Final Chapter
Analysis Investment Potential
ผมให้ทุกอย่างเลยครับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ผมลงทุนได้ในทุกรูปแบบ แต่จะมีมิติมุมมองน้ำหนักที่แตกต่างกันและใน Section นี้จะมีมุมมองพิเศษที่ผมไม่เขียนเคยเขียนในบทความไหนมาก่อน สำหรับคนที่เคยอ่านบทความต่างๆของผมก่อนหน้านี้ก็จะเห็นว่ามุมมองต่อการลงทุนปกติแล้วจะมี
- พักอาศัยเองพูดง่ายๆคือซื้ออยู่เอง
- ลงทุนระยะสั้น เช่น Speculate หรือพูดง่ายๆขายใบจอง
- ลงทุนระยะยาว คือถือเก็บยาวไปเลย อาจจะขายก่อนตึกเสร็จ หรือหลังโอน
- ซื้อเพื่อจุดประสงค์ในการเช่าเป็นหลัก
แต่สำหรับจุดประสงค์สุดท้ายที่ผมรังสรรค์จากความรู้สึกของผมเพื่อโครงการนี้ก็คือ…ซื้อเพื่อความภาคภูมิใจที่ได้ครอบครอง…ตัดเรื่องเช่า เรื่องขาย หรือซื้อเพื่ออยู่เองออกไป การซื้อในเงื่อนไขนี้เป็นการซื้อภายใต้ Unlimited Feeling คือซื้อเพราะอยากได้แค่นั้น หรือความภูมิใจขั้นสูงสุดที่ได้ครอบครอง วันหนึ่งนับจากวันนี้อีก 5 ปี เราจะได้เป็นส่วนหนึ่งของ Landmark (ของจริง) แห่งใหม่ในกรุงเทพ อารมณ์เหมือนความภูมิใจสูงสุดที่เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ครอบครองคอนโดที่ดีที่สุดกับ Location ที่จะปังที่สุดในกรุงเทพ อารมณ์ประมาณว่าซื้อทิ้งๆไว้ แต่ไปคุยกับใครก็ได้ว่าฉันมีนะ ก็รวยอะ…ทำไมเหรอ? อะไรประมาณนี้ครับจะให้แจ่มและคุยได้อย่างภูมิใจต้องชั้นสูงๆวิว Super Tower ด้วยครับ ราคาจะสองแสนปลายถึงสามแสนต่อตารางเมตรจัดไป…การซื้อด้วยเหตุผลนี้เราไม่คุยเรื่องราคา เราดูแค่ความพอใจเป็นหลักหุๆ ประมาณว่ามีแล้วโม้ได้ครับหุๆ
แล้วการซื้ออีก 4 รูปแบบละ?
- ซื้อเพื่ออยู่เอง-ถ้าไม่ติดเรื่องเงิน และชอบ Location แถวนี้ อาจเพราะทำงาน หรือคุ้นเคย ไม่มีเหตุผลใดๆที่จะไม่ซื้อโครงการนี้ ดีที่สุด หรูที่สุด ในเวลานี้แล้วครับ
- ซื้อเพื่อลงทุนระยะสั้น- ไม่ค่อยแนะนำนะแต่อาจจะได้กับราคาที่ต่ำกว่าตารางเมตรละ 200,000 แสน ถ้าสูงกว่านี้อาจจะต้องรอ Super Tower พ้นตึก G ขึ้นมาก่อนครับ
- ซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว- ยังไงก็ไปคร๊าบ มั่นใจ โฮ้ Spec ขนาดนี้ Location ตรงนี้ ปีหน้าแสนสิริก็มาช่วยดันราคาโครงการแถวนี้แล้วนะค๊าบถ้าได้ต่ำกว่า 2.6 แสนบาท/ตารางเมตรจะดีมาก
- ซื้อเพื่อปล่อยเช่า-ผมว่าได้ชัวร์ครับ แต่ค่าเช่านั้นเอาจริงๆ ผมยังไม่กล้าประเมิน อยากให้ตึกเสร็จก่อนแล้วดูว่าจะสร้างความประทับใจให้คนภายนอกได้มากแค่ไหน แต่ถ้าราคาค่าเช่าเท่ากับโครงการอื่น ผมว่ายังไงก็เช่าได้ครับ ดังนั้นด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่เขียนมายาวเหยียดก่อนหน้านี้มีหรือจะเช่าไม่ได้เหรอครับ จริงมะ?
