีมาก มีการผสมผสานของวัสดุประเภทต่างๆ มากมาย ให้เยอะแบบไม่กั๊กเลย ซึ่งพอเต้เห็นแล้วก็อยากร้องไห้เพราะต้องเขียนเพิ่มอีกเยอะเลย55 แต่สำหรับคนที่ได้โครงการนี้ไปแล้ว หรือที่กำลังจะซื้อถือว่าเป็นกำไรครับ 🙂

Garden 

มีความแอบชอบสวนหน้าโครงการครับ เต้ว่ามีความเก๋แปลกใหม่ไม่เหมือนใครดีครับ เพราะสวนของโครงการนี้ไม่ใช่โครงการที่ดูเป็นส๊วนสวน แต่บริเวณนี้มีการใช้วัสดุหลายชนิดผสมผสานได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นหิน  ต้นไม้ประเภทต่างๆ น้ำผุและปิดท้ายด้วยงานสเตนเลสดัดเป็นเส้นให้ล้อไปกับสวนแนวยาว Part นี้ทำออกมาดีครับ

Gate 

มีความ Grand  ไม่น้อยเพราะบริเวณ Drop off  จะได้ความสูงแบบเป็น Double Volume มีการใช้กระเบื้องสีดำเข้มตัดกับ Aluminium Cladding สีขาว Featuring ไฟที่โครงการเดินไว้เป็นช่องบริเวณด้านหน้าอาคารซึ่งจะทำ The Privacy จตุจักร ในเวลากลางคืนโดดเด่นมาก 

Lobby

แสบตามากครับ โครงการเลือกที่จะใช้ Stainless Mirror สีทองมาเป็น Theme หลักภายใน Lobby นอกจากนี้การจัด Lighting แบบจริงจังยิ่งทำให้ Lobby มีความวิ้ง + ฟรุ้งฟริ้งขึ้นไปอีก เอาจริงๆ เต้ชอบนะ เป็นความหรูที่ไม่ต้องตีความมากมาย ประมาณว่าเห็นแล้วหรูเลย สำหรับในส่วนของงานเฟอร์นิเจอร์ก็ทำออกมาได้ดีครับ เพราะสวยทุกชิ้น  พร๊อบที่นำมาประกอบภายในก็ทำได้อย่างลงตัว 

ปล. Mailbox โครงการนี้สวยมาก

Stair

ต้องพูดถึงบันไดกันเลย? เต้อยากบอกว่าบันไดของโครงการนี้ไม่ธรรมดานะครับ เพราะบันไดนี้เป็นบันไดส่วนกลางที่สวยที่สุดบันไดหนึ่งเท่าที่เต้เคยเห็นมาเลยนะครับ โครงการตารางเมตรละ 2 – 3 แสนก็ทำไม่สวยเท่าที่นี่ โดยบันไดที่นี่จะใช้หินอ่อน Phantom White โดยวิธีการปูนั้นจะเป็นแบบต่อลายขั้นต่อขั้นเพื่อความงามในทุกองศา นอกจากนี้ยังมีการซ่อนไฟไว้ใต้บันไดอีกด้วยนะครับ เห็นบันไดนี้แล้วทำให้นึกถึง Shop ของ Dolce & Gabbana ที่ลอนดอนเลย เพราะหินตัวเดียวกันและการปูกับการวางไฟก็เหมือนๆ กันด้วยครับ โดยบันไดชุดนี้จะเป็นทางเดินจาก Lobby ไปยังห้อง E-Library และ Meeting room ครับ

E-Library

พื้นที่ค่อนข้างกว้างขวางเลยครับ เป็นการผสมผสานระหว่างความหรูหราและเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว โดยใน Part ของเทคโนโลยีนั้นคงหนีไม่พ้นทีวี LED ขนาดใหญ่ที่เราสามารถเชื่อมต่อเข้ากับมือถือหรือ Laptop เพื่อใช้ในการ Present งาน นอกจากนี้ภายในห้อง E-Library นั้นยังมีพื้นที่ต่างๆ ที่เราสามารถมานั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือได้อีกด้วยครับ 

