รีวิว เซ็นทริค รัชโยธิน l Centric Ratchayothin

10/03/2018

Room

Room

เป็นโครงการที่ให้เวลารีวิวสั้นมากครับ เพราะแค่เวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์ หลังจากห้องตัวอย่างเปิดให้ชม ก็จะเปิดขายพรีเซลกันแล้ว ดังนั้นบทความใน Part นี้ ผมเร่งหน้าตั้งเลยครับ  ถ้าผมพิมพ์อะไรขาดตกบกพร่องไปต้องขอโทษล่วงหน้าด้วยนะครับ เพราะผมอยากให้บทความนี้เสร็จก่อนผ่านช่วง Pre-sale ไปครับ เรื่องจากขอถามกันเยอะมาก

สำหรับห้องตัวอย่างที่ Sales Gallery ของโครงการนี้จะมีอยู่ 2 ขนาดครับโดยจะเป็น 1 ห้องนอนพลัส ขนาด 34.5 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอนขนาด 55 ตารางเมตร สำหรับสเปกพื้นฐานภายในห้องชุดนั้น  เอาจริงๆ นะครับ ผมต้องยอมรับว่า Spec ของโครงการก่อนหน้านี้ยังไม่นิ่งเลยครับ แต่…ที่ไม่นิ่งในที่นี้ก็คือ โครงการยังคงมีการ Upgrade อะไรอีกหลายๆอย่างเข้าไปในโครงการด้วยนะครับ เดี๋ยวถ้ามีอัพเดทอะไร…ทางผมจะเพิ่มเติมให้อีกทีนะครับ แต่สำหรับวันนี้ผมจะพูดถึง Spec ที่มาแบบแน่ๆกันก่อนนะครับ

เซ็นทริค รัชโยธิน จะมาแบบ Fully Furnished ครับ งานเฟอร์นิเจอร์โครงการมีให้ครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นแบบ Built in หรือลอยตัว ซึ่งจะมาพร้อมกับ Spec ห้อง ที่สูงถึง 3 เมตร สำหรับความสูงระดับนี้ถือว่าเป็นมาตราฐานของคอนโด Segment Super Luxury แล้วนะครับ สำหรับพื้นห้องนั้นจะมากับ Laminate หนา 12 มิลลิเมตร(หนามาก) Featuring ด้วยกระจกห้องแบบ Laminate หนา 8 มิลลิเมตร กันเสียง กันความร้อนได้ดี  และท้ายสุดที่ขาดไม่ได้ก็คือ Digital Door lock ก็มีมาให้นะครับ

จริงๆแล้วที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นถือว่าเป็นเรื่องเบๆ ครับ เพราะของจริงคือหลังจากนี้หุๆ เซ็นทริค รัชโยธิน เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับ Technology  โดยสำหรับวันนี้ที่ Confirm แล้วมีดังนี้ครับ

Voice command

SC Asset ผนึกกำลัง ร่วมมือกับ Ais ในการพัฒนาระบบ Voice Command ภายในห้อง โดยเชื่อมต่อกับ Echo Dot หรือที่เราคุ้นหูกันบ่อยๆ ก็คือ Alexa โดยเสียงของเรา จะสามารถใช้เปิด/ปิดไฟหรือระบบแอร์ภายในห้องได้ครับ เก๋มะ แต่โครงการเตรียมระบบไว้นะครับ อุปกรณ์ต้องซื้อเองนะคร๊าบ แต่ราคาไม่แพงครับ ถ้าตัวเล็กๆอยู่แค่ 1,xxx กว่าบาทเองครับ แต่ถ้าตัวใหญ่ก็จะประมาณ 3-4 พันบาท เองครับ

Home automation

ในส่วนนี้ทางโครงการจะให้ Tablet มาภายในห้องด้วยครับ สำหรับการทำงานก็จะคล้ายๆ กับ Voice Command แต่จะเป็นการสั่งการผ่าน Tablet ซึ่งจะมีลูกเล่นมากกว่าการใช้ Voice Command เช่น เราสามารถ Set Scene ของหลอดไฟได้ ถ้าเราเลือก Romantic dining Scene ไฟในห้องก็จะเปิดเฉพาะดวงที่เรา Set ไว้สำหรับ Scene นี้เท่านั้น ความจริงแล้วอุปกรณ์ตัวนี้ในอดีตจะอยู่ในโครงการบ้านเท่านั้น แต่ในวันนี้มาอยู่ในคอนโดแล้วครับ

