แอชตัน อโศก-พระราม 9 ( Ashton Asoke-Rama 9 ) ที่สุดของทำเล

20/07/2017

Room

Room

ห้องตัวอย่างของโครงการนี้จะมากับ 3 Room type โดยจะมี 1 ห้องนอนขนาด 38 ตารางเมตร ตามมาด้วย 1 ห้องนอนพลัสขนาด  46.5 ตารางเมตร และสุดท้าย 2 ห้องนอน ขนาด 68.5 ตารางเมตร  โดยทั้ง 3 ห้องนั้นจะมีมาตราฐานของห้องชุดที่คล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม ในบางห้องอาจจะมีพิเศษมากกว่าห้องอื่นเล็กน้อย เช่น 2 ห้องนอนเดี๋ยวเรามาดูกันครับว่า 2 ห้องนอนนั้นจะมีความพิเศษกว่า 1 ห้องนอนมากน้อยแค่ไหนครับ

สำหรับ Spec ภายในห้องชุดนั้นจะเป็น Fully Fitted ครับโดยจะมีห้องครัวห้องน้ำ และ Built in ตู้ที่วางเครื่องซักผ้ามาให้ครับมาให้ครับ โดยพื้นห้องจะเป็น Engineering Wooden Floor โดยความพิเศษของพื้นนั้นจะมีการปูแบบ Pattern ครับ โดยจะมีขนาดของหน้าไม้ที่ไม่เท่ากันครับ ดูแล้วก็แปลกตาดี แอบสงสารคนปู คงงงแน่ครับหุๆ  สำหรับความสูงของห้องชุดนั้นจะอยู่ที่ 2.8 เมตร ที่ห้องนั่งเล่น 2.7 เมตร ที่ห้องนอน และในส่วนของชุดครัวกับห้องน้ำจะอยู่ที่ 2.6 เมตรครับ สำหรับความพิเศษอีกหนึ่งส่วนที่ Ashton Asoke-Rama มีให้เป็นที่แรกสิ่งนั้นคือ โครงการนี้มีม่านและทำ Drop ฝ้าเพื่อซ่อนรางให้ด้วยครับ ผมว่าสงสัยกระจกเยอะไปหน่อยกลัวร้อนเลยให้ม่านมาด้วยครับหุๆ บางคนสงสัยว่ามีม่านแล้วดียังไง สิ่งหนึ่งที่ผมคิดมาตลอดเวลาว่าถ้าโครงการทุกโครงการใน Segment Luxury หรือ Super Luxury ให้ม่านก็คงดี เพื่ออะไร…? เพื่อที่จะสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยด้านงาน Exterior เพราะเวลาคนมองจากภายนอกเข้ามาที่ตึกจะเห็นกระจกเป็นสีเดียวกัน…เคยไหมครับ เวลามองเข้ามาที่คอนโดแล้วพบว่า หน้าต่างบานนี้สีแดง อีกบานสีน้ำเงิน…พูดง่ายๆให้เข้าใจ ถ้าไม่มีม่านมาให้ แต่ละห้องก็จะติดตามใจฉัน ผลที่ออกมาก็คือ บางโครงการกลายเป็นคอนโดสีลูกกวาด ดังนั้นโครงการที่มีม่านมาให้จะเป็นการคุมโทนสีงาน Exterior ของตึกให้เป็นไปใน Theme เดียวกันครับ…ผมคิดลึกซึ้งมะ? น้อยนิด…มหาศาลนะครับหุๆ นอกจากนี้ส่วนที่ผมประทับใจมากที่สุด และเหมือนจะเป็นโครงการแรกในเมืองไทยหรือเปล่าไม่แน่ใจ ที่ให้ไฟ LED ทั้งห้อง…บางคนส่ายหัวเต้คงทำงานหนักแล้วมึนเพราะ LED เค้าติดให้เกือบทุกโครงการในเมืองไทยแล้ว…เต้ไม่มึนครับแต่…ที่โครงการแอชตัน อโศก-พระราม 9 นั้นให้เป็น LED Downlight ครับ โดยจะมี 3 ดวงใน 1 หลอดครับดังนั้นฝ้าโครงการนี้จะไม่มีรูๆให้ใส่หลอดไฟ แต่หลอดไฟจะเรียบติดฝ้าไปเลยครับ ใน Part นี้ชอบน้ำตาไหลเลยฮือๆ J  เราเข้ามาในห้องกันเลยครับ