สรุปแล้วผมว่าโครงการนี้ถ้ามองในองค์รวมแล้วลงทุนได้ทุกรูปแบบครับโดยสัดส่วนนั้นผมให้เท่าๆกันหมดครับ ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการแห่งปีที่ผม Proudly Present มากครับ อาจไม่ได้สมบูรณ์ที่สุด แต่ผมว่าดีมากพอที่จะซื้อเก็บไว้ให้ลูกหลานครับ
At the end
ความจริงแล้วผมอยากให้อ่านบทความนี้ที่ผมเขียนไว้ก่อนจังครับ “5 Most Wanted “The First and the last epic building Ashton Asoke-Rama 9” คือทั้งหมดทั้งมวลว่าทำไมถึงต้องซื้อโครงการนี้อยู่ในบทความนี้แล้วครับ ถ้าใครยังไม่อ่านผมสรุปสั้นๆให้อีกทีครับ
Supreme Location
ณ มหานครต่างๆของทุกมุมโลก บริเวณที่เป็นสี่แยกย่านธุรกิจและเป็นจุดตัดของถนนเส้นหลักหลายๆสายเข้าด้วยกัน สิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในบริเวณนี้หนีไม่พ้น
- อาคารสำนักงาน
- โรงแรม
- ห้างสรรพสินค้า
- ธนาคาร
- สถานที่ราชการ
นักพัฒนานั้นจะนิยมนำไปทำออฟฟิศอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า หรือโรงแรมเสียมากกว่า เพราะสามารถสร้างประโยชน์ต่อเจ้าของที่ดินได้ในระยะยาว กลับมาดูที่บ้านเราครับ มีที่ดินแปลงไหนบริเวณ 4 แยกใหญ่ๆในย่านธุรกิจได้มีการพัฒนาเป็นที่พักอาศัยบ้าง (ผมหมายถึงแปลงที่ดินต้องเป็นหัวมุมถนนเหมือน Ashton เลยนะครับ)
- แยกอโศก = No
- แยกสาทร= No
- แยกสาทรตัดนราธิวาส= No
- แยกสีลม= No
ผมเชื่อว่าบางคนต้องคิดอยู่ในใจว่า เราจะเอาอะไรไปเทียบกับมหานครเหล่านั้น…ผมถามกลับแบบน่ารักว่า ตึก G เป็น Landmark ได้ไหมเอย? Unilever Headquarter ก็อยู่ที่นี่ และท้ายสุด Super Tower ซึ่งจะเป็น Landmark ระดับโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นอีก มาขนาดนี้มีอะไรสู้ม่ายได้ครับ…
Supreme Branding
ทางอนันดานั้นทำการบ้านอย่างหนักว่าจะเอา Brand ไหนมาลง ถึงขนาดที่จะเปลี่ยน Brand กันเลย เพราะที่ดินแปลงนี้ Precious มากอย่างไรก็ตามท้ายที่สุดก็จบลงที่ Ashton เพราะ ทางอนันดาเชื่อว่า Brand Ashton นั้นเป็นเครื่องการันตีว่าตึกนี้จะไม่ใช่แค่ที่พักอาศัยเท่านั้น แต่จะเป็น Combination ของทุกสิ่งทุกอย่างที่รวมไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Exterior หรือ Interior ภายในโครงการ นอกจากนี้ Service หรือบริการที่คุณจะได้รับ
Supreme Design and Innovation
ด้วยเส้นสายของตึกที่แปลกใหม่และไม่เคยมีตึกไหนในกรุงเทพที่ออกแบบงาน Exterior ของตึกแบบนี้มาก่อนจึงทำให้ Ashton Asoke-Rama9 นั้นเป็นอีกตึกที่มีความ Unique ในเส้นสายที่สุดตึกนึงในกรุงเทพเลยครับ ถือเป็นตึกที่ทำยากที่สุดตึกนึงในเมืองไทยเลยครับ