Motion Sensor

จะดีแค่ไหนถ้าเวลาเราเดินไปที่ห้องน้ำในเวลากลางคืนแล้วไฟห้องน้ำจะติดเอง โครงการแรกและโครงการเดียวที่ผมเคยเห็นมากับ Motion Sensor โดยตำแหน่งจะติดอยู่ข้างเตียงบริเวณปลั๊กไฟ(ดูรูปประกอบได้ครับ) หลักการทำงานก็คือถ้าเราลุกขึ้นระบบนี้ก็จะทำงานและไฟที่เซ็ตไว้ก็จะติดเอง เลิศมากไม่เหมือนใครในตลาดเลย

USB Charger

Spec นี้ผมเคยเห็นเแต่ในคอนโด Super Luxury แต่ในวันนี้มาอยู่ที่ เซ็นทริค รัชโยธิน ละครับ ซึ่ง USB ตัวนี้สามารถ Charge ได้สารพัดครับ ไม่ว่าจะเป็น มือถือ Tablet หรือแม้แต่ Power bank ก็ Charge ได้ครับ

สำหรับ Tech มีประมาณนี้ครับ แต่แอบได้ยินมาว่าตอนตึกเสร็จน่าจะมีมามากกว่านี้ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมเดี๋ยวผมมาอัพเดทให้อีกทีนะค๊าบ เรามาดูห้องนอนกันต่อดีกว่าว่าจะเร้าใจผมมากแค่ไหน โดยผมขอเริ่มจาก 1 Bed plus ก่อนนะครับ

1 bed plus ขนาด 35 ตารางเมตร

Living room

ความสูงของห้อง 3 เมตร ภายในห้องทำผมละลายจริงๆ ครับ ห้องที่ผมอยู่ปัจจุบันยังสูงแค่ 2.9 เมตรเองนะ (แอบอารมณ์เสียนะเนี่ย) ในภาพรวมนั้น สวยและลงตัว ชอบทุกอย่างเลยครับ ขนาดของห้องก็กำลังดี ขนาดโซฟาไม่เล็กเกินไป ชุดงานเฟอร์นิเจอร์ในภาพรวมสวยมากครับ ไม่มีอะไรติเลยครับ

Bedroom

ความสูงของห้องก็ 3 เมตรอีกเช่นกัน ฆ่าผมเลยดีกว่า ในส่วนนี้มีสิ่งที่ผมชอบหลายอย่างเลยครับ เช่น ตู้เสื้อผ้ามาแบบ 3 หน้าบาน ซึ่งหน้าบานเป็นกระจกเงาอีกด้วยครับ นอกจากนี้มีพื้นที่เหลือเล็กน้อยระหว่างเสากับห้องน้ำ ทางโครงการได้ Built ชั้นวางของและมีลิ้นชักมาให้อีกด้วย สำหรับส่วนที่ผมชอบมาในห้องนี้ก็คือ ประตูบาน Slide กระจกออกระเบียงจากห้องนอน ดังนั้นเพื่อความเคลียร์วิวต่อสายตา โครงการนี้จึงย้าย คอมเพรสเซอร์แอร์ไปอยู่ด้านบนหมดเลยครับ ข้อดีก็คือเราจะได้กระจกบานสไลด์ออกระเบียงแบบ Wall to Wall นอกจากนี้เราจะสามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ เนื่องจากไม่มีคอมเพรสเซอร์แอร์วางให้เสียพื้นที่อีกต่อไป อย่างไรก็ตามการวางคอมเพรสเซอร์แอร์แบบนี้ก็มีข้อเสียนะครับ เพราะความสูงของกระจกนั้นจะน้อยลงเนื่องจากติดคอมเพรสเซอร์แอร์ พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ จะทําประตูบานสไลด์สูงกว่าตำแหน่งที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ได้ครับ เพราะถ้าทำประตูกระจกสูงกว่าแล้ววิวที่ได้จากห้องนอน นอกจากจะเป็นวิวภายนอกอาคาร ของแถมที่ได้มาเพิ่มก็คือวิวคอมเพรสเซอร์แอร์ที่แขวนอยู่ด้วยครับ ในองค์รวมสวยแบบแทบจะไม่มีตำหนิเลย แต่ขอตินิดนึงนะ สิ่งนั้นคือชุดตู้เสื้อผ้าไม่ชนฝ้า แต่เอาจริงๆ ประเด็นนี้มองได้สองประเด็นคือ บริเวณดังกล่าวเราสามารถเก็บกระเป๋าเดินทางได้ ประเด็นที่ 2 ปิดเต็มเพื่อความสวยงาม…นั่นสิผมควรจะมองเป็น Advantage หรือ Disadvantage ดีนะ