Meeting room

ห้องนี้มีความคล้ายห้อง E-Library ครับ แต่จะมีการจัด Function การใช้งานที่แตกต่างกันครับ โดยภายในห้องนี้จะมาพร้อมกับ โต๊ะประชุมหินอ่อน Phantom White พร้อมกับจอ LED เพื่อใช้ในการประชุม (ปล. ลายหินอ่อนสวยม๊ากกกก) สำหรับความหรูหราเต้ว่าแอบมีความเต็มมากกว่าห้องก่อนหน้านี้นิดนึงครับ โดยสิ่งที่เต้ชอบมากมายภายในห้องนี้คืองาน Ceiling เพราะมีการนำแผ่นสเตนเลสมาทำเป็น Pattern แล้วยิงไฟผ่านลงมา โดยงานออกแบบ Style นี้ที่ห้อง E – Library ก็มีนะครับ แต่จะมีแค่พื้นทีเล็กๆ บริเวณโต๊ะทำงาน 3 ตัว หน้าจอ LED แต่สำหรับห้อง Meeting room จะได้ Ceiling แบบนี้เกือบทั้งห้อง เต้ว่ามีความเก๋ แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใครดีครับ 

โดยส่วนกลางทั้ง 3 ห้องนี้จะเปิด 24 ชั่วโมงครับ นอกจากนี้ถ้าเราต้องการความ Private ในการใช้ห้อง เราสามารถทำการ Booking ส่วนกลางทั้ง 3 ส่วนนี้ผ่านทาง Online ได้อีกด้วยนะ

Lift

โถงลิฟท์ของโครงการนี้มีอะไรหลายอย่างที่ชอบมาก เพราะมีความใส่ใจในรายละเอียดหลายๆ อย่าง โดยเต้ขอเริ่มต้นจากความสวยงามก่อนนะครับ สำหรับความสวยงามของโถงลิฟท์ในชั้นส่วนกลางแต่ละชั้นทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะในส่วนของ Lobby ทำออกมาได้ Grand ดีครับ นอกจากนี้พื้นโถงลิฟท์ทุกตัวยังปูด้วยหินอ่อนอย่าง Phantom White อีกด้วยครับ สำหรับหินที่นำมาปูก็มีรายละเอียดเล็กๆ ที่เต้สังเกตได้ก็คือ ลายหินทุกตัวในลิฟท์แต่ละตัวจะเป็น Pattern เดียวกันหมดครับ เรื่องนี้สำหรับบางคนอาจจะไม่อะไรมากมาย แต่สำหรับเต้แล้วมันคือ ความใส่ใจใน Detail เล็กๆ น้อยๆ ครับ

ถัดมาเป็นฟังก์ชั่นที่เต้ประทับใจมากครับ โดยบริเวณหน้าลิฟท์ของทุกชั้นภายในโครงการนี้จะมีปุ่มกดลิฟท์สำหรับคนนั่ง Wheelchair ด้วยนะครับ เท่ากับว่าบริเวณหน้าลิฟท์จะมีปุ่มกดอยู่ 2 แผง โดยแผงแรกสำหรับคนปกติ และแผงที่ 2 สำหรับคนพิการ แต่…ยังไม่หมดแค่นั้นนะครับ เมื่อเข้ามาภายในลิฟท์จะเจอกับแผงกดและที่อ่าน Card 2 จุด โดยจุดแรกสำหรับคนปกติและอีกหนึ่งจุดสำหรับคนนั่งWheelchair  เอาจริงๆ ภายในลิฟท์เต้เคยเห็นนะ แต่หน้าโถงลิฟท์ เต้ไม่เคยเห็นครับ

สำหรับงาน Interior โถงลิฟท์ชั้นปกติจะเป็นผนังฉาบปูนทาสีธรรมดา แต่เต้ก็ยังแอบชอบงานปูกระเบื้องนะครับ เพราะมีการตัดขอบกระเบื้องพื้นทางเดิน ทำให้ทางเดินระหว่างชั้นดูมีอะไรมากขึ้นครับ