1 ห้องนอน (38 ตารางเมตร)

ประโยคแรกที่ผมถาม Marketing  ประจำโครงการพอผมเดินเข้าไปในห้อง…“ห้องนี้ใช่ห้องตัวอย่างขนาด 44 ตารางเมตร ใช่ไหมครับ”… ในวันนั้นมีผม มีเซล 1 ท่าน และ Marketing อีก 2 ท่าน หลังจากผมถามออกไป ทางโครงการแจ้งว่า 38 ตารางเมตร ผมถามกลับว่าทำไมห้องใหญ่จังใช่เหรอครับ? ทีมอนันดาเริ่มลังเล…เพราะห้องพึ่งเสร็จร้อนๆ กลับไปดูป้ายหน้าห้องอีกที…สรุป 38 ตารางเมตรจริง ปั๊ด!!!….Layout มหัศจรรย์มาก มันสวยม๊ากกกก ถ้าย้อนเวลาไปได้ รับลองได้เจอกันแน่ครับห้อง Type นี้ เต้ขอแสดงความยินดีให้กับ คนที่ซื้อห้องนี้ด้วยครับ ผมมั่นใจว่าห้อง Type นี้ต่อไป Hot แน่ครับ เรามาดูกันในห้องว่ามีอะไรบ้าง

Living room+Bedroom

มาถึงแล้วนะค๊าบ…สรุปเป็นห้องเปล่าคร๊าบ โดยโครงการกั้นห้องนอนและห้องนั่งเล่นด้วยกระจกครับบานเลื่อนครับ ในที่สุดกระจกก็มีซะใช้กระจกซะที เพราะโดยปกติแล้วโครงการภายใต้ Brand Ashton นั้นถ้าเป็น 1 ห้องนอนเล็กโครงการจะกั้นห้องนั่งเล่นและห้องนอน โดยใช้บานเลื่อนที่มีหน้าบานเป็น Laminate หรือวัสดุคล้ายกับ Laminate แต่ในที่สุดโครงการนี้กระจกก็มาแล้ว นอกจากนี้ความพิเศษของห้องนี้คงหนีไม่พ้นความอลังของห้องนั่งเล่น เพราะตัวห้องเหมือนยื่นออกไปในอากาศครับ มัน ส-ว-ย และยิ่งใหญ่มาก…ถ้าได้วิว Super Tower ด้วย บอกเลยว่าสุดๆ ห้องนั่งเล่นนี้ให้คะแนนเต็มเลย สำหรับห้องนอนนั้น เป็นห้องเปล่าๆครับ มาถึงจุดติกันแล้วนะคร๊าบ ผมว่าประตูออกระเบียงที่ห้องนั่งเล่นนั้นดูมินิไปหน่อยครับ โดยห้องนอนไม่มีหน้าต่างนะครับ แสงผ่านเข้าห้องมาได้จากประตูระเบียงที่เป็นกระจก ซึ่งความจริงผมก็เข้าใจนะครับว่าเพราะอะไร…ที่ประตูกระจกเล็กเพราะว่าติด Compressor แอร์นั้นเองครับ J ติเองแก้เองหุๆ ไม่ใช่หรอกครับ คือผมช่วยคิดเผื่อและหาคำตอบให้เลยครับ 55