ห้อง Plus

สวยมากประทับใจที่สุดคุณค่าที่คุณคู่ควร จะไม่ให้คู่ควรได้อย่างไร เอากระจกไซต์นี้มาใส่เลย นอกจากนี้ยังเป็นกระจกมุมด้วย ในส่วนของกระจกมุมนั้นขนาดก็ใหญ่มากเช่นกัน การแบ่งกระจกนั้นทำได้ดีจริงๆ คือแผ่นที่ใหญ่ก็ใหญ่มากมาย ผมถามฝ่ายก่อสร้างว่า ถ้าลูกค้าจะเปลี่ยนกระจก เนื่องจากกระจกเป็นรอยจะทำอย่างไร ทางโครงการแจ้งว่าอาจจะต้องใช้เครนยกกันเลยทีเดียว เพราะขนาดของกระจกไม่สามารถเอาขึ้นมาบนลิฟท์ได้(ใหม่ไหมล้า) นอกจากนี้ภายในห้องยังมีประตูที่สามารถออกไปที่ระเบียงได้ แต่ความพิเศษกว่านั้นคือหน้าบานเป็นกระจกใส ซึ่งมาพร้อมกับเฟรมอลูมิเนียมด้วยนะ(นี้ผมเขียนรีวิว โครงการ Segment ไหนหรือนี่) เขียนไปเขียนมาผมเริ่มสับสนแล้วว่าผมรีวิวโครงการ Segment luxury – Super Luxury หรือเปล่าครับ55 นอกจากนี้ภายในห้องยังสามารถตั้งเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้ด้วยนะ ดังนั้นเราสามารถเปลี่ยนห้องนี้เป็นอีกหนึ่งห้องนอนได้ครับ และสิ่งสุดท้ายที่ผมประทับใจมากก็คือ โครงการเซ็นทริค รัชโยธินให้แอร์อีก 1 ตัว กับห้องนอนพลัสด้วยนะครับ หลายๆโครงการที่ผมเคยเข้าไปรีวิว ห้องนอน Plus จะไม่มีแอร์ให้นะ พูดให้เห็นภาพมากขึ้นดีกว่า ขนาด Ashton ซึ่งเป็น Brand ตัว  Top ของอนันดายังไม่มีมาให้เลยครับหุๆ อย่างไรก็ตามภายในห้องนี้จะไม่มีเฟอร์นิเจอร์ให้นะ เนื่องจากผู้ซื้อห้อง 1 Bed plusบางคนอาจต้องการดัดแปลงห้องนี้ไปทำอย่างอื่น เช่น ห้องทำงานเหมือนห้องตัวอย่างก็เป็นไปได้ ดังนั้นเฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้ถึงไม่มีครับ