ในแง่ของ Innovation นั้น แอชตัน อโศก-พระราม 9 นั้น จึงคิดใหม่ว่าถ้าเราทำทุกห้องเป็น Coner Unit จะเป็นอย่างไร ซึ่งผลที่ได้นั้นก็ออกมาอย่างที่เห็นละครับโครงการ แอชตัน อโศก-พระราม 9 นั้นเป็น ห้องมุมทุกห้องครับโดยขนาดของ Corner นั้นจะมี Bay Window เป็นกระจกกว้างประมาณ 1.8 เมตร โดยมีการออกแบบตึกให้มีหยักลดหลั่นกันลงมา เพื่อให้แต่ละห้องนั้นเป็นอิสระและวิวไม่ Block กันเอง นอกจากนี้โครงการจัดไป Void ขนาดใหญ่กลางตึกเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น โดยมีการออกแบบตึกให้สามารถรับอากาศจากภายนอกเข้าสู่ภายในอาคาร เพื่อระบายความร้อนภายในตึกอีกด้วยครับ โดยในบางชั้นจะมีจำนวนห้องที่ลดลง เพื่อนำห้องดังกล่าวไปทำจุดรับลมเพื่อให้อากาศเข้ามาภายในตึก
Supreme Facilites
นอกจากความหลากหลายของส่วนกลางที่อยู่แยกกันของแต่ละตึกแล้ว Signature ของ แอชตัน อโศก-พระราม 9 อยู่ที่สวนประมาณ 1 ไร่ภายในโครงการ นอกจากนี้จะมีสระว่ายน้ำที่ยื่นออกมาจากตึกซึ่งส่วนที่ยืนมานั้นจะยาวถึง 6-7 เมตร นอกจากนี้จุดเด่นของอีกหนึ่งอย่างที่จะไม่พบบ่อยสำหรับคอนโดในบ้านเราคือ Open Void Atrium พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นคือมีปล่องอยู่กลาง Tower ของแต่ละตึก เพื่อช่วยให้มีการระบายอากาศและให้แสงธรรมชาติผ่านเข้าในโครงการได้ครับ
นอกจากนี้ที่ใต้ตึกของ Alpha จะมี Brand ร้านอาหารระดับโลกมาลงที่ใต้อาคารซึ่งตอนนี้มีการคัดเลือก Brand ที่จะมาลงกันอยู่(รู้สึกว่า Dean จะไม่มาละ) โดยมีพื้นที่มากกว่า 8xx ตารางเมตร โดยภายในจะมีร้านอาหาร และมี Shop อยู่ด้วยกันครับ ผมว่าอารมณ์เหมือนโรงแรมหรูๆที่มีร้านอาหารดังๆภายในโรงแรมอะครับ
นี้สรุปมาเป็น Point แบบนี้ยังไม่เขย่าใจอีกเหรอครับ สำหรับผมแล้ว Ashton Asoke- Rama 9 นั้น ถือว่าเป็นโครงการที่น่าจะดีที่สุดโครงการนึงของปีนี้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นด้าน Location, Facilities ที่ผมว่ามาครบและมาเต็มครับ ดังนั้นใครที่ยังไม่ได้ซื้อ สามารถโทรหาเต้ได้ตลอดเวลาเลยนะครับ แต่มีทุกมุม ทุกตำแหน่งให้เลือกสรร ล้อเล่น…มีแค่ 2 ตำแหน่งต่างหากครับ เอาจริงๆถ้าใครสนใจติดต่อโครงการเลยครับตอนนี้ Sales Gallery เปิดให้เข้าชมแล้วนะค๊าบ มีอะไรสงสัยไม่แน่ใจ PM มาสอบถามกันได้นะครับ
สิ่งที่ประทับใจ
- Location หาไม่ได้แล้วในเส้นพระราม 9
- Facilities หลากหลายโดดเด่นและดูแพง
- Exterior Unique โดดเด่นระดับ Top Top ของเมืองไทย
- Interior หรูหราสมราคา
- แยก Facilities ในแต่ละตึก
- นำ Brand ระดับโลกมาไว้ที่โครงการ
- ณ ช่วงราคาไม่ถึง 2.5 แสน ผมว่าราคาน่าโดนมาก
สิ่งที่ไม่ประทับใจ
- Specification ภายในห้องน่าจะไปได้ไกลกว่านี้ โดยเฉพาะในห้องน้ำ
- กระจก 2.4 เมตร ผมว่าเล็กไปนิดนึง
- ณ ราคา 2 แสนปลายๆ++ ผมว่าราคาแอบแรงไปถ้าเทียบกับ Location ตอนนี้
จบซะทีกับ Campaign ที่ใช้เวลาในการทำยาวนานมาก น่าจะเกือบ 3 เดือนเลยมั้งครับ ตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูล ดีใจกับคนที่ซื้อไปแล้วนะค๊าบ…คุณไม่เดียวดายแน่ครับ เพราะเต้ก็ถือไปพร้อมกับทุกคนค๊าบ
คลิกดูรายละเอียดโครงการที่นี่ https://goo.gl/VKjKPB