Analysis investment potential
ลงทุนระยะสั้น
ถึงโครงการนี้จะอยู่ไม่ลึกเท่า The Tree ลาดพร้าว 15 แต่ส่วนตัวแล้วการจะซื้อ/ใบจอง เพื่อเล่นรอบระยะสั้น เต้มองว่าช่วงนี้น่าจะเพลาๆ สักหน่อย เพราะโอกาสที่จะโดนนั้นดูเหมือนจะมากกว่าได้
ซื้อลงทุนระยะยาว
ถ้าโครงการทำงานส่วนกลางและภายในห้องออกมาได้ปังจริงๆ ก่อนโอนอาจจะมีโอกาสปล่อยของได้ แต่ขอห้องตารางเมตรแปดหมื่นถึงเก้าหมื่นต้นๆ นะ แต่ราคาก็จะไปช้าๆ หน่อยเพราะเป็นโครงการในซอย (ที่ค่อนข้างเงียบ) ดังนั้นอยากให้มองว่าการซื้อเพื่อขายต่อ เป็นเพียงผลพลอยได้ละกันครับ
ซื้อเพื่อปล่อยเช่า
ผมมองว่าอาจจะได้เรื่อยๆ ถ้าทีมรีเซล/เช่า ของ The Origin ดี ที่ผมพูดแบบนี้เนื่องจากโครงการอยู่ในซอยที่ค่อนข้างเงียบ หลังจากที่โครงการขายหมดไปแล้ว หลายๆ คนอาจจะไม่รู้จักโครงการนี้ ดังนั้นถ้าได้ทีมรีเซลที่เก่งและดี ก็สามารถพาคนมาที่โครงการได้ สำหรับค่าเช่าผมมองว่าถ้าเป็นเรทที่ปล่อยได้ง่าย1 ห้องนอนประมาณ 24.xx ตารางเมตร น่าจะได้ค่าเช่าประมาณ 10,000-12,000 บาทครับ
ซื้อเพื่ออยู่เอง
เป็นโครงการที่ Spec ห้องค่อนข้างดีรวมทั้งมีการผสมผสาน Technology สมัยใหม่ไว้ในห้องไม่ว่าจะเป็นHome Automation ที่มี Function ต่างๆ มากมายDigital Door Lock ก็สามารถสร้าง One Time password ได้อีกด้วย นอกจากนี้ ส่วนกลางใหญ่และเยอะมากถ้าเทียบกับโครงการที่มีจำนวนยูนิตเท่ากัน ใครที่มี Budgetในการซื้อคอนโดประมาณ 2 ล้านต้นๆ ทำงานในเส้น MRTจะใช้รถส่วนตัวก็ได้ หรือ MRT ก็ดี ชอบความเงียบสงบ เพราะโครงการนี้มีเพียง 163 ยูนิต จัดไปครับ ดิ ออริจิ้น ลาดพร้าว 15
In the end
ทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยครับสำหรับงานส่วนกลางของโครงการนี้ อาจจะไม่ใช่แนวเรียบหรู แต่งาน Design จะออกแนว Modernเท่ห์ๆ และมาค่อนข้างหลากหลาย สำหรับ Spec ห้องของ Collectionนี้ ทำออกมาดี เหมือน The Origin Ram 209 Interchange พูดง่ายๆ ก็คือไม่ได้ดูถูกเลย ถ้าเทียบกับ The Base ของแสนสิริ หรือ Aspire ของ เอพี Spec ภายใต้ Brand ของ The Origin นั้นชนะขาด ถ้าลองมาเทียบกับพฤกษา ก็พอๆ กับ The Tree ของบางทีม แต่จะชนะขาดถ้าเทียบกับ Plum ทุกๆ ตัว ในภาพรวม ถ้าดูที่ Spec ห้อง ดิ ออริจิ้น ลาดพร้าว 15 จะมาค่อนข้างครบหมดทุกมิติ อย่างไรก็ตามบางคนแอบลังเลระหว่าง ดิ ออริจิ้น ลาดพร้าว 15 กับ ดิ ออริจิ้น รัชดา – ลาดพร้าว ไม่แน่ใจว่าโครงไหนดีกว่ากัน สำหรับเต้แล้วถ้ามองในแง่ของ Spec ห้อง ขอบอกว่าไม่ต่างเพราะใช้ Spec เดียวกัน ถ้ามองในแง่ของ Location เราก็ต้องมองกลับมาดูที่ราคา ว่างบเราไปได้แค่ไหน เพราะ ดิ ออริจิ้น ลาดพร้าว 15 กับ ดิ ออริจิ้น รัชดา – ลาดพร้าว ตัว Location นั้นถือว่าใกล้ๆ กันเลย แต่ของตัว รัชดา – ลาดพร้าว จะมีดีที่ใกล้รถไฟฟ้ามากกว่า ดังนั้นราคาเฉลี่ยจะสูงกว่าตัวลาดพร้าว 15 อยู่ที่ตารางเมตรละประมาณ 20,000 บาท ดังนั้นใครจะไปโครงการนั้นก็ขึ้นอยู่กับ Budget ของแต่ละคนแล้วล่ะค๊าบ
สิ่งที่ประทับใจ
- Spec ห้องที่มาครบแบบไม่มีที่ติไม่ว่าจะเป็นงานเฟอร์นิเจอร์ หรืองานกระจกหน้าต่าง
- Home Automation ที่มีให้ทุกห้อง
- Usb Charger มา Wireless Chargerมี
- Room layout ที่มีความหลากหลาย แปลกใหม่แต่ลงตัว
- ความหลากหลายของส่วนกลาง
- จำนวนยูนิตที่มีไม่มาก
- งาน Service แบบ First class service*
สิ่งที่ไม่ประทับใจ
- อาจจะไม่ถึงกับไม่ประทับใจ แต่ก็มี Concernนิดๆ เรื่องระยะห่างรถไฟฟ้า
- อยากได้ระบบดูดควันที่ห้องครัวแบบไปปล่อยที่ระเบียงแล้วอะ
*Hotel Service
Hotel Service On demand บริการทำความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นงานแม่บ้าน งานซักรีด งานทำความสะอาดห้องน้ำ ตอบโจทย์ความต้องการจัดการชีวิตให้สะดวกสบายมากขึ้น
- Facility Booking บริการจองพื้นที่ส่วนกลาง ผ่าน Mobile Application ตอบโจทย์ความ ’เข้าใจ’ ในการจัดสรรเวลาที่มีค่าของคุณ เพื่อให้คุณสามารถจัดสรรเวลาดีๆ ที่มีค่า ไปตามหา Passion ไปใช้ชีวิตในแบบของคุณ
- Super Maintenance Service บริการเรียกช่างเทคนิค ช่างซ่อม ช่างล้างแอร์ ช่างไฟ ตอบโจทย์ความเข้าใจในความต้องการให้คุณไม่ต้องมากังวลกับงานช่างที่ไม่ได้ถนัดอีกต่อไป
- Dine in Service บริการ SNACK และเครื่องดื่ม ผ่าน Machine ภายในโครงการ ให้ทุกมื้อที่คุณต้องการ สามารถสั่งผ่านปลายนิ้วได้ในพริบตา
- Smart Bill Pay บริการส่งบิลออนไลน์ และชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ผ่าน Mobile Application ลดเวลาความวุ่นวายที่ต้องเจอในทุกๆ เดือน
ดิ ออริจิ้น ลาดพร้าว 15 ตอนนี้ Sales Gallery เปิดให้เข้าชมแล้วนะค๊าบบบ อาจจะยังไม่เสร็จเรียบร้อย เพราะเปิดให้ชมอย่างเป็นทางการวันที่ 3 สิงหานี้ก็แอบๆไปดูอย่างไม่เป็นทางการก่อนได้ ส่วนใครที่สนใจโครงการอดใจรออีกนิ้ด ลงทะเบียนไว้ก่อนได้เลย https://bit.ly/2JIE2jn
เปิดจอง 31 สิงหานะครับ พร้อมกัน 2 โครง ทั้ง ดิ ออริจิ้น ลาดพร้าว 15 เริ่ม 1.79 ลบ. และ ดิ ออริจิ้น รัชดา – ลาดพร้าว เริ่ม 2.29 ล้านบาท ราคาถูกมาก