Kitchen

โครงการนี้ชุดครัวจะอยู่หน้าห้องครับ โดยจะเป็นครัวเปิด สำหรับ Spec ของห้องครัวนั้น Top ชุดครัวจะเป็นหินเทียม โดยหน้าบานจะเป็นลามิเนต ซึ่งจะมาพร้อมกับ Soft Close สำหรับฮูดดูดอากาศ เตาไฟฟ้า ซิงค์อ่างล้างจานและก๊อก Mex จะได้ไปหมดครับ สิ่งที่ผมชอบสำหรับชุดครัวก็คือชั้นวางของที่โครงการทำให้เหนือตู้เย็น นอกจากนี้โครงการกรุกระเบื้องให้ที่ผนังไว้ด้วย เวลาทำความสะอาดก็จะง่ายขึ้น สำหรับระบบดูดอากาศของโครงการนี้ไม่ใช่ Circulate แต่จะเป็นระบบที่ดูดแล้วไปปล่อยที่ระเบียงครับ อีก 1 หนึ่งส่วนที่ผมชอบมากก็คือทางโครงการ Built in ตู้เพื่อวางเครื่องซักผ้าให้ในส่วนครัวด้วยครับ ซึ่งภายในจะมีชั้นวางของเพิ่มมาให้ อ้อ! เกือบลืมโครงการนี้มีลิ้นชักให้วางรองเท้าบริเวณครัวให้อีกด้วยนะครับ ครบจริงๆ ในองค์รวมทุกอย่างสวยและดูดีหมด แต่อยากจะตินิดนึง เดี๋ยวจะหาว่ามีแต่ชมหุๆ คนในวงการจะทราบกัน หมดแล้วว่า  SC  เป็น Brand Love ของผม ที่ผมจะติก็คือบริเวณฝาครอบท่อดูดอากาศเหนือครัวน่าจะมีฟิลเลอร์ปิดสักหน่อย เพื่อความสวยงาม และถ้าเปลี่ยนกระเบื้องกรุผนังชุดครัวเป็นกระจกจะดีมากครับ แค่นี้ล่ะครับที่มาสะกิดตาผมเล็กน้อย นอกนั้นชอบหมดครับ

ปล.ลืมบอกว่าโต๊ะทานข้าวก็มีมาให้นะโดยตำแหน่งจะอยู่ติดกับครัวเลยครับหุๆ

Toilet

ในส่วนนี้ Spec ไม่ได้ฉีกออกมา เหมือนส่วนอื่นๆ ถามว่าสวยไหมก็ต้องตอบว่าสวยสิคร๊าบ Brand love อ่ะรู้จักมะ ผิดก็ถูกได้ พูดเล่นครับ ผมชอบจริงๆ กระเบื้องสวย สุขภัณฑ์สวย ที่วางของข้างชักโครกก็มีมาให้นะ ก๊อกอ่างล้างมือสวยดี แต่ทำไมไม่มี Rain shower ให้ แงๆ แค่จุดเดียวเอง ในองค์รวมภายในห้องน้ำนั้นถือว่าดูดี แต่ไม่ Outstanding ถ้าเทียบกับ Part อื่นๆ

Balcony

สวยงามไม่มีคอมเพรสเซอร์แอร์ให้เกะกะ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าออกได้จากห้องพลัสและห้องนอนอีกด้วยครับหุๆ

2 Bedroom

ชอบสองห้องนอนของโครงการนี้จัง เพราะขนาดกำลังดี โดยห้องตัวอย่างอยู่ที่ 55 ตารางเมตร จะเป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ การวาง layout ของห้องทำได้ดีมากครับ ไม่รู้สึกว่าเป็นห้องขนาด 55 ตารางเมตรเลยครับ มาดูกันครับว่าภายในมีดีอะไรบ้าง

Living room

ชอบหมดเลยครับงานเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในห้องนี้ ไม่ว่าจะเป็นโซฟาขนาดใหญ่ ชั้นวางทีวี โต๊ะกาแฟที่อยู่ตรงกลาง ดีไซน์สวยหน้าตาดี นอกจากนี้ในส่วนของห้องนั่งเล่นนั้น ทางโครงการ Built in ตู้ ห้องเก็บของอีกหลายจุด ดังนั้นห้องนี้จะไม่มีปัญหาเรื่องการเก็บของเลยครับ Highlight ของห้องนี้นอกจากจะเป็นห้องที่มาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างแล้ว จุดที่ผมชอบที่สุดไม่ใช่งานเฟอร์นิเจอร์นะ55 แต่เป็นประตูบานสไลด์ออกระเบียงครับ สูงเกือบ 3 เมตร ความกว้างเกือบจะ Wall to Wall อีกด้วยครับตอนแรกนึกว่า Saladaeng One 55  อย่างไรก็ตามในห้องตัวอย่างนั้นจะมีบางส่วนที่ทางโครงการแต่งเพิ่ม ซึ่งในห้องที่ซื้อหลายๆอย่างอาจจะไม่ได้จริงทั้งหมด ควรสอบถามเพิ่มเติมจากเซลที่โครงการก่อนนะครับว่าอะไรได้บ้าง