Garden

Space ใหญ่มากครับ งาน Landscape ทำออกมาได้ดี มีการ Design ให้บริเวณนี้เป็นสวนแบบเล่นระดับ โดยในบริเวณนี้จะมีพื้นที่นั่งเล่นในร่มสำหรับคนที่ไม่ชอบนั่ง Outdoor ด้วยนะ ในภาพรวมออกแบบมาให้ใช้งานได้จริงครับ

Pool

The Privacy จตุจักร เป็นสระว่ายน้ำแบบ Infinited Edge Pool ที่มาพร้อมกับน้ำตกและน้ำพุภายในสระ (เด็กๆ น่าจะชอบ) โดยความยาวของสระอยู่ที่ 25 เมตรครับ สำหรับ Highlight ของ สระว่ายน้ำของโครงการนี้คงหนีไม่พ้น Aluminium Cladding สีเงินที่หุ้มบริเวณ Ceiling ของสระว่ายน้ำ อื่นๆ อารมณ์ของความหรูหราของส่วนกลางที่ได้เห็นก่อนหน้านี้ได้เปลี่ยนเป็น Futurlistic เบาๆ ที่ชั้นสระว่ายน้ำ นอกจากนี้อีกหนึ่งสิ่งที่เต้ค่อนข้างชอบบริเวณสระว่ายน้ำก็คือ Shower ครับ ลองดูภาพนะครับว่า Shower บริเวณสระว่ายน้ำของ The Privacy จตุจักร ล้ำขนาดไหน55 คอนโดตารางเมตรละ 2 – 3 แสนยังให้แค่ Rain Shower แบบบ้านๆเลยครับ แต่ที่นี่ติดหัว Jet มาให้เลย อาบไปด้วยนวดตัวไปด้วยครับ55 และท้ายสุดก่อนไปเต้อยากบอกว่าบริเวณเหนือสระว่ายน้ำยังมีพื้นที่ห้องเราไปนั่งเล่นชมสระว่ายน้ำ และสวนจตุจักรอีก 2 ชั้นด้วยนะครับ

Sky Bar

จะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำครับ (วันที่ไปติด Event เลยถ่ายไม่ได้ครับ แต่เต้ได้มองเข้าไปแล้ว อยากบอกว่าหรูหรามากมายครับ)

Fitness

ให้ Spec ห้องฟิตเนสดีมาก เครื่องตัวหลักๆ จะได้เป็นของ Life Fitness ครับ ราคาแบรนด์นี้ก็พอๆ กับ Techno Gym ครับ โดยจะมีการผสมผสานระหว่างรุ่น Top ที่บริเวณเครื่องเล่น Cardio โดยจะมีจอ LED ที่เราสามารถดู YouTube และเล่น Facebook ได้ ด้วยครับ อย่างไรก็ตามเครื่องเล่นบางตัวก็ไม่มีให้นะถึงจะเป็นแบรนด์ของ Life Fitness เหมือนกัน นอกจากนี้ในเครื่องเล่นบางตัวก็จะใช้แบรนด์ค่อนล่างนิดนึงเลยก็มีครับ ซึ่งเอาจริงๆ เต้ไม่ติดนะครับ เพราะคอนโดราคาแค่นี้ให้เครื่องเล่นของ Life Fitness ประมาณ 75% ของเครื่องเล่นทั้งหมด เต้ถือว่าดีมากแล้วครับสำหรับงาน Interior ทำออกมาได้สวยงามดี การจัด Lighting ทำออกมาไดัดีและท้ายสุดสิ่งที่เต้ชอบมากก็คืองานกระจกแบบ Full Hight ที่ให้เราชมวิวสวยและวิวเมืองยามค่ำคืน