Living room

Bedroom

Kitchen

ตอนแรกเป็นกังวลและหนักใจมากครับ เพราะตอนที่ได้ไปดู IdeoQ Victory มานั้น Top ชุดครัวเป็นหินอ่อน ส่วนของ Ashton Asoke-Rama 9 ได้รับการแจ้งมาว่าเป็นหินเทียม จะไม่ให้หนักใจได้อย่างไรครับ พอพูดถึงหินเทียมนั้น พาให้นึกนึงหินเทียมสีขาว หรือสีเทาที่เห็นใน Segment กลางๆล่างๆทั่วไปครับ แต่วันนี้มาพอเข้ามาที่โครงการ ขอโทษนะครับ นี่หินอ่อนหรือหินอะไรครับ ทางโครงการแจ้งว่าเป็นหินสังเคราะห์…ในใจนึก…ปั๊ด…มันสวยม๊ากกก ที่สำคัญมันทนมากด้วยครับ เพราะหินสังเคราะห์นั้นจะไม่ซึมสี หรือซึมน้ำง่ายครับ ความพรุนของเนื้อหินนั้นต่ำมากครับ โดยชุดครัวนั้นจะเป็น OEM ของทางอนันดาเองครับ โดยก๊อกกับอ่างจะเป็นของ Teka สำหรับ Highlight ของโครงการนี้จะเป็นเตาครับ เพราะเป็นของ Kuppersbusch คือ Brand นี้ โครงการใน Segment Super Luxury ใช้เกือบทุกโครงการครับ สำหรับฮูดดูดอากาศแบบซ่อนนั้นจะเป็นของ Teka ครับ ตัวนี้ไม่หวือหวามากครับ สำหรับผนังห้องชุดครัวนั้นมีการกรุกระจกตามรูปเลยครับ นอกจากนี้สิ่งที่ผมค่อนข้างชอบใน Part ของชุดครัวก็คือมีการ Built In ตู้เก็บของซึ่งภายในได้เดินท่อให้สามารถใส่เครื่องซักผ้าได้ครับ สุดท้ายท้ายสุดนั้นจะเป็นกระเบื้องชุดครัวซึ่งที่นี่จะใช้เป็น Porcelain นะครับบางคนอาจสงสัยว่า กระเบื้อง Porcelain คืออะไร กระเบื้อง Porcelain นั้นเป็นกระเบื้องที่มีการเติมสีสัน และเคลือบเงาให้ใกล้เคียงกับสีธรรมชาติครับความคงทนจะมากกว่าหินทั่วไปไม่ซึมสีและทนต่อการกัดกร่อนครับ ใน Part ของชุดครัวผมว่า แอชตัน อโศก-พระราม 9 น่าจะเป็นแอชตันที่ให้ของแพงสุดแล้วครับ แต่ยังหน้าเสียดายว่าทำไมไมโครเวฟ Built in ยังไม่มา…

Toilet

เป็นอีกหนึ่งห้องที่ผมไม่รู้ว่าจะสรุปออกมาทางไหนดีครับ เพราะผมดู Spec โครงการนี้แล้วย้อนกลับไปมองที่ Ashton Serie ก่อนหน้านี้ เพื่อดูการพัฒนาการของโครงการภายใต้ Brand Ashton ครับ ก็ยังมึนๆว่าจะเขียนว่าอย่างไรดี เอาเป็นว่าผมขอพูดข้อดีที่ผมชอบก่อนนะครับ

  • ชอบกระเบื้อง Porcelain ของห้องน้ำที่นี่ครับดูแพงและดูดีกว่าตัวเก่าๆมาก
  • ก๊อกอ่างล้างมือนั้นสวยที่สุดตั้งแต่พัฒนา Brand Ashton มา โดยจะเป็น Brand ของ Grohe
  • อ่างล้างมือเปรี้ยวมากชอบม๊ากดูกล้าที่จะแตกต่างดีครับโดยจะเป็น Brand ของ Kash
  • Top วางอ่างเป็นหินอ่อน
  • กระจกบานใหญ่ผนังชนผนัง

แต่…บางสิ่งที่ผมเสียดายคือ…

  • ก๊อกอ่างล้างมือตัวที่ให้เป็นก๊อกผสมแต่ไม่ได้เดินท่อน้ำร้อนไว้ให้จึงใช้น้ำร้อนไม่ได้(เสียดายม๊าก)
  • กระจกไม่ซ่อนไฟ LED เหมือน Ashton สีลม
  • Floor Drain ไม่สวย…(เต้เยอะเนอะ55)