Master bedroom

จุดขายของห้องนี้ยังคงเหมือนห้องแบบ 1 bed plus ครับ นั่นคือความสูงของห้อง 3 เมตรและกระจกหน้าต่างมาแบบ L-Shape โดยขนาดของกระจกนั้นยังคง ตูมๆ เหมือนเดิมครับ นอกจากนี้ใครที่มีเสื้อผ้าเยอะน่าจะถูกใจห้องนี้ เนื่องจากตู้เสื้อผ้าที่ให้มาแบบเกินพอดีมากครับ อย่างไรก็ตาม หน้าบานของตู้เสื้อผ้าสำหรับ 2 ห้องนอนจะไม่ใช่กระจกนะครับ เนื่องจากตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าบริเวณเตียงนอนพอดี สรุปแล้วก็คือเรื่องฮวงจุ้ยนั่นแหละครับ

Master Toilet

ไม่ได้ขี้เกียจเขียนนะครับแต่สเปคจะเหมือนกับ 1 Bed plus ทุกประการเลยครับ โครงการนี้ห้องน้ำใน 2 ห้องนอนจะไม่ได้พิเศษกว่า 1 ห้องนอนครับ

Bed room 2

ถึงจะเป็นห้องนอนเล็กแต่ขนาดใช้ได้เลยครับ โดยห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้ แบบสบายๆ สำหรับ Highlight ของห้องนี้ยังคงหนีไม่พ้นห้องกระจกหน้าต่างบานใหญ่ และที่สำคัญ Wall to wall อีกด้วยครับ อย่างไรก็ตามถ้าใครชอบหน้าบานตู้เสื้อผ้าแบบกระจกอาจจะเสียใจ เพราะห้องนี้ได้หน้าบานแบบ Laminate ครับ สำหรับเหตุผลที่ได้หน้าบาน Laminate ก็คือตู้เสื้อผ้าอยู่บริเวณข้างเตียง ซึ่งจะเหมือนกับ 2 ห้องนอนเลยครับ

Toilet 2

Layout อาจจะต่างจากห้องน้ำ Master แต่ Spec ทุกอย่างนั้นเหมือนกันหมดเลยค๊าบ

Kitchen

ถ้าพูดถึง Spec ยังคงเหมือน 1 Bed plus  แต่ที่แตกต่างจะเป็น Layout ที่ใหญ่กว่า ซึ่งมาพร้อมกับโต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่งครับ ความจริงลืมชมเก้าอี้ของโต๊ะทานข้าวตอนรีวิว 1 Bed plus  ที่จะชมเพราะว่าเก้าอี้สวยดีและเป็นไม้จริงด้วยนะครับ  Design และ สีนั้นใช้ได้เลยครับหุๆ

Balcony

ระเบียงของห้องนี้จะอยู่ที่ห้องนั่งเล่นแล้วนะครับ ความแตกต่างของระเบียงของ 2 Bedroom กับ 1 Bed plus ก็คือ ตำแหน่งที่วาง Compressor แอร์ของ 2 Bedroom จะไม่แขวนเหมือน 1 Bed plus แต่จะตั้งอยู่ตรงระเบียง โดยเหตุผลที่ไม่แขวนก็คือทางโครงการอยากจะให้ประตูบานสไลด์ของห้องนั่งเล่นสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งไซด์ของประตูบานสไลด์ของโครงการนี้สูงเท่า Saladaeng One เลยครับ  Saladaeng One เป็น Segment super luxury ของ Sc Asset ครับ

Copy link
Powered by Social Snap