Home Theater 

ส่วนกลางนี้โครงการทำเพิ่มมาให้ด้วยนะครับ โดยภายในห้องนี้จะมาพร้อมกับ TV LED จอใหญ่ที่มาพร้อมกับชุด Home Theater สำหรับงาน Interior ทำออกมาได้สวยพอประมาณครับ โดย Highlight ของห้องเต้คงให้เป็นเรื่องของงานกระจกครับ เพราะบานใหญ่และแทบจะไม่ซอยขนาดกระจกเลยครับ จะยิ่งใหญ่ไปไหนเนี่ย! นี่เป็นห้อง Home Theater นะค๊าบ

Co-Working Space

เป็นอีกหนึ่งห้องที่เต้ชอบมากที่สุดภายในโครงการนี้ โดยจุดเด่นของห้องนี้เต้ขอยกให้งานผนังหินWhite Onyx ที่มีขนาดใหญ่ และ Grand มากที่สุดเท่าที่เต้เคยเห็นในคอนโดมา โดยในยามค่ำคืนผนังหินแผ่นนี้จะมีแสงออกมาด้วยครับ….ใช่แล้วครับหิน Onxy เป็นหินที่แสงส่องผ่านได้ครับ… โดยโครงการก็ได้เดินระบบไฟไว้หลังผนังหินเรียบร้อยแล้วครับ ถัดจากงานหิน ส่วนต่อมาที่เต้ชอบมากก็คืองานกระจก Full Height แบบ Double Ceiling ที่เต้บอกจากใจเลยว่าคือความหรูขั้นสุดยอด จะมองจากห้องออกมาก็ได้วิวสวยๆ หรือจากนอกอาคารมองเข้ามาก็ได้เห็นงานกระจกสวยๆจากโครงการนี้

Sky Lounge 

ห้องนี้เป็นห้องที่ทำออกมาได้สวยกว่า CG ครับ งาน Interior และ Lighting ทำออกมาได้ดีมาก การนำอะคริลิคสีต่างๆมาทอนความฟรุ้งฟริ้งของห้องลงทำให้ภายในของห้องนี้แตกต่างไม่เหมือนห้องอื่นๆ ที่ผ่านมา สำหรับโดยจุดขายของห้องนี้น่าจะยังคงเป็นกระจก Full Height ที่เราสามารถมองเห็นสวนจตุจักร ได้อย่างเต็มตา และท้ายสุดคือ Furniture ที่เต้ขอบอกสั้นๆว่าสวยลงตัวอีกเช่นกันครับ

Roof Top

ใหญ่ม๊ากกกกกกก คือทำออกมาอย่างจริงจังเลย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับวิ่งออกกำลังกาย พื้นที่ออกกำลังกายสำหรับเด็กพร้อมวัสดุรองพื้นเพื่อรับแรงกระแทก สำหรับใครไม่อยากออกกำลังกายก็สามารถมานั่งเล่นชมวิวได้นะครับ บริเวณ Roof top มีหลายจุดที่เราสามารถนั่งเล่นชิวๆได้เลยครับ หรือสำหรับคนที่อยากจัด Party ก็สามารถมาทำได้นะ เพราะบริเวณ Roof มีพื้นที่สำหรับรองรับในการทำกิจกรรมดังกล่าว ที่มาพร้อมกับเครื่องย่าง BBQ ด้วยนะครับ

สรุปในภาพรวมเป็นโครงการที่ให้ความสำคัญกับความสวยงามมาก โดยแต่ละพื้นที่ในส่วนกลางนั้นงาน Interior กินกันไม่ลงเลย บางส่วนกลางงานหินเด่นมาก บางส่วนกลางจัด Lighting สวย หรือบางส่วนกลางงานเฟอร์นิเจอร์คือ Highlight อย่างไรก็ตามหนึ่งสิ่งที่เต้สังเกตได้ และเป็นสิ่งที่แชร์ร่วมกันของงานส่วนกลางทั้งหมดก็คือ “พื้นที่” เพราะพื้นที่ของงานกลางแต่ละจุดคือ “มันใหญ่มาก” และมาแบบใช้งานได้จริงครับ

Copy link
Powered by Social Snap