ประมาณนี้ครับที่ชอบคือชอบมาก แต่ด้วยราคาแล้วบางอย่างผมว่าน่าจะไปได้อีกนิดครับ อย่างไรก็ตามในองค์รวมนั้น ผมยังถือว่าสวยและดูดีครับ

Balcony

เป็นประตูกระจกเพื่อให้แสงเข้ามาในห้องนอน สิ่งที่เสียใจเล็กน้อยคือราวกันตกไม่ใช่กระจกครับ นอกนั้นในภาพรวมนั้นไม่มีอะไรมากครับ ผมว่าจุดประสงค์หลักแล้วคือมีไว้เพื่อวาง Compressor แอร์ครับ (ไฟระเบียงก็เป็นแบบ LED Downlight เหมือนห้องนอนนะครับชอบครับ )

จบแล้วครับกับ 1 ห้องนอนขนาด 38 ตารางเมตร โดยส่วนตัวแล้วผมชอบมากครับ ห้องออกแบบมาแล้วใหญ่เหนือจินตนาการมากครับ ผมว่าห้องนี้ต่อไปจะเป็น Layout ที่ขายรีเซลดีเป็นแน่ครับสำหรับห้องอีก 2 แบบที่เหลือนั้นผมจะพูดแบบเร็วๆไปเลยนะครับ เพราะ Spec ของทั้ง 2 ห้องนี้จะเหมือนกับ 1 ห้องนอนเกือบทั้งหมดครับ โดยจะมี 2 ห้องนอนที่อาจจะมีอะไรที่ Special มากกว่า 1 ห้องนอนพอสมควร เดี๋ยวดูไปพร้อมๆกันเลยนะค๊าบ

1 ห้องนอนพลัสขนาด 46.5 ตารางเมตร

ห้องนี้เป็น 1 ห้องนอนหน้ากว้างครับถือเป็นอีกหนึ่งห้อง Top Hit ของโครงการครับ โดยภาพรวมนั้น Spec จะเหมือน 1 ห้องนอนทั่วไปสิ่งที่แตกต่างคือ Layout และห้อง Multi-Purpose Room ที่เพิ่มขึ้นมาอีกห้องครับ

Living room+Multi-purpose room

ห้องนี้จะไม่ใช่ห้องที่ยื่นออกไปจากตึกมากเหมือนห้องขนาด 38 ตารางเมตร แต่จะออกเป็นห้องหน้ากว้างแทนครับ  เพราะตัวกระจกที่ยื่นออกไปจะ Connect ต่อกับห้อง Muti-Purpose Room ซึ่งในตอนแรกนั้นที่เห็นห้อง Muti-Purpose Room ใน Floor Plan ผมเข้าใจว่าห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้ครับ แต่พอไปเห็นของจริงแล้วผมว่าน่าจะวางได้แต่โต๊ะทำงานครับ โดยการกั้นห้องนั้นจะเป็นกระจกบานสไลด์ตามรูปเลยครับ แต่วัสดุเฟรมจะไม่ใช่โครมแต่จะเป็นอลูมิเนียม เหมือนกระจกหน้าต่างครับ สำหรับส่วนที่เหลือคือแต่งให้ชมเป็น Idea ครับ

Living room

Multi-purpose room

Bedroom

สิ่งที่แตกต่างกับ 1 ห้องนอนขนาด 38 ตารางเมตร คือการกั้นห้องครับ โดยห้องขนาด 46.5 ตารางเมตรจะกั้นห้องด้วยประตูเหมือนห้องโครงการอื่นทั่วไปจะไม่ใช่กระจกบานสไลด์ครับ

Kitchen

ถอดแบบ 1 ห้องนอน 38 ตารางเมตร มาเลยทุกประการครับ

Toilet

เหมือน 1 ห้องนอนขนาด 38 ตารางเมตร ทุกประการครับ

Balcony

จะอยู่ห้องนอนครับ

2 ห้องนอน 68.5 ตารางเมตร

เป็น 2 ห้องนอน Signature ของโครงการเลยครับ โดยจะเป็นห้องหน้ากว้างโดยลักษณะของห้องนั่งเล่นจะเป็นจั่วยืนออกไปจากตึกครับ สำหรับใน Part ของ 2 ห้องนอน นั้นมีอะไรหลายอย่างที่มีการอัพเกรดขึ้นมาจาก 1 ห้องนอนครับหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Part ของห้องครัวและห้องน้ำครับ โดยในโครงการนี้จะมี 2  ห้องน้ำนะครับ เรามาดูกันครับว่าเป็นอย่างไรกับ 2 ห้องนอนของ แอชตัน อโศก-พระราม 9

Living room

ห้องนั่งเล่นของโครงการนี้ก็คือกระจกห้องที่สามารถรับวิวได้ 2 มุม ครับ อ้อเขียนจนมาถึงห้องสุดท้ายละ ลืมบอกครับว่ากระจกที่นี่จะสูง 2.4 เมตร โดยจะเป็น Laminate หนา 3 มิลลิเมตร+3 มิลลิเมตร ครับ อย่างไรก็ตามจำนวนชั้นที่สูงขึ้นจะทำให้กระจกยิ่งหนาขึ้นด้วยนะครับ เนื่องจากต้องคำนวนค่าลมที่มาปะทะกับอาคารครับ ใครเคยขึ้นตึกสูงๆจะพอทราบว่าลมจะแรงมากครับ สำหรับส่วนอื่นๆนั้นแต่งเป็น Idea เช่นเดิมค๊าบ

Master bedroom

เป็น Master Bedroom ที่ได้กระจกอลังการมากครับ บางคนสงสัยว่าเพราะอะไร…เพราะห้อง Type นี้ไม่มีระเบียงให้วาง Compressor ครับ กระจกเลยมาแบบจัดเต็ม โดย Compressor จะโดนย้ายไปที่ระเบียงของห้องนอนเล็กครับ สำหรับห้องนี้ก็ไม่มีอะไรมากครับ นอกจากกระจกบานใหญ่ครับ เพราะส่วนที่เหลือก็คือแต่งเป็น Idea คร๊าบ

Master Toilet

สวยครับ ห้องน้ำมีกระจกเข้ามุม มีอ่างอาบน้ำให้ด้วย แต่แอบเสียดายที่ไม่มี Jacuzzi ให้เหมือนแอชตันสีลมหุๆ สำหรับอีกส่วนที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นมาก็คือ Shower ครับ เพราะขนาดจะอลังการกว่า Shower ตัวนี้สวยมากครับ  โดยเป็น GROHE รุ่น Power&Soul®  ที่สามารถปรับระดับความหนักเบาของน้ำตามอารมฌ์ แอบเสียดายที่ Reserve ไว้ให้กับ 2 ห้องนอนเท่านั้นครับ J ในภาพรวมถือว่าสวยมากครับ

Bedroom 2+Balcony

ห้องนี้กั้นห้องด้วยประตูธรรมดาครับ พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ทุกสิ่งอย่างนั้นเหมือนกับ 1 ห้องนอนขนาด 46.5 ตารางเมตรครับ ไม่ว่าจะเป็นประตูออกระเบียงภายในห้อง หรือแม้แต่ห้องเปล่าที่ไม่ได้เฟอร์นิเจอร์…ฮั่นแน่มีงง…ความจริงทุกห้องนั้นก็ได้ห้องเปล่าครับ เขียนให้อ่านงงๆเล่นๆครับ

Bedroom 2

Balcony

ปูกระเบื้องพื้น ผนังทาสีและที่วาง Compressor แอร์ สรุปแล้วเหมือนทุกห้องที่ได้รีวิวมาก่อนหน้านี้เลยครับหุๆ

Toilet 2

Spec ทุกสิ่งอย่างนั้นถอดมาจาก 1 ห้องนอน ทั้ง 2 แบบก่อนหน้านี้เลยครับ

Kitchen

ในองค์รวมนั้นชุดครัวของห้องนี้จะเหมือนทุกห้องที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ แต่สิ่งที่แตกต่างนอกจากชุดครัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้นแล้วนั้น สิ่งที่ผมชอบและผมว่า Spec สำหรับห้อง Type นี้ให้แบบสุดๆคือเตาไฟฟ้าของ kuppersbusch ซึ่งตัวนี้จะเป็นตัว Top ของเตาไฟฟ้าของ Brand นี้แล้วนะครับ ถ้าสังเกตจะเห็นว่าไม่มีสวิตท์เปิดปิดเตาครับ แต่การใช้เตานั้นจะต้องใช้อุปกรณ์อีก 1 ตัววางบนเตา เพื่อให้เตาทำงานครับ โดยอุปกรณ์ตัวนี้จะใช้ควบคุมการทำงานของเตาว่าเราจะเปิดเตาตัวไหน ขนาดของหน้าเตาเท่าไหร่ ทั่วฟ้าเมืองไทยที่ผมเห็นมีโครงการเดียวที่ใช้เตา Spec นี้แต่อาจจะเป็นรุ่นเก่ากว่านี้ นั้นคือ 185 ราชดำริครับ ชอบครับแพงดี…

จบแล้วคร๊าบผมจะสรุปจากใจเต้เลยนะครับสำหรับ Spec ในภาพรวมของทุกห้อง มีติมีชมบ้างเป็นเรื่องธรรมดาครับ เพราะผมไม่ได้เขียน PR จะได้มีแต่ชมหุๆ ก่อนอื่นผมขอชี้แจงก่อนเลยว่าในการติหรือชมนั้นใน Part นี้จะอยู่บนพื้นฐานของราคาขายและ Spec ห้องที่ได้แต่…เนื่องจากโครงการนี้ Gap ของราคาจะกว้างมากตั้งแต่ 1.9 แสนต่อตารางเมตร-3.x แสนบาทต่อตารางเมตร แม้ราคาที่ 2 แสนปลายๆ-3 แสนบาทต่อตารางเมตร จะยังไม่ได้เปิดขาย Floor เหล่านั้นอย่างเป็นทางการ แต่ผมในฐานะคนเขียนจะต้องนำราคาเหล่านั้นมาคิดด้วยเผื่อสักวันหนึ่งใครที่ซื้อราคานั้นจะได้รู้ว่าผมรู้สึกอย่างไรกับช่วงราคาเหล่านั้นโดยเเทียบกับ Spec ที่ได้…สำหรับบทความนี้ผมเปิด Special Section ให้ Ashton Asoke-Rama 9 เลยนะครับกับช่วงราคาที่ผมคิดว่าเหมาะสม โดยอยู่บนพื้นฐานของความตั้งใจในการซื้อ

ช่วงราคา 1.9x-2.29 แสนบาทต่อตารางเมตร

สำหรับช่วงราคานี้ ผมว่าคุณได้ของที่คุ้มค่า หรือภาษาชาวบ้านผมขอเรียกว่าคุณได้ของถูกครับ ไม่ว่าจะชั้นไหน ทิศไหนก็ตาม บางคนสงสัยว่าเต้เอาหลักการอะไรมาคิด ผมเทียบกับ The Line อโศก-รัชดา ทิศตะวันออกชั้นสูง ก็ปิดจบไปที่ 2 แสนต้นๆ นอกจากนี้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม Spec ของ แอชตันนั้นสูงกว่า The Line อยู่แล้วครับ และ Location ก็ดีกว่า ดังนั้นใครที่ได้ราคานี้ไปผมว่าคุ้มค่ามาก…บางคนอาจจะแย้งว่า The Line ทิศตะวันออกไม่ Block วิวแต่ Aston เจอ Life นะ….ขอตอบว่าใช่เคยไม่ Block แต่เต้เคยเตือนแล้วว่าแอชตันกำลังจะมา แล้วตอนนี้ Block หรือยัง? แล้วคิดว่าที่ดินแปลงระหว่าง Ashton กับ The Line นั้นจะรอดอีกนานไหม? ใน Case ของแอชตันนั้น  โชคดีที่ทำกระจกมุม อาจจะมีบางมุมที่รอดหรือเฉียดบ้าง แต่ถ้าเป็น The Line นั้นรับเต็มๆครับ นั่นคือเหตุผลว่าทำไม ราคานี้ผมชอบมาก เอาจริงๆราคาที่ 2.0 แสน ขึ้นก็ไม่ Block แล้วนะครับหุๆแต่ต้องดูดีๆ

ช่วงราคา 2.3-2.5x แสนบาทต่อตารางเมตร

ณ ช่วงราคานี้สำหรับโครงการที่เปิดตัว ณ วันนี้กับที่ดินแปลงนี้ ผมมองว่าราคาสมเหตุสมผลครับ เนื่องจากโครงการจะเสร็จอีก 3 ปี ส่วนตัวแล้วที่บริเวณนี้จะพัฒนาไปอีกไกลมาก + Spec ของห้องโครงการนี้น่าจะดีที่สุดในโครงการบริเวณนี้แล้วครับดังนั้น ณ ราคา +Spec ห้อง+ Location และเปรียบเทียบกับคอนโด Luxury ตัวอื่นๆผมว่า Competitive ครับ

ช่วงราคา 2.6-3.0 แสนบาทต่อตารางเมตร

สำหรับช่วงราคานี้สำหรับผมแล้วนั้นเริ่มไม่ถูกแล้วครับ แต่สิ่งที่จะได้จากราคานี้ก็คือคุณจะได้ชั้นที่สูงมาก และวิวจะเป็นระดับ Supreme แล้วครับ ถ้าซื้อในช่วงราคานี้ คงต้องใช้ความรู้สึกส่วนตัวตัดสินแล้วครับ แต่ถ้าใครซื้อเพื่ออยู่เองอยากได้วิวสุดอลังจัดไปได้เลยครับ แต่ถ้าซื้อเพื่อลงทุนระยะสั้นไม่แนะนำครับ

ช่วงราคา 3.x++แสนบาทต่อตารางเมตร

ได้ยินมาว่าจะมีช่วงราคานี้เหมือนกันครับ น่าจะเป็นชั้น 4x กว่าๆครับ แลกกับวิวจัดไปครับ แต่ราคาตรงนี้ต้องขอออกตัวก่อนครับว่าค่อนข้างอนาคต เลยช่วงเวลาที่ตึกสร้างเสร็จแล้วครับ และอาจจะต้องให้เวลากับ Location กับการพัฒนาตรงนี้อีกสักระยะไกลๆหน่อยเลยครับ แต่ถ้าใครชอบเพราะวิวจัดไปครับ เพราะผมเชื่อว่า Location ตรงนี้ต่อไปก็จะเจริญมากกว่านี้มาก ดังนั้น ณ ราคา 3 แสน++บาทต่อตารางเมตรนั้น โครงการนี้ไม่ใช่โครงการสุดท้ายแน่นอนครับ ปีหน้าแสนสิริมา…อาจจะได้เห็น The Line หรือ Brand อื่น ที่ราคา 3 แสนบาทต่อตารางเมตรก็เป็นได้ แต่…ที่แน่ๆที่ดินไม่แปลงสวยแบบนี้แน่ๆครับ อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า 3 แสนบาทต่อตารางเมตร ณ ที่ตรงนี้เวลานี้ไม่ถูกครับ…

4 ช่วงราคาในมุมมองของผมครับ ณ ช่วงราคา 3 กับ 4 นั้น อาจจะเรื่องของ Feeling กับ Emotion มาผสมด้วย เพราะ Location ตรงนี้กับราคาช่วง 2.8++ นั้นผมว่าถือว่าแรงไม่เบา ถึง Location ตรงนี้จะดีที่สุดในถนนพระราม 9 ก็ตาม คงอาจจะต้องรอให้ทุก Project แล้วเสร็จ หลังจากนั้นเรามาประเมินสถานการณ์กันอีกทีว่าบริเวณนี้ราคาเหมาะสมควรจะเป็นเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามถ้าคุณชอบจริงๆ ราคาไหนก็ซื้อไปเถอะครับ เพราะสุดท้ายที่บริเวณนี้จะเจริญมาก…จำคำเต้ไว้อีก 3 ปีมาเจอกันอีกทีครับหุๆ

Copy link
Powered by Social